Aspera คลาวด์โซลูชั่น ‘ช่วยธุรกิจ’ ปรับการทำงานสู่ New Normal

เทคโนโลยีการแชร์ข้อมูลผ่านที่เก็บข้อมูลสาธารณะ กลายเป็นสิ่งจำเป็นต่อการทำงานแบบรีโมทหรือ Work From Home เพื่อให้เกิดการทำงานต่อเนื่องและลื่นไหลในการถ่ายโอนข้อมูลจากบุคคลสู่กลุ่มคน กลายเป็นสิ่งจำเป็นที่จะขาดไม่ได้ในการทำงานแบบรีโมทหรือทำงานที่บ้าน ซึ่งในระดับผู้ใช้งานทั่วไปคงรู้จักกันดีกับเทคโนโลยีช่วยถ่ายโอนหรือเก็บข้อมูล เช่น Google Drive, One Drive, Dropbox ที่เป็น Cloud Storage หรือ Cloud Computing (คลาวด์ คอมพิวติ้ง) ที่เกิดขึ้นมาเพื่อรองรับการทำงานของผู้ใช้งานแบบรอบด้าน ทั้งด้านระบบเครือข่าย การจัดเก็บข้อมูล การติดตั้งฐานข้อมูล และการใช้งานซอฟต์แวร์เฉพาะด้านในธุรกิจต่างๆ โดยที่ผู้ใช้บริการไม่จำเป็นต้องติดตั้งระบบทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ไว้ที่สำนักงาน สามารถเข้าถึงการใช้งานได้ด้วยการเชื่อมต่อกับระบบ Cloud Computing ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตตามความเร็วที่กำหนดไว้ของแต่ละค่ายที่ให้บริการ

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

Aspera เป็น Cloud ซอฟต์แวร์สำหรับถ่ายโอนไฟล์ด้วยความเร็วสูงจากค่าย IBM ที่เข้ามาช่วยให้สามารถจัดเก็บข้อมูลในปริมาณที่ไม่จำกัดได้ทั้งในแบบถาวรหรือสำรองข้อมูล เหมาะสำหรับธุรกิจ เช่น เว็บไซต์, แอปพลิเคชั่นมือถือ และการรองรับการทำงานด้านการการรับส่งไฟล์ขนาดใหญ่ ผ่านการสื่อสารกับคนกลุ่มใหญ่ในสไตล์ Private YouTube channel ที่ช่วยตอบโจทย์องค์กร ให้สามารถบริหารจัดการกับทำงานแบบ remote ได้อย่างลื่นไหล

ใช้แชร์ข้อมูลส่งไฟล์ขนาดใหญ่ได้แบบไม่สะดุด สามารถอัพโหลดไฟล์ได้อย่างรวดเร็วมีการปรับปรุงการทำงานเวอร์ชันล่าสุด ให้มีความเร็วกว่าเดิมสูงสุดถึง 100 เท่า แม้แต่ใช้อินเตอร์เน็ตบ้านความเร็วต่ำส่งไฟล์ระดับ 10 GB ก็ใช้เวลาแค่เพียง 1.4 นาที จึงรองรับการใช้งานความเร็วของอินเตอร์เน็ตตั้งต้นได้ทุกระดับ แม้แต่การใช้อินเตอร์เน็ตมือถือก็ไม่สะดุด

ด้วยเทคโนโลยีความเร็วระดับชั้นนำจึงทำให้องค์กรสามารถถ่ายทอดและสื่อสารกับคนกลุ่มใหญ่ หรือพนักงานทั้งบริษัทได้อย่างคล่องตัวด้วยคุณภาพ ความเร็วและความปลอดภัยระดับโลก ที่ได้รับความไว้วางใจและเป็นที่นิยมอย่างมากในสถานีโทรทัศน์ระดับโลกอย่าง ESPN, Fox, HBO, NBC, NBA Network, NFL และช่องทีวีชั้นนำของไทย

รวมถึงหน่วยงานทางการแพทย์ที่ใช้เทคโนโลยี Aspera ส่งไฟล์ MRI, CT Scan ขนาดใหญ่ยักษ์ รวมถึงบริษัทชั้นนำระดับโลกเช่น VMWare, World Bank และ NASA ก็เลือกใช้เทคโนโลยีนี้ ทำให้องค์กรสามารถปรับตัวรองรับฝ่าวิกฤติให้ Fight Crisis ได้อย่างราบรื่น กับเทรนด์การทำงานที่กำลังจะเปลี่ยนไปสู่ Remote Working มากยิ่งขึ้นในอนาคตอันใกล้

นอกจากนี้เทคโนโลยี Aspera จาก IBM ยังรองรับการสื่อสารกับคนกลุ่มใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการประชุมพนักงานทั้งบริษัท หรือการเปิดตัวผลิตภัณฑ์จัดอีเวนท์ออนไลน์ รวมถึงการถ่ายทอดสดแบบ Video Streaming บน Private Channel ก็สามารถรองรับผู้ชมที่เข้าชมพร้อมกันได้มากกว่า 1 ล้านคนแบบไม่มีสะดุด

โดยมีงานเปิดตัว Playstation 4 ที่มีผู้เข้าชมผ่านทาง Video Streaming เป็นหลักล้านมาแล้วเป็นเครื่องการันตี นอกจากนี้ยังมีการนำเทคโนโลยี Aspera ไปใช้กับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของ Tesla ที่มีคนเข้าชมหลายแสนคน แบบกำหนดกลุ่มผู้ชมและเปิดให้จัดคิวสอบถามหรือทำโพลแบบเรียลไทม์

รวมถึงรับชมย้อนหลังพร้อมกับเทคโนโลยี AI ที่จะมาช่วยแปลงเสียงเป็น text เก็บข้อมูลภาพและเสียงเพื่อนำมาวิเคราะห์ในการทำตลาดให้ตอบโจทย์ต่อไปได้อีกด้วย ซึ่งในขณะนี้ทาง IBM พร้อมให้ผู้ประกอบการไทยลงทะเบียนใช้ฟรี 90 วัน ที่ https://www.ibm.com/cloud/aspera  / https://video.ibm.com/product/streaming-manager-online-video-platform

แหล่งอ้างอิง

https://www.marketingoops.com/tech-2/ibm-fight-crisis/ 

https://mgronline.com/cyberbiz/detail/9630000047716  

สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<< 

8 วิธีปรับสมดุลชีวิตและทำงาน Work From Home

แนวทางปฏิบัติของธุรกิจเฮลท์แคร์ สู่วิถี New Normal