‘AiFi’ แพลตฟอร์ม AI เพื่อร้านค้าปลีกอัตโนมัติใหญ่สุดในโลก
การพัฒนาตัวเองตามเทคโลโนยีเป็นสิ่งที่ภาคธุรกิจต้องตามให้ทัน โดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีกที่มีคู่แข่งในโลกออนไลน์เป็นตัวแปรสำคัญ นอกจากนี้การที่ Amazon ซื้อกิจการ Whole Foods Market เพื่อก้าวรุกเข้ามาตลาดค้าปลีกออฟไลน์มากขึ้น และเริ่มทดลองเปิดให้บริการ Amazon Go ร้านขายของแบบอัตโนมัติ ก็เป็นความพยายามในการสร้างความแตกต่างของร้านค้าเช่นกัน ก่อนที่ล่าสุดจะมีร้านค้าปลีกอัตโนมัติใหญ่ที่สุดในโลกขนาด 400 ตารางฟุต (สินค้ามากกว่า 800 รายการ) เกิดขึ้นในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
โดยร้านค้าปลีกจะขับเคลื่อนด้วยแพลตฟอร์ม
Autonomous Store ของ AiFi ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเทคโนโลยีแบบ
All-in-One แห่งแรกในเอเชีย โดยมีกล้องหลายตัวช่วยติดตามลูกค้า จดจำผลิตภัณฑ์และติดตามสินค้าคงคลังแบบเรียลไทม์
พร้อมทั้งการชำระเงินที่ง่าย สะดวก และรวดเร็วผ่านแอปพลิเคชัน
ความแตกต่างระหว่าง Amazon Go กับ AiFi ก็คือ Amazon
Go นั้นเป็นส่วนหนึ่งในธุรกิจร้านค้าปลีกของ Amazon แต่ AiFi อยู่ในสถานะบริษัทซอฟต์แวร์ ซึ่งนำเสนอแพลตฟอร์มครบวงจรสำหรับร้านค้าปลีกอัตโนมัติ
ภายในบริเวณร้านจะมีเซนเซอร์ตรวจจับ
กล้องและซอฟต์แวร์ที่ควบคุมโดย AI ในการจดจำและบันทึกสินค้าที่ลูกค้าหยิบจับจากชั้นวาง การตัดยอดบัญชี และแสดงใบเสร็จดิจิทัลผ่านแอปฯ
เมื่อลูกค้าเดินออกจากร้าน
ซึ่งธุรกิจร้านค้าปลีกใดที่สนใจ
สามารถซื้อซอฟต์แวร์ตัวนี้ไปติดตั้งกับร้านค้าที่มีอยู่แล้ว
และเชื่อมโยงกับระบบอื่นๆ ในปัจจุบันได้เลย หรือจะสั่งให้ทาง AiFi สร้างและติดตั้งแพลตฟอร์มสำเร็จรูปนี้ ในร้านค้ารูปแบบตู้คอนเทนเนอร์ ‘นาโน สโตร์’ ก็ได้
สตีฟ กู่ (Steve Gu) ซีอีโอ AiFi
อธิบายถึงร้านค้าอัตโนมัติว่า
แพลตฟอร์มนี้คือหนึ่งในแนวทางช่วยลดการสัมผัสและการแพร่กระจายเชื้อไวรัสโควิด 19 นอกจากนี้ยังช่วยลดแก้ปัญหาต่อคิวของร้านค้าปลีกแบบเก่า สามารถหยิบแล้วเดินออกจากร้านได้เลย โดยระบบจะแจ้งรายการสินค้าที่เลือกซื้อ จำนวนเงิน พร้อมกับการจ่ายเงินผ่านแอปพลิเคชัน
ระบบอัตโนมัติในร้านค้าของ AiFi เป็นการผสมผสานปัญญาประดิษฐ์ (AI), การประมวลผลแบบรวดเร็วและเทคโนโลยีฟิวชั่นเซ็นเซอร์
ช่วยให้ดำเนินการได้โดยไม่ต้องรอคิวชำระเงิน ซอฟต์แวร์ AiFi จะระบุผลิตภัณฑ์ที่ผู้ซื้อนำออกจากชั้นวาง โดยใช้กล้องและเซ็นเซอร์เพื่อกำหนดการซื้อ
แต่หากสินค้าที่นำออกจากชั้นวางถูกใส่กลับก็จะไม่ถูกเรียกเก็บเงิน นอกจากนี้จะไม่มีการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลรวมถึงเซิร์ฟเวอร์ต่างๆ
ที่อยู่ในบริเวณร้านด้วย
AiFi สามารถจัดเก็บข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าได้ด้วย
ตั้งแต่การสินค้าที่เลือกซื้อ
ไปจนถึงเวลาที่แต่ละคนใช้ในการตัดสินใจก่อนหยิบสินค้าแต่ละชิ้นจากชั้นวาง
ร้านที่เซี่ยงไฮ้เป็นสาขาที่ 3 ของ AiFi ถัดจากสนามบินนานาชาติสคิปโพล ประเทศเนเธอร์แลนด์ และร้าน ‘นาโน สโตร์’ ในแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา อนาคตอันใกล้ AiFi มีแผนนำซอฟต์แวร์ไปติดตั้งในร้านค้าปลีก Wundermart ประเทศเนเธอร์แลนด์อีก 20 แห่งในเดือนหน้า
AiFi เป็นบริษัทซอฟต์แวร์แทนและขายเทคโนโลยี
AI ให้กับผู้ค้าปลีกบุคคลที่สาม โดยการใช้กล้องหลายชุดเพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของลูกค้าในร้านค้า
ตรวจจับเมื่อลูกค้าหยิบสินค้าและวางลงเมื่อใด เพื่อให้ตะกร้าเสมือนของพวกเขาได้รับการอัพเดตโดยอัตโนมัติ
เมื่อลูกค้าออกจากร้าน AiFi จะส่งใบเสร็จดิจิทัลผ่านแอปฯ ในสมาร์ทโฟนทันที
การระบาดของโควิดเร่งความต้องการให้เกิด ‘ร้านค้าปลีกอัตโนมัติ’ เพราะผู้คนตระหนักถึง
"ความจำเป็น" ในการจับจ่ายแบบไม่ต้องสัมผัส การเว้นระยะห่างทางสังคมว่ามีความสำคัญแค่ไหน
นอกเหนือจากความสะดวกสบายที่ได้รับ
แหล่งอ้างอิง :
https://www.businessinsider.com/
สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<<