ราคาเมล็ดกาแฟในตลาดโลกพุ่งสูงสุดในรอบ 65 ปี: เมื่อเครื่องดื่มประจำวันเริ่มไม่ธรรมดาอีกต่อไป

Bnomics
10/05/2025
รับชมแล้วทั้งหมด 2 คน
ราคาเมล็ดกาแฟในตลาดโลกพุ่งสูงสุดในรอบ 65 ปี: เมื่อเครื่องดื่มประจำวันเริ่มไม่ธรรมดาอีกต่อไป
banner

ก่อนที่กาแฟจะกลายเป็นธุรกิจพันล้าน หรือไอเทมประจำโต๊ะทำงานของคนเมืองทั่วโลก ต้นกำเนิดของมันเริ่มต้นอย่างเรียบง่ายจากทุ่งหญ้าในเอธิโอเปียเมื่อกว่า 1,200 ปีก่อน


เมื่อคนเลี้ยงแพะชื่อ “คาลดี” สังเกตว่าแพะกระโดดไม่หยุดหลังจากกินผลไม้สีแดงจากต้นไม้ประหลาด นั่นคือกาแฟ — เครื่องดื่มที่ต่อมาจะเดินทางจากแหล่งกำเนิดในเอธิโอเปียสู่เยเมน ผ่านเส้นทางการค้าอาหรับ และกลายเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมในโลกอิสลามช่วงศตวรรษที่ 15 จากนั้นขยายไปสู่ยุโรปในศตวรรษที่ 17 ก่อนที่ชาติมหาอำนาจในยุคอาณานิคม เช่น ฮอลแลนด์ ฝรั่งเศส และอังกฤษ จะนำกาแฟไปปลูกในอาณานิคมต่างๆ ในเอเชีย แอฟริกา และลาตินอเมริกา


ในศตวรรษที่ 19–20 กาแฟกลายเป็น “สินค้าส่งออกหลัก” ของประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะในลาตินอเมริกา เช่น บราซิล และโคลัมเบีย ส่วนเวียดนามเพิ่งเข้าสู่วงการผู้ผลิตในช่วง 1990 และสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้ส่งออกโรบัสต้าอันดับหนึ่งของโลก

?จากฝิ่นสู่ฟาร์มกาแฟ: ต้นทางกาแฟไทย

แม้กาแฟจะเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยตั้งแต่ช่วงต้นรัตนโกสินทร์ แต่ “กาแฟไทย” เพิ่งเริ่มมีบทบาทจริงจังในฐานะพืชเศรษฐกิจเมื่อไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในปี 2515 เมื่อ “โครงการหลวง” ภายใต้การริเริ่มของในหลวงรัชกาลที่ 9 ส่งเสริมให้ชาวเขาในภาคเหนือปลูกกาแฟพันธุ์อาราบิกาแทนฝิ่น ด้วยเป้าหมายลดการปลูกพืชเสพติด และยกระดับคุณภาพชีวิตในถิ่นทุรกันดาร


แม้ไทยจะไม่ได้อยู่แถวหน้าของผู้ผลิตโลก แต่กาแฟไทยกลับโดดเด่นเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพ การปลูกแบบยั่งยืน และการมี “ที่มา” ที่ชัดเจน กาแฟจากโครงการหลวงบางสายพันธุ์ เช่น ปางขอน ดอยช้าง หรืออินทนนท์ ได้รับการยอมรับในตลาด Specialty ทั้งในและต่างประเทศ กลายเป็นแบรนด์ที่เชื่อมโยง “ชุมชน–สิ่งแวดล้อม–คุณภาพชีวิต” เข้าด้วยกัน


จนกระทั่งเข้าสู่ศตวรรษที่ 20 กาแฟกลายเป็น "พืชเศรษฐกิจโลก" อย่างเต็มตัว หลายประเทศที่เคยเป็นเพียงผู้ผลิตวัตถุดิบเริ่มลุกขึ้นมาเป็น "เจ้าของแบรนด์" ด้วยตนเอง เช่น โคลอมเบียที่สร้างภาพลักษณ์ “กาแฟคุณภาพจากภูเขา” เอธิโอเปียที่เชื่อมโยงกาแฟกับอัตลักษณ์ท้องถิ่น และเวียดนามที่พลิกแผ่นดินให้กลายเป็น ‘โรงงานโรบัสต้า’ ของโลก


การเปลี่ยนผ่านเหล่านี้ไม่เพียงพลิกโฉมเศรษฐกิจของประเทศผู้ผลิต แต่ยังพลิกเกมตลาดกาแฟโลกให้ซับซ้อนและแข่งขันสูงขึ้น ในวันที่ดีมานด์ทั่วโลกยังคงพุ่งไม่หยุด ขณะที่ซัพพลายเริ่มหดหายจากภัยธรรมชาติและข้อจำกัดด้านแรงงาน 


ประเทศไทยเองกำลังยืนอยู่ที่ “ทางแยก” สำคัญ ว่าจะยังเป็นเพียงผู้บริโภคและผู้แปรรูป... หรือจะก้าวขึ้นสู่บทบาทใหม่ในห่วงโซ่กาแฟโลก


