ผลกระทบจากโควิด 19 ทำให้หลายภาคส่วนกังวลสถานการณ์ว่างงานในประเทศ
โดยเฉพาะการว่างงานของบัณฑิตจบใหม่ในปี 2564 เกือบ 500,000 คน อาจจะเข้าสู่การว่างงานแบบถาวร
เพราะการจ้างงานในประเทศน้อยลงจนส่งผลให้ตลาดแรงงานไม่พอรองรับผู้ที่สำเร็จการศึกษาใหม่
เพราะนายจ้างมีปริมาณงานลดลง ปิดกิจการ ลดขนาดองค์กร
สถานประกอบการหลายแห่งปรับเปลี่ยนรูปแบบการจ้างงานจากเต็มเวลา เป็นการจ้างงานแบบ Part-time ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม สถานกาณ์ยังไม่ดูเลวร้ายเสมอไป เพราะยังมีหลากหลายอาชีพที่ตลาดยังคงต้องการสูงในขณะนี้ โดยรายงานของ จ๊อบไทย (JobThai) ผู้ให้บริการหางาน สมัครงาน ออนไลน์ เปิดเผยข้อมูลความต้องการแรงงานขององค์กรในจ๊อบไทยแพลตฟอร์ม พบว่า องค์กรมีความต้องการแรงงานในช่วงครึ่งปีแรกรวมกันอยู่ที่ 303,776 อัตรา (เป็นการนับจำนวนอัตราแบบไม่ซ้ำกัน) ซึ่งมีการเปิดรับสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์อยู่ที่ 124,629 อัตรา แต่ในช่วงเดือนมีนาคม–เมษายนการจ้างงานลดลง 16.5% เทียบกับเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่การระบาดของไวรัสโควิด 19 เริ่มมีตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงขึ้นและกระจายวงกว้างมากขึ้น ทำให้ธุรกิจต่างๆ ได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่วนด้านผู้ใช้งาน หางาน สมัครงาน มีการใช้งานมากกว่า 11 ล้านคน เติบโตขึ้น 7.5% ซึ่งมีการสมัครงาน 8,876,727 ครั้ง เติบโตขึ้น 31.0% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
นางสาวแสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์ ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าผู้บริหารด้านปฏิบัติการจ๊อบไทย (JobThai) เปิดเผยว่า
ทิศทางของตลาดแรงงานจากนี้ไปคาดว่าจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยดูสถิติช่วงต้นเดือนกรกฎาคม
พบว่า สายอาชีพที่มีแนวโน้มเปิดรับเพิ่มขึ้น ได้แก่ Freelance, อาจารย์/ครู, แพทย์/เภสัชกร/สาธารณสุข
สำหรับการหางานสมัครงานในจ๊อบไทยมีการเติบโตขึ้นมาก
ซึ่งจ๊อบไทยได้ออกฟีเจอร์การค้นหางานที่ให้ทำงานที่บ้านได้ (Work from
Home) และค้นหางานที่เปิดรับสัมภาษณ์ออนไลน์ เพื่อสร้างความสะดวก
ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการและคนหางานด้วย
หากแบ่งข้อมูลออกเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงก่อนระบาดหนัก (มกราคม-กุมภาพันธ์) ช่วงระบาดหนักและล็อกดาวน์ (มีนาคม-เมษายน) และช่วงคลายล็อกดาวน์ (พฤษภาคม-มิถุนายน) พบว่า ช่วงระบาดหนักและล็อกดาวน์ มีสายงานเดียวที่เปิดรับคนเพิ่มขึ้น คือแพทย์/เภสัชกร/สาธารณสุข เพิ่มขึ้น 0.5% ส่วนช่วงคลายล็อกดาวน์ มีการเปิดรับ Freelance เพิ่มขึ้น 36.4%
สำหรับสถานการณ์ความต้องการแรงงานและพฤติกรรมความต้องการของผู้สมัครงานทั่วประเทศ
ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563 ดังนี้
5 ประเภทธุรกิจมีความต้องการแรงงานมากที่สุด
1. อาหาร-เครื่องดื่ม 58,724 อัตรา แม้การผลิตในอุตสาหกรรมอาหารไตรมาสที่ 1 ปี 2563
จะปรับตัวลดลง (ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม) แต่ผู้บริโภคยังคงมีการใช้จ่ายในหมวดสินค้าและบริการที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน
