สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา หรือโควิด 19 (COVID-19) ส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกถดถอยครั้งใหญ่ ไม่ว่าธุรกิจขนาดใหญ่ กลาง หรือเล็ก ต่างก็โดนพิษโควิด 19 เล่นงาน จากเหตุการณ์ครั้งนี้เราต้องยอมรับว่ามีผู้ประกอบการหลายรายสู้ไม่ไหวจนต้องปิดตัวไป แต่ก็มีหลายรายที่รู้จักปรับตัวจนค่อยๆ พยุงธุรกิจให้กลับมามียอดขายได้อีกครั้ง Bangkok Bank SME จึงขอพามาศึกษา 6 บทเรียนสำคัญจากวิกฤตโควิด 19 มาดูกันว่าธุรกิจ SME ได้ข้อคิดอะไรบ้าง
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
1. ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน
ธุรกิจ SME ล้วนประสบปัญหาแบบที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดขึ้นจากการระบาดของโควิด 19 ธุรกิจมีลูกค้าน้อยลง ยอดขายตก หรือไม่สามารถเปิดร้านได้ชั่วคราว ส่งผลให้รายได้ที่เคยมีและน่าจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ กลับลดลงจนไม่พอกับรายจ่าย และต้องเร่งปรับตัวเพื่อความอยู่รอดกันยกใหญ่ ดังนั้นสิ่งที่เราทุกคนควรปรับตัวเพื่อ "ไปต่อ" คือการมองหาช่องทางหรือพัฒนาทักษะเพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติม เช่น ขายของออนไลน์ ทำอาหารขาย ขับรถส่งของ สอนพิเศษ หรืองานอื่นๆ จากความสามารถพิเศษของเรา เพื่อให้มีรายได้มากกว่าหนึ่งทาง เพราะเมื่อรายได้จากงานหลักลดลง รายได้เสริมเหล่านี้ อาจช่วยบรรเทาปัญหาที่เกิดจากความไม่แน่นอนในชีวิตที่เกิดขึ้นได้
2. ร้านค้าออนไลน์แหล่งรายได้สำคัญ
จากเดิมที่ลูกค้ารักในความสะดวกสบายอยู่แล้ว เมื่อมีการแพร่ระบาดของโควิด
19 ที่ลูกค้ากลัวที่จะออกบ้านหรือเดินทางไปจับจ่ายใช้สอย ธุรกิจขนาดเล็กก็หันมาให้ความสำคัญกับอีคอมเมิร์ซหรือเว็บไซต์ขายของออนไลน์กันมากขึ้น
เพราะนี่เป็นหนึ่งในไม่กี่ช่องทางที่จะช่วยให้ร้านกับลูกค้าเข้าถึงกันได้
ซึ่งแม้โควิด 19 จะจบไป ร้านค้าออนไลน์ก็ยังคงเป็นแหล่งรายได้ที่ผู้ประกอบการจะต้องมีควบคู่กับหน้าร้าน เพราะลูกค้าบางกลุ่มก็จะยังไม่วางใจ 100% ที่จะออกมาซื้อของหรือช้อปปิ้งหลังวิกฤตินี้อยู่ดี ดังนั้น SME ต้องตระหนักในเรื่องนี้ด้วย
3. ธุรกิจควรให้ความสำคัญสูงกับเงินสดหรือสภาพคล่อง
วิกฤตที่ส่งผลกระทบที่ยาวนานและยังมีความไม่แน่นอนในระยะเวลาของการสิ้นสุดลง คำสั่งซื้อที่ลดลงทำให้ธุรกิจ SME ขาดรายรับ แต่ธุรกิจมีต้นทุน ไม่ว่าจะค่าจ้างพนักงาน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าสำนักงาน ธุรกิจจึงจำเป็นต้องเพิ่มสภาพคล่องและกระแสเงินสด เพื่อเตรียมรับวิกฤตในอนาคต การมีวินัยทางการเงินของผู้ประกอบการในช่วงเวลาปกติ เป็นเรื่องสำคัญในการสร้างความยืดหยุ่นและภูมิคุ้มกันต่อวิกฤติในอนาคตได้ดีขึ้น เช่น การจัดทำบัญชีที่มีมาตรฐานและการมีบัญชีเดียว การเพิ่มสัดส่วนการใช้เงินสดในการประกอบธุรกิจแทนการมีระดับการกู้หนี้ที่สูงเกินไป
