“น่าน” เป็นจังหวัดเล็ก ๆ ตั้งอยู่ทางตะวันออกสุดของภาคเหนือ และเป็นจังหวัดที่แทบจะถูกลืมเลือนไปจากนักท่องเที่ยว จนเมื่อ “กาแฟ น่าน” ถือกำเนิดขึ้นมาเมื่อ 10 กว่าปีก่อน เป็นสายพันธุ์อาราบิก้าที่ปลูกบนภูเขาสูงที่มีภูมิอากาศเย็นชื้นตลอดปี ปลุกให้กาแฟน่านส่งกลิ่นหอมรัญจวนออกจากขุนเขาอันสลับซับซ้อนมาสู่เมืองใหญ่
ปัจจุบันน่านกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวเมืองรองที่กำลังฮอตฮิตเที่ยวได้ทั้งปี จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวมีหลายแห่งทั้งดูทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าที่ดอยเสมอดาว สัมผัสวิถีชาวบ้านบ่อเกลือ กระซิบรักโรแมนติกแบบบ้าน ๆ ที่วัดภูมินทร์
แต่ไม่ว่าจะไปที่ใดก็ตาม ทุกที่จะต้องมี “กาแฟ” ใหม่สดส่งกลิ่นหอมเชื้อเชิญนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนให้ลองนั่งลงแล้วจิบกาแฟน่านที่ปลูกโดยคนน่าน พร้อมกับชมวิวทิวทัศน์ธรรมชาติอันสวยงามไปด้วย เพราะถ้าคุณไม่ได้แวะจิบกาแฟน่านสักแก้วจากร้านกาแฟที่ตั้งกันทุกมุมเมืองน่าน นั่นแสดงว่าคุณยังมาไม่ถึงน่านอย่างสมบูรณ์
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
กาแฟน่าน เป็นพืชเศรษฐกิจที่ทำรายได้ให้คนน่านจนสามารถพลิกชีวิตของเกษตกรจน ๆ ให้มีรายได้ดีขนาดจับเงินแสนเงินล้านทีเดียว จากการปลูกกาแฟ การคั่วเมล็ดกาแฟ ตลอดจนการเปิดร้านกาแฟ และการมีแบรนด์กาแฟเป็นของตัวเอง
ความพิเศษของกาแฟน่านคือเป็น “กาแฟสร้างป่า” เพราะมีการส่งเสริมให้ชาวเขาและเกษตรกรปลูกกาแฟซึ่งเป็นไม้ยืนต้นแทนการทำลายป่าเพื่อใช้ปลูกข้าวโพด หลายแห่งปลูกกาแฟพันธุ์อาราบิก้าใต้ร่มไม้ในเขตป่า นอกจากไม่ต้องตัดไม้ใหญ่แล้ว ต้นกาแฟที่โดนแดดน้อยจะให้ผลผลิตช้าแต่จะให้เมล็ดกาแฟที่มีกลิ่นหอมเข้มมากขึ้น
คอกาแฟที่มาน่านคงต้องพิสูจน์อัตลักษณ์ของกาแฟน่านที่มีหลากหลายสายพันธุ์ที่ผ่านการคั่วด้วยมือแบบบ้าน ๆ จนกลายมาเป็นชื่อแบรนด์ที่รู้จัก อาทิ ลาเปียน ของบ้านสันเจริญ, ภูสันคอฟฟี่, วิสาหกิจชุมชนดอยมณีพฤกษ์ อันเลื่องชื่อ, เดอม้ง ดอยมณีพฤกษ์, Gem Forest ดอยมณีพฤกษ์, ดอยสกาด, ภูพัน ๙ อ.บ่อเกลือ, บ้านห้วยโทน อ.บ่อเกลือ และบ้านห้วยขวาก อ.บ่อเกลือ ส่วนโรบัสต้าจะมีเพียง “ภูมิใจ๋คอฟฟี่ฟาร์ม” ที่นำสายพันธุ์จากชุมพรมาปลูกบนเขาของจังหวัดน่านเป็นผลสำเร็จ
และที่สุดของกาแฟน่านคือสายพันธุ์ “เกอิชา” ซึ่งเป็นสุดยอดกาแฟสายพันธุ์สเปเชี่ยล พรีเมี่ยม ที่นำมาจากปานามา และถูกนำเข้ามาปลูกที่ดอยมณีพฤกษ์เมื่อปี 2547 ปัจจุบันขายกันที่ราคากิโลละ 8,000 บาท
เมื่อมีกาแฟกลิ่นหอมอร่อยแล้ว ก็ต้องแนะนำร้านกาแฟที่ควรคู่หน่อย ถ้าไปปัว อย่าลืมแวะนอนจิบกาแฟชิลล์ๆที่ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ ของบ้านลำดวน ร้านกาแฟสุดเก๋ ใน อ.ปัว จ. ที่ล้อมรอบไปด้วยวิวสวยๆ ของทุ่งนาเขียวขจีในหน้าฝน ส่วนหน้าอื่นๆ ก็จะปลูกทุ่มดอกไม้สีสันสดสวย
ลูกค้าแต่ละคนเมื่อได้เมนูกาแฟตามต้องการแล้วก็จะเดินไปตามทางเดินไม้ไผ่ที่ยกสูงจากพื้นดิน เพื่อมองหา “ขนำ” หรือเพิงมุงจากที่ปลูกกลางทุ่งนา นั่งจิบกาแฟท่ามกลางธรรมชาติและสายลมเย็น ๆ ซึ่งเป็นจุดขายของร้านนี้ จิบกาแฟเสร็จเดินไปกินข้าวซอยที่เปิดอยู่ใกล้ๆ และแวะซื้อเสื้อผ้าพื้นเมืองราคาไม่แพงติดมือกลับบ้านเป็นที่ระลึก
สำหรับคอกาแฟที่อยากทำความรู้จัก "กาแฟน่าน" อย่างลึกซึ้งแต่ไม่มีเวลามากนัก ขอแนะนำให้ไป “ร้านเฮือนฮังต่อ กาแฟน่าน” ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอเมือง ความพิเศษของร้านนี้คือรวบรวมเมล็ดกาแฟทุกดอยของน่านไว้ครบ พร้อมบอกเล่าความเป็นมาและรสชาติของแต่ละสายพันธุ์พร้อมข้อแนะนำในการดื่ม ใครอยากลองสายพันธุ์ไหนเลือกได้ตามใจชอบ บรรยากาศของร้านก็ร่มรื่น มีมุมจิบกาแฟหลายอารมณ์ให้ลูกค้าเลือกตามอัธยาศัย
ปิดทริปเสน่ห์กาแฟน่านที่อยากจะบอกว่าถ้ามีอยากจะหาสถานที่ชิลล์พักผ่อนละก้อ next station ควรเลือกไปจิบกาแฟน่านดีกว่า