ทำให้ประเภทธุรกิจนี้ยังคงมีความต้องการแรงงานมาเป็นอันดับแรก
ซึ่งลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 22.9%
2. บริการ 44,750 อัตรา ความต้องการแรงงานในธุรกิจประเภทนี้ จะเป็นธุรกิจบริการที่นอกเหนือจากธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากภาคท่องเที่ยว
เช่น ธุรกิจบริการทำความสะอาด ธุรกิจบริการด้านระบบ ธุรกิจบริการฝึกอบรม
3. ก่อสร้าง 41,353 อัตรา โดยอุตสาหกรรมก่อสร้างเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ผู้ประกอบการยังคงสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้
แม้ภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างจะมีแนวโน้มหดตัวตามเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงมาก
ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์บางส่วนเลื่อนการเปิดตัวโครงการใหม่ออกไป
แต่การก่อสร้างโครงการภาครัฐยังคงมีแรงขับเคลื่อนจากโครงการเมกะโปรเจกต์คมนาคม
เช่น โครงการรถไฟฟ้า โครงการรถไฟความเร็วสูง โครงการสนามบิน โครงการท่าเรือ
โครงการมอเตอร์เวย์
ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของสํานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
4. ยานพาหนะ/ชิ้นส่วนยานยนต์ 39,883 อัตรา ผลจากการระบาดของไวรัสโควิด 19
ได้ส่งผลกระทบต่อยอดการจำหน่ายและการผลิตรถยนต์ในประเทศและการส่งออกให้ชะลอตัวลง
และยังกระทบต่อเนื่องไปยังผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ผู้ผลิตอุปกรณ์ตกแต่งภายในรถยนต์
รวมถึงตัวแทนจำหน่าย (ที่มา : สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย)
แม้ธุรกิจนี้จะอยู่ในห้าอันดับแรกที่ต้องการแรงงานมาก แต่เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนพบว่าความต้องการแรงงานลดลงถึง
31.8%
5. ค้าปลีก 37,482 อัตรา ธุรกิจค้าปลีกโดยรวมมีผลกระทบค่อนข้างมาก
ยกเว้นสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นต้องใช้ในการดำรงชีวิต เช่น
อาหารและของใช้ส่วนตัว ทำให้ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ
ยังคงมีความต้องการแรงงาน
5 ประเภทธุรกิจที่มีความต้องการแรงงานน้อยที่สุด
1. ธุรกิจท่องเที่ยว 1,690 อัตรา การระบาดของไวรัสโควิด 19
ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจรุนแรงขึ้นในทุกด้าน
โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่หดตัวรุนแรงหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยที่มีประกาศใช้มาตรการจํากัดการเดินทางระหว่างประเทศ
ซึ่งความต้องการแรงงานในธุรกิจนี้ลดลงถึง 65.8%
เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย)
2. ธุรกิจความบันเทิง 2,075 อัตรา
เป็นอีกอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศปิดสถานที่สาธารณะต่างๆ
ประกอบกับมาตรการควบคุมโรค โดยห้ามการจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มคนเป็นจำนวนมาก
รวมถึงการถ่ายทำภาพยนตร์ ละคร ซีรีย์ โฆษณา
3. ธุรกิจกระดาษ/เครื่องเขียน 2,200 อัตรา
ธุรกิจกระดาษที่เกี่ยวเนื่องกับสื่อสิ่งพิมพ์มีความต้องการลดลง
ส่วนธุรกิจกระดาษที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์แม้มีความต้องการใช้เติบโตขึ้น
แต่โดยภาพรวมจะเห็นว่าธุรกิจนี้อยู่ในกลุ่มที่มีความความต้องการแรงงานน้อยเมื่อเทียบกับธุรกิจอื่นๆ