4. ความเชื่อมั่นและใส่ใจลูกค้ายังสำคัญเสมอ
ไม่ว่าจะก่อนหรือหลังโควิด 19
การมีตัวตนของร้าน และการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ก็ยังเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญเสมอมา
ซึ่งร้านอาหารเองสามารถทำได้หลายช่องทาง เช่น แจกใบปลิว มีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า
อัพคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดีย ให้ความรู้
หรือจะแชร์เบื้องหลังการเตรียมส่งของและเตรียมอาหารแต่ละจานก็ได้
เมื่อลูกค้าเห็นถึงความใส่ใจ พวกเขาก็จะวางใจและสั่งสินค้าหรืออาหารจากร้านมากขึ้น
นอกจากนี้คุณอาจจะต้องมองหากลยุทธ์การตลาดใหม่ๆ เพื่อดึงดูดลูกค้า สร้างโปรโมชั่นพิเศษช่วงล็อกดาวน์ มีเซ็ตครอบครัว ส่งเซอร์ไพรส์ลูกค้า แจกฟรีสินค้า ขนม หรือเครื่องดื่มเล็กๆ น้อยๆ เพื่อสร้างความประทับใจ ให้ลูกค้าเห็นว่าไม่ใช่แค่พวกเขาที่อยากซัพพอร์ตร้านโปรด แต่ร้านก็ต้องการซัพพอร์ตลูกค้าด้วยเช่นกัน
5. ปรับโมเดลการทำงานช่วงวิกฤตให้สอดรับการสถานการณ์
วิกฤตโควิด 19 ส่งผลให้องค์กรต้องปรับแนวทางในการทำงาน
ทั้งการทำงานที่บ้าน (Work From Home) ในลักษณะงานที่ทำได้
และงานในโรงงานที่จำเป็นต้องปิดโรงงานชั่วคราว
หรือเปิดโรงงานแบบมีการรักษาสุขอนามัยในที่ทำงานอย่างเคร่งครัด
รวมถึงปรับแนวทางการให้บริการลูกค้าอย่างเหมาะสม เช่นเพิ่มพื้นที่ทางกายภาพระหว่างพนักงานกับลูกค้า ติดตั้งฉากกั้นกระจกหน้าพนักงานเก็บเงิน หรือใช้เทปที่พื้นเพื่อระบุช่องว่างระหว่างลูกค้าเข้าแถวรอ รวมถึงการติดต่อกับลูกค้า เช่น จัดส่งสินค้าแบบไม่สัมผัส ณ จุดที่กำหนด และตัวเลือกการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์แบบไม่ต้องสัมผัส
6. มองสถานการณ์รวมและต้องรู้จักปรับตัว
ธุรกิจ SME ต้องเรียนรู้ในการมองสถานการณ์ให้เป็นตั้งแต่เนิ่นๆ
รู้จักสัญญาณเตือนต่างๆ เพื่อจะได้ปรับตัวเร็ว เพื่อที่ไม่ว่าจะเจอสถานการณ์ไหน SME
ก็ไปต่อได้
วิกฤตโควิด 19 ทำให้เห็นแล้วว่าร้านค้าออนไลน์และบริการ Food Delivery แทบจะเป็นช่องทางหลักทางเดียวในการขาย เพราะฉะนั้นผู้ประกอบการจะต้องทำเว็บออนไลน์ให้น่าสนใจ
ส่วนร้านอาหารก็ต้องเข้าร่วมบริการแพลตฟอร์มส่งอาหารเดลิเวอรี่ที่น่าเชื่อถือ
รวดเร็ว และมีค่าดำเนินการที่เหมาะสม หากผู้ประกอบการคนไหนมองเกมออกตั้งแต่เนิ่นๆ
แล้ววางแผนและลงมือทำเร็ว ไม่ว่าสถานการณ์ไหนๆ ก็เอาตัวรอดได้
แม้ในอนาคตอันใกล้นี้ภาคธุรกิจจะยังคงได้รับความยากลำบาก
รวมถึงปัญหาต่างๆ ที่จะผ่านเข้ามา อาจทำให้เหนื่อยและท้อใจบ้าง
แต่อุปสรรคเหล่านี้จะเป็นเหมือนบททดสอบที่ทำให้ SME ได้เรียนรู้มากขึ้น รู้จักลงมือวางแผนการป้องกัน-แก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
ก็จะช่วยเพิ่มความเป็นไปได้สามารถเอาตัวรอดจากทุกวิกฤตที่เกิดขึ้นในอนาคตได้
แหล่งอ้างอิง :
https://www.bangkokbiznews.com/
สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<<