มารู้จัก! โควิดสายพันธุ์ ‘เบงกอล’ ที่คร่าชีวิตคนอินเดีย

ไวรัสโควิด 19 สายพันธุ์ที่ระบาดในอินเดีย หรือ “เบงกอล” เชื้อกลายพันธุ์ชนิดใหม่ที่ถูกพบครั้งแรกในรัฐเบงกอลตะวันตก ทางภาคตะวันออกของประเทศอินเดีย ก่อนลุกลามแพร่กระจายอย่างรุนแรงในกรุงนิวเดลี  รัฐมหาราษฎระ และอีกหลายรัฐใหญ่ ส่งผลทำให้มีผู้ติดเชื้อไวรัสมรณะสะสมทำสถิติโลกพุ่งเกือบทะลุ 20 ล้านคนและเสียชีวิตเกือบ 2 แสนศพไปแล้ว

บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านโรคโควิดสายพันธุ์ใหม่ดังกล่าวต่างก็หวั่นวิตกว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์เบงกอลจะสร้างความหายนะให้ประเทศอินเดียอย่างหนักและอาจจะลุกลามไปทั่วโลก หากไม่รีบยกระดับมาตรการเข้มข้นสกัดกั้น

เนื่องจากเชื้อดังกล่าวมีความรุนแรงกว่าสายพันธุ์อื่นๆ ที่มีโอกาสติดเชื้อง่ายมากขึ้น อีกทั้งยังตรวจสอบหาเชื้อยากมาก กลายเป็นต้นเหตุทำให้ชาวอินเดียติดเชื้อนับแสนคน เสียชีวิตหลายพันคนต่อวัน และกำลังทวีความรุนแรงทั่วอินเดียและยังลุกลามไปยังประเทศใกล้เคียง

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

เชื้อโควิดวิวัฒนาการกลายพันธุ์ 3 ตำแหน่ง

เชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ “เบงกอล” มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า B.1.618 เป็นเชื้อโควิด 19 กลายพันธุ์ 3 ตำแหน่ง (triple mutant variant) ในหนามแหลมโปรตีน คือ กรดอะมิโน H146 และ Y145 ได้หายไป แต่เกิดการกลายพันธุ์สองตำแหน่งที่ E484K และ D614G ในโปรตีนที่เป็นหนามแหลม โดยก่อนหน้านี้เชื้อโควิดกลายพันธุ์คู่ (double mutant variant) ถูกตั้งชื่ออย่างเป็นทางการว่า B.1.617 ซึ่งถูกพบการกลายพันธุ์ 2 ตำแหน่งที่ E484Q และ L452R โดยนักวิทยาศาสตร์พบครั้งแรกในรัฐมหาราษฎระของอินเดีย

ผู้เชี่ยวชาญด้านโรควิทยาของอินเดีย เชื่อว่า การแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของโรคโควิด 19 ระลอกสองในอินเดียปัจจุบันนี้มาจากเชื้อโควิดกลายพันธุ์คู่ จนกระทั่งต่อมามีการพบเชื้อโควิดกลายพันธุ์ 3 ตำแหน่ง ในรัฐเบงกอลตะวันตก จึงทำให้นักวิทย์เชื่อว่ามันคือวิวัฒนาการจากเชื้อโควิดกลายพันธุ์สองตำแหน่ง ที่มารวมเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งสาเหตุที่โควิดกลายพันธ์ 2 จุดเป็น 3 จุดเกิดจากชาวอินเดียนไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิดอย่างเคร่งครัด

สายพันธุ์เบงกอลรุนแรงกว่าสายพันธุ์อื่น

นักวิทยาศาสตร์อินเดียได้ตรวจพบเชื้อโควิดกลายพันธุ์ 3 ตำแหน่ง จำนวน 2 สายพันธุ์แล้วในผู้ป่วย 4 รัฐของอินเดีย คือ รัฐมหาราษฎระ กรุงนิวเดลี เบงกอลตะวันตก และรัฐฉัตตีสครห์ ทำให้หลายฝ่ายกำลังวิตกกังอย่างหนักว่า เชื้อโควิดกลายพันธุ์ 3 ตำแหน่งนี้จะมีความร้ายกาจมากกว่าเชื้อโควิดกลายพันธุ์คู่ ที่องค์การอนามัยโลกเตือนก่อนหน้านี้ว่ามันเป็นเชื้อโควิดที่น่ากังวลเป็นอย่างยิ่ง

สอดคล้องกับความคิดของ มาเรีย แวน เคิร์กฮอฟ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคด้านโควิดขององค์การอนามัยโลก (WHO) ได้สะท้อนความคิดเห็นถึงเชื้อโควิดกลายพันธุ์คู่ว่า เป็นเชื้อที่ WHO กำลังติดตามอย่างใกล้ชิดและน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง เนื่องจากขณะนี้พบการแพร่ระบาดในหลายประเทศทั่วโลก เช่น อินเดีย ออสเตรเลีย นามิเบีย นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ซึ่งตามรายงานที่ได้รับจากรัฐบาลอินเดีย ระบุว่า เชื้อโควิดกลายพันธุ์สองตำแหน่งมีความสามารถในการแพร่ระบาดได้มากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว

เขากล่าวว่า “ทุกวันนี้ลำพังเชื้อโควิดกลายพันธุ์คู่หรือกลายพันธุ์สองตำแหน่งนั้น บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านโควิดที่เฝ้าติดตามจับตา ต่างออกมาแสดงความเห็นว่ามันมีอนุภาพของความร้ายกาจมากกว่าเชื้อโควิดก่อนหน้า เพราะมันมีประสิทธิภาพในการแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น ตรวจสอบยากยิ่งขึ้นไปอีก เนื่องจากไวรัสมรณะตัวนี้มีนมีความสามารถในการหลบหลีกแอนติบอดีในร่างกายของมนุษย์ได้ดีขึ้นกว่าเดิม ทำให้บรรดานักวิทยาศาสตร์กำลังเฝ้าติดตามเชื้อโควิดกลายพันธุ์ 3 ตำแหน่งอย่างใกล้ชิดด้วยความกังวลมากขึ้น ว่าจะแพร่กระจายรุนแรงกว่าโควิดกลายพันธุ์คู่ สร้างกังวลให้กับนักวิทยาศาสตร์ว่า วัคซีนต้านโควิด 19 ที่กำลังถูกพัฒนากันอยู่ในปัจจุบันนี้จะสามารถต้านทานมันอยู่หรือไม่”

จากสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด 19 กลายพันธุ์สายพันธุ์เบงกอลในอินเดีย ได้ทำให้อินเดียต้องเผชิญกับวิกฤตเลวร้ายอย่างหนัก ขาดแคลนออกซิเจน ผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล ระบบสาธารณสุขล่มสลาย จนเกรงว่าอาจมีคนตายเป็นใบไม้ร่วง ทำให้หลายประเทศทั่วโลกต้องออกมาประกาศมีคำสั่งห้ามผู้เดินทางมาจากประเทศอินเดียเดินทางเข้าประเทศแล้ว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์อินเดีย

ส่วนประเทศที่ยังไม่มีมาตรการดังกล่าว กลายเป็นเป้าหมายใหม่ของกลุ่มเศรษฐีชาวอินเดียอพยพครอบครัวหลบหนีไวรัสมรณะ ด้วยการเช่าเหมาลำเครื่องบินไปพำนักในต่างประเทศเป็นการชั่วคราว โดยเฉพาะนครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม รวมทั้งประเทศต่างๆ

ข้อมูลอ้างอิง : indiatoday / Aljazeera / businessinsider / timesofindia