ในจ๊อบไทยแพลตฟอร์ม
4. ธุรกิจโรงแรม/Resort/Spa/สนามกอล์ฟ 2,820 อัตรา จากมาตรการควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด 19
ทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติในไทยลดลง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจที่กลุ่มนี้
ทำให้ธุรกิจกลุ่มนี้มีการจ้างงานลดมากที่สุด โดยลดลงถึง 75.7%
เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
5. ธุรกิจอัญมณี/เครื่องประดับ 3,092 อัตรา การผลิตและจำหน่ายอัญมณีและเครื่องประดับปรับตัวลดลง
เนื่องจากการผลิตเพื่อการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศลดลง
ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบสองธุรกิจที่สภาอุตสาหกรรมประเมินว่าเป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมาก
5 สายงานที่องค์กรเปิดรับมากที่สุด
อันดับหนึ่ง ฝ่ายขาย คิดเป็น 19.9%
อันดับสอง ช่างเทคนิค คิดเป็น 10.3%
อันดับสาม ผลิต/ควบคุมคุณภาพ คิดเป็น
7.9%
อันดับสี่ วิศวกร คิดเป็น 5.8%
อันดับห้า ธุรการ/จัดซื้อ คิดเป็น
5.7%
5 สายงานที่คนสมัครมากที่สุด
อันดับหนึ่ง ธุรการ/จัดซื้อ คิดเป็น
12.7%
อันดับสอง ฝ่ายขาย คิดเป็น 9.5%
อันดับสาม ผลิต/ควบคุมคุณภาพ คิดเป็น
9.1%
อันดับสี่ งานบุคคล/ฝึกอบรม คิดเป็น 6.2%
อันดับห้า ขนส่ง-คลังสินค้า คิดเป็น
6.1%
สำหรับนักศึกษาจบใหม่ในปีนี้ต้องเผชิญกับภาวะความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ดังนั้นต้องมีการปรับตัวอยู่เสมอเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงและพร้อมรับมือกับอนาคต
สำหรับสายงานที่เปิดรับนักศึกษาจบใหม่ มีดังนี้
5 สายงานที่องค์กรเปิดรับนักศึกษาจบใหม่
วุฒิปริญญาตรีมากที่สุด
อันดับหนึ่ง ฝ่ายขาย คิดเป็น 23.3%
อันดับสอง บริการ คิดเป็น 11.8%
อันดับสาม ธุรการ/จัดซื้อ คิดเป็น
9.0%
อันดับสี่ วิศวกร คิดเป็น 7.2%
อันดับห้า ช่างเทคนิค คิดเป็น 7.1%
5 สายงานที่นักศึกษาจบใหม่ วุฒิปริญญาตรีสมัครมากที่สุด
อันดับหนึ่ง ธุรการ/จัดซื้อ คิดเป็น
15.8%
อันดับสอง วิศวกร คิดเป็น 10.3%
อันดับสาม ฝ่ายขาย คิดเป็น 9.5%
อันดับสี่ ผลิต/ควบคุมคุณภาพ คิดเป็น
8.0%
อันดับห้า บริการ คิดเป็น 7.1%
เมื่อดูข้อมูลเชิงลึกในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
พบว่า
5
ประเภทธุรกิจที่มีความต้องการแรงงานลดลงมากที่สุดเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี
2562
อันดับหนึ่ง ธุรกิจโรงแรม ลดลง 75.7%
อันดับสอง ธุรกิจท่องเที่ยว ลดลง
65.8% อันดับหนึ่งและสองเป็นผลกระทบโดยตรงการท่องเที่ยวที่หดตัวรุนแรง
อันดับสาม ธุรกิจที่ปรึกษา ลดลง 38.9%
อันดับสี่ ธุรกิจสิ่งทอ ลดลง 37.9%
อันดับห้า ธุรกิจนำเข้า-ส่งออก ลดลง
36.6%
5
ประเภทธุรกิจที่ได้รับผลกระทบทางลบน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2562 พบว่า
อันดับหนึ่ง ธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม
รับเพิ่ม 38.7%
อันดับสอง ธุรกิจพลังงาน รับเพิ่ม
0.3%
อันดับสาม ธุรกิจคอมพิวเตอร์/ไอที
ลดลง 5.2%
อันดับสี่
ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์/เครื่องใช้ในบ้าน ลดลง 9.0%
อันดับห้า ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ ลดลง 9.4%
แหล่งที่มา : จ๊อบไทย (JobThai)