?สถานการณ์กาแฟ: เมื่อดีมานด์แรง แต่ซัพพลายเริ่มหาย

ทุกวันนี้ กาแฟไม่ใช่แค่พืชเศรษฐกิจ แต่เป็น “วัฒนธรรมโลก” ที่เชื่อมโยงผู้ผลิตรายย่อยในโลกใต้กับผู้บริโภคในเมืองใหญ่ทั่วโลก “กาแฟ” กำลังกลายเป็นสัญลักษณ์ของความเปลี่ยนแปลงในหลายมิติ — ตั้งแต่สภาพอากาศที่ปั่นป่วน ตลาดโลกที่แปรผัน ไปจนถึงวัฒนธรรมการบริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว สำหรับประเทศไทย โอกาสครั้งใหม่กำลังอยู่ตรงหน้า ถ้าเรากล้าขยับจาก “ผู้บริโภค–ผู้แปรรูป” ไปสู่ “เจ้าของแบรนด์” อย่างแท้จริง


1. ตลาดกาแฟโลก: ผลผลิตลดลง แต่การบริโภคพุ่งไม่หยุด

ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ปริมาณผลผลิตกาแฟโลกลดลงจาก 10.6 ล้านตัน เหลือเพียง 10.1 ล้านตัน (ปี 2566/67) โดยมีสาเหตุจากภัยแล้ง น้ำค้างแข็ง พายุ และโรคพืชที่รุนแรงขึ้น เช่น บราซิลเผชิญภัยธรรมชาติซ้ำซากจนผลผลิตอาราบิกาลดลงถึง 26.8% ส่วนเวียดนามก็ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักและน้ำท่วม


ขณะที่ความต้องการบริโภคกาแฟกลับโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในจีน อินเดีย และตะวันออกกลาง ตลาดเหล่านี้มีกลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่ที่เริ่มเปลี่ยนจากชาเป็นกาแฟมากขึ้น และมองกาแฟเป็นทั้งไลฟ์สไตล์และ “ต้นทุนในการมีสติ” ราคากาแฟจึงพุ่งขึ้นในระดับประวัติการณ์ — อาราบิก้าพุ่งแตะ 9.04 ดอลลาร์/กก. สูงสุดในรอบ 65 ปี ส่วนโรบัสต้าอยู่ที่ 5.81 ดอลลาร์/กก. สูงสุดในรอบ 48 ปี


2. สถานการณ์กาแฟไทย: ผลผลิตลด ความต้องการเพิ่ม

แม้ไทยจะมีพื้นที่เพาะปลูกกาแฟทั้งในภาคเหนือและภาคใต้ แต่ในปี 2567 ผลผลิตลดลงเหลือเพียง 16.6 พันตัน ลดลงจากปีก่อน เนื่องจากเกษตรกรบางส่วนโค่นต้นกาแฟเพื่อปลูกทุเรียนแทน อีกทั้งยังเผชิญภัยแล้งและอุณหภูมิสูงในช่วงออกดอก


ในทางตรงข้าม ความต้องการใช้เมล็ดกาแฟกลับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2568 คาดว่าจะสูงถึง 96.8 พันตัน ขณะที่ไทยยังต้องนำเข้าเมล็ดกาแฟกว่า 8 หมื่นตัน ส่วนใหญ่มาจากเวียดนาม ลาว และอินโดนีเซีย เพื่อใช้บริโภคและแปรรูปเป็นกาแฟสำเร็จรูป


แม้ไทยยังเป็น “ประเทศผู้นำเข้าสุทธิ” แต่มีข้อได้เปรียบด้าน “อุตสาหกรรมแปรรูป” โดยเฉพาะกาแฟสำเร็จรูปที่ไทยส่งออกไปยังอาเซียนและออสเตรเลียอย่างต่อเนื่อง


3. โอกาสของกาแฟไทย: ถึงเวลาเปลี่ยนจากผู้นำเข้า...สู่ผู้สร้างแบรนด์

ราคากาแฟที่สูงขึ้นทั่วโลก เปิดทางให้เกษตรกรไทยหันมาปลูกกาแฟเป็นพืชเศรษฐกิจมากขึ้น แต่การยกระดับต้องมาควบคู่ ทั้งด้านการเพิ่มผลผลิตต่อไร่ พัฒนาสายพันธุ์ที่เหมาะกับพื้นที่ และระบบการรับรองคุณภาพตามมาตรฐานสากล เพื่อดันกาแฟไทยสู่ตลาดพรีเมียม


ตลาดในประเทศยังโตแรง ผู้บริโภควัยทำงานนิยมกาแฟมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม Specialty Coffee และ Grab & Go การเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคและสร้าง “เรื่องเล่า” ที่เชื่อมโยงกับท้องถิ่น จะช่วยสร้างแบรนด์ที่มีมูลค่าและแตกต่างจากคู่แข่ง


