‘มนุษย์ขาวดำ’คำเปรียบเทียบพนักงานออฟฟิตในญี่ปุ่น ถ้าคุณทำงานในออฟฟิศญี่ปุ่น ขอให้เตรียมแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าแบบที่เป็นทางการ การแต่งกายของคนญี่ปุ่นจะสุภาพเรียบร้อย ทั้งโทนสี และลวดลายของผ้า ทั้งนี้จะเห็นได้ชัดว่า การแต่งกายที่เหมาะสม ของคนญี่ปุ่นจะเป๊ะมาก ยิ่งหากเป็นการออกไปพบปะกับลูกค้า คนญี่ปุ่นจะยิ่งต้องตรวจทานการแต่งให้ดูดี ตั้งแต่เสื้อผ้า เครื่องประดับ ทรงผม รองเท้า ให้ดูสุภาพและสะอาด ทั้งนี้เพื่อให้เกียรติแก่ผู้ที่เราจะไปพบและยังเป็นภาพลักษณ์ของบริษัทอีกด้วยแน่นอนว่าท่านผู้อ่านคงเคยเห็นคุ้นตา
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
กรณีที่น่าสนใจ คือ Coca-Cola Bottlers Japan Inc. ซึ่งมีพนักงานประมาณ 17,000 คนประกาศเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่าจะอนุญาตให้พนักงานออฟฟิศใส่กางเกงยีนส์ เสื้อยืด รองเท้าผ้าใบมาทำงานได้ แน่นอนกางเกงขาสั้น และรองเท้าแตะ ยังอยู่ในข่ายยกเว้น แต่ผลไม่ได้เป็นไปตามคาด มีพนักงานเพียง 3,700 คน ที่น้อมรับนโยบายการแต่งการที่ผ่อนคลายนี้
เรียกได้ว่างานนี้คนในออฟฟิตส่วนใหญ่ไม่เล่นด้วย ทั้งให้เหตุผลว่า เสื้อผ้าทำงานหมายถึงเครื่องแต่งกายที่พิจารณาว่าเหมาะสมกับงานแต่ละประเภทและมติทางสังคมในการปฏิบัติในที่ทำงาน ดังนั้นงานที่ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับสาธารณะหรือบุคคลที่อยู่นอกสถานที่ทำงานทันทีมักต้องการเครื่องแต่งกายกึ่งทางการที่สะท้อนถึงความจริงจังของพนักงานและการเคารพผู้อื่นด้วย ส่วนประเด็นรองลงมาคือ พนักงานส่วนใหญ่ไม่อยากโดดเด่นและตกเป็นเป้าสายตา นั่นคือวัฒนธรรมการทำงานในญี่ปุ่น ที่ไม่ใช่จะเปลี่ยนได้ง่าย
แน่นอนแนวคิดแบบนี้ ‘สตีฟจ็อบส์’ คงไม่เห็นด้วย เพราะแค่กางเกงยีนส์เสื้อยืด ก็มาทำงานในที่ Apple ได้ถ้าคุณเจ๋ง และหลายคนรู้จัก ‘สตีฟจ็อบส์’ จากการแต่งกาย เสื้อคอเต่าสีดำ กางเกงยีนส์ แว่นตาทรงกลม และรองเท้ากีฬา ซึ่งกลายเป็นยูนิฟอร์มที่สตีพใส่ทำงานเป็นประจำทุกวัน และนั่นเปรียบเหมือนเครื่องหมายการค้าของ ‘สตีฟจ็อบส์’ พอๆ กับแบรนด์ Apple ดังนั้นจะบอกว่าไม่ให้ความสำคัญต่อการแต่งกายคงไม่ได้
ตัวแม่แห่งวงการแฟชั่น ‘โคโค่ ชาแนล’ ผู้ให้กำเนิดแบรนด์แฟชั่นแถวหน้าของโลก เคยพูดไว้ “Dress shabbily and they remember the dress, dress impeccably and they remember the woman. ถ้าคุณใส่เสื้อผ้าที่ดูไม่ดีเขาจะจำเสื้อผ้า แต่ถ้าคุณใส่เสื้อผ้าที่ดูดีเขาจะจำคนใส่ ”
ก็น่าคิด ... ย้อนกลับมาบ้านเรา ในประเทศไทยยังคงถือสาเรื่องเครื่องแต่งกายที่เหมาะสม แม้ในปัจจุบันมีหลายองค์กรที่ให้พนักงานแต่งกายได้อย่างอิสระ แต่องค์กรที่ยังมีข้อกำหนดเรื่องการแต่งกายก็ยังคงมีอยู่ ยิ่งถ้าคุยไปคุยงานกับลูกค้า หรือ สัมภาษณ์งาน การแต่งกายจะเป็นสิ่งหนึ่งที่ลูกค้าหรือนายจ้างในอนาคตให้ความสำคัญ
ดังนั้น กาละเทศะ น่าจะเป็นจุดสมดุลของเรื่องนี้ ไปไหนมาไหน ติดต่อกับใคร หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมสังคม ภาวะอาชีพ การแต่งกายที่เหมาะสม จึงเป็นสิ่งสำคัญ จริงอยู่ความสามารถในการทำงานไม่ได้ชี้วัดจากชุดที่ใส่ แต่งตัวให้ถูกกาลเทศะงานทุกอย่างจะง่ายขึ้น เมื่อบุคคลที่เราพบเกิดความรู้สึกประทับใจ และมีความรู้สึกที่ดีกับตั้งแต่แรกเห็นทุกอย่างมันก็กลายเป็นเรื่องกล้วยๆ อีกทั้งยังช่วยเสริมให้เรามีความเชื่อมั่นจากภายในซึ่งสิ่งนี้จะส่งผลไปสู่บุคลิกภายนอก
เจอลูกค้าครั้งต่อไป แต่งตัวให้สุภาพ แอบเนี๊ยบนิดๆ น่าจะดี