ตลาดอีคอมเมิร์ซเกาหลีใต้ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องไม่ต่างจากประเทศอื่นๆ
ที่โลก โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยิ่งเป็นแรงส่งให้ตลาดอีคอมเมิร์ซโตแบบติดสปีด โดยคาดการณ์ว่าในปี 2563 จะมีการใช้จ่ายผ่านระบบออนไลน์ถึง 78,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้อัตราส่วนแบ่งตลาดในระบบการค้าผ่านออนไลน์นั้น 50%
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ
กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เปิดเผยรายงานว่า แอปพลิเคชั่นที่ชาวเกาหลีใต้นิยมใช้ในการซื้อสินค้าออนไลน์มากที่สุด
จากการสำรวจของ Wiseapp ซึ่งสอบถามจากกลุ่มตัวอย่าง
10,000 คน พบว่า
อันดับ 1.
Coupang
อันดับ 2. 11st
อันดับ 3. Wemakeprice
อันดับ 4. G-market
อันดับ 5. TMON
อันดับ 6. Carrot Market
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
โดยบริษัทผู้จัดทำแอปพลิเคชันยอดนิยม 4
บริษัท คือ Ticket Monster (TMON), Wemarkeprice, และ Coupang ก่อตั้งขึ้นในปี 2553 และลงทุนด้วยเม็ดเงินประมาณ 428 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ลงในระบบอีคอมเมิร์ช เมื่อปี 2557
ซึ่งมีผลให้ตลาดนี้เติบโตอย่างรวดเร็ว
ประกอบกับเกาหลีมีโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีและโทรคมนาคมที่ดีมากๆ อยู่แล้ว
สำหรับ Wemarkeprice และ Coupang เป็นธุรกิจเกี่ยวกับการจำหน่ายคูปอง
โปรโมชั่นสำหรับสินค้าและบริการต่างๆ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับ Groupon ตลาดอีคอมเมิร์ซออนไลน์ระดับโลกของสหรัฐอเมริกา ที่เชื่อมต่อสมาชิกกับพ่อค้าท้องถิ่น
โดยนำเสนอกิจกรรมการเดินทางสินค้าและบริการใน 15 ประเทศ
แต่โมเดลของทั้งสองบริษัทนี้สามารถไปเชื่อมโยงกับบุคคลที่ 3
ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งถือเป็นจุดแข็งคล้ายกับการให้บริการของ eBay
ด้วยการเติบโตแบบก้าวกระโดดทำให้ Coupang
ได้รับการยกระดับสถานะให้เป็น “สตาร์ทอัพ ยูนิคอร์น” ของเกาหลีใต้เมื่อปี
2557 และสามารถพัฒนาตัวเองด้วยการขายหุ้น IPO ออกสู่ตลาด กระทั่งได้รับขนานนามว่าเป็น Amazon ของเกาหลีใต้
ขณะที่ Wemarkeprice เพิ่งจะได้รับการยกระดับสถานะให้เป็นสตาร์ทอัพ
ยูนิคอร์นของเกาหลีใต้ เมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม คู่แข่งสำคัญของ Coupang
ในขณะนี้ คือ Woowa Brothers ซึ่งเป็นบริษัทผู้พัฒนาแอปพลิเคชันจัดส่งอาหาร ชื่อ Baedal Minjeok
(Baemin) และเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ได้รับการยกระดับสถานะเป็นสตาร์อัพ
ยูนิคอร์นของเกาหลีใต้ เมื่อปี 2561 แต่ภายหลัง Woowa
Brothers ได้ถูก Delivery Hero บริษัทสัญชาติเยอรมันซื้อกิจการไปเมื่อเดือนธันวาคม
2562 ด้วยมูลค่าถึง 4,000
ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งยิ่งทำให้ตลาดนี้แข่งขันกันอย่างดุเดือด โดย Baemin ได้พัฒนาบริการการจัดส่งสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีหลากหลายหมวดหมู่มากขึ้น และลดระยะเวลาให้ส่งถือมือผู้บริโภคได้รวดเร็วภายใน
1 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นการสร้างจุดแข็งที่สำคัญ
อนาคตการพัฒนาธุรกิจกลุ่มนี้ยังเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง
และโอกาสที่จะรุกสู่ตลาดอีคอมเมิร์ซเกาหลีใต้ยังเปิดกว้างรับสตาร์ทอัพหน้าใหม่ตลอดเวลา
ด้วยจำนวนประชากรที่มีมากถึง 50 ล้านคน
ความต้องการสินค้าและบริการที่หลากหลาย ทำให้เกิดธุรกิจออนไลน์ใหม่ๆ ต่อเนื่อง
เช่น
พ่อแม่อายุน้อยจะเข้าใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อนำสินค้าเสื้อผ้าและของใช้มือสอง
บริการจัดเตรียมอาหารสดใหม่ผ่านช่องทางออนไลน์สำหรับคุณแม่บ้านที่ทำงานนอกบ้าน
หรือการเปิดพื้นที่แบ่งปันภาพถ่ายออนไลน์สำหรับกลุ่มคนรักรองเท้าจนกลายเป็นตัวกลางของสินค้าสตรีทแฟชั่น
เป็นต้น
ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนว่าสมรภูมิอีคอมเมิร์ซแห่งนี้ คือประตูสู่โอกาสอย่างแท้จริงของนักธุรกิจสตาร์ทอัพของไทยด้วยหากสามารถเจาะเข้าไปสำเร็จ นี่จะเป็นช่องทางสำคัญอีกช่องทางหนึ่งที่จะช่วยการกระจายสินค้าไทยสู่ตลาดเกาหลีได้อีกช่องทางหนึ่ง
สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<<
InsurTech กับการปรับตัวสู่ยุคเทคโนโลยีและ New Normal
‘Medical valley’ แหล่งรวม HealthTech แห่งสแกนดิเนเวีย