โอกาสของไทยยังอยู่ที่การ “แปรรูปเพื่อส่งออก” โดยเฉพาะการพัฒนาโปรดักต์ที่ตอบรับ “การบริโภคเพื่อโลกที่ดีขึ้น” เช่น กาแฟเพื่อสุขภาพ บรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้ หรือระบบ Traceability ที่ผู้บริโภคสามารถรู้ที่มาของเมล็ดกาแฟได้อย่างโปร่งใส

?EUDR: กติกาใหม่ของตลาดโลกที่ไทยต้องเข้าใจ

ตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป สหภาพยุโรปเตรียมบังคับใช้กฎหมาย EU Deforestation Regulation (EUDR) ซึ่งกำหนดให้สินค้านำเข้า เช่น กาแฟ โกโก้ และไม้ ต้องไม่เกี่ยวข้องกับการตัดป่า หรือปลูกในพื้นที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศหลังปี 2020


นี่คือจุดเปลี่ยนสำคัญ: กาแฟไทยที่จะส่งออกไปยุโรปจะต้อง “ตรวจสอบย้อนกลับได้ถึงแปลงปลูก” พร้อมหลักฐานว่าไม่ละเมิดสิ่งแวดล้อม หากไทยปรับตัวทันและใช้เป็นจุดขายเรื่อง “กาแฟจากพื้นที่ปลอดการตัดไม้ทำลายป่า” ก็อาจแย่งชิงพื้นที่ในตลาดพรีเมียมได้อย่างชาญฉลาด


?กาแฟไม่ใช่แค่เครื่องดื่ม แต่คือสินค้าทางวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และภูมิรัฐศาสตร์

กาแฟไทยไม่ควรเป็นเพียงสินค้าเกษตรทั่วไปอีกต่อไป ถึงเวลาเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ ให้กาแฟไทยกลายเป็น “วัฒนธรรมแห่งนวัตกรรม” — ตั้งแต่เมล็ดพันธุ์จนถึงกาแฟแก้วโปรด

ความสำเร็จในเวทีโลกจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากไม่มี “พันธสัญญาร่วม” ของเกษตรกร ผู้ประกอบการ นักพัฒนา และภาครัฐ ในการเปลี่ยน “ความท้าทาย” จากราคาวัตถุดิบผันผวน แรงงานไม่เป็นธรรม และกฎระเบียบใหม่ ให้กลายเป็น “โอกาสที่ไม่เคยมีมาก่อน”

กาแฟไทยอาจไม่ต้องแข่งด้วยปริมาณ... แต่อาจเป็น “คุณภาพ – เรื่องเล่า – ความยั่งยืน – และการปฏิบัติจริง” ที่ทำให้โลกหันมามองเราต่างจากที่เคย

 

ผู้เขียน

กุสุมา ธะนะวงศ์  SPECIALIST

สราลี วงษ์เงิน  SPECIALIST



Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

ราคาเมล็ดกาแฟในตลาดโลกพุ่งสูงสุดในรอบ 65 ปี: เมื่อเครื่องดื่มประจำวันเริ่มไม่ธรรมดาอีกต่อไป

ราคาเมล็ดกาแฟในตลาดโลกพุ่งสูงสุดในรอบ 65 ปี: เมื่อเครื่องดื่มประจำวันเริ่มไม่ธรรมดาอีกต่อไป

ก่อนที่กาแฟจะกลายเป็นธุรกิจพันล้าน หรือไอเทมประจำโต๊ะทำงานของคนเมืองทั่วโลก ต้นกำเนิดของมันเริ่มต้นอย่างเรียบง่ายจากทุ่งหญ้าในเอธิโอเปียเมื่อกว่า 1,200…
pin
2 | 10/05/2025
Loan-to-Value 100% กับภารกิจฟื้นฟูตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยภายใต้เศรษฐกิจเปราะบาง

Loan-to-Value 100% กับภารกิจฟื้นฟูตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยภายใต้เศรษฐกิจเปราะบาง

ภาคอสังหาริมทรัพย์ของไทยมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ไม่เพียงในฐานะแหล่งที่อยู่อาศัยสำหรับประชาชนเท่านั้น หากแต่ยังมีความเชื่อมโยงกับภาคการจ้างงาน…
pin
18 | 04/04/2025
เศรษฐกิจไทยปี 2567 ฟื้นตัวจากปีก่อน แต่ยังเผชิญแรงกดดันจากการบริโภคที่ชะลอตัว

เศรษฐกิจไทยปี 2567 ฟื้นตัวจากปีก่อน แต่ยังเผชิญแรงกดดันจากการบริโภคที่ชะลอตัว

เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 4 ปี 2567 ขยายตัวร้อยละ 3.2 เร่งขึ้นจากร้อยละ 3.0 ในไตรมาสก่อนหน้า ปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการฟื้นตัวของภาคเกษตร…
pin
35 | 07/03/2025
ราคาเมล็ดกาแฟในตลาดโลกพุ่งสูงสุดในรอบ 65 ปี: เมื่อเครื่องดื่มประจำวันเริ่มไม่ธรรมดาอีกต่อไป