500 บริษัทญี่ปุ่นลุยลงทุน EEC

SME Update
06/08/2019
รับชมแล้วทั้งหมด 14027 คน
500 บริษัทญี่ปุ่นลุยลงทุน EEC
banner

ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2562 กลุ่มนักลงทุนยังคงเชื่อมั่นในสภาวะเศรษฐกิจไทยดีขึ้นต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกของปีนี้ และรัฐบาลที่พร้อมที่จะขับเคลื่อนโครงการเมกะโปรเจ็กต์เดินไปข้างหน้าแบบไม่มีการสะดุด โดยเฉพาะโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี)ในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคตะวันออก ได้แก่  ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง ซึ่งมีกลุ่มนักลงทุนทั่วโลกสนใจเข้ามาลงทุนด้วยเป็นจำนวนมากเพื่อหนีวิกฤติสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน

โดย 5 เดือนแรกของปี 2562 กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) รายงานว่ามี 10 อุตสาหกรรมเข้าร่วมลงทุนด้วยทั้งหมด 39 โครงการ ยอดเงินลงทุน 16,133 ล้านบาท สูงกว่ายอดรวมทั้งปีในปี 2561 ที่มี 50 โครงการ ยอดเงินลงทุน 5,432 ล้านบาท และในปี 2560 ที่มี 51 โครงการ เงินลงทุน 12,497 ล้านบาท ซึ่งอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ขอประกอบกิจการใหม่และขยายกิจการ ได้แก่ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ มูลค่า 13,031 ล้านบาท รองลงมาเป็นอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต มูลค่า 2,599 ล้านบาท อุตสาหกรรมหุ่นยนต์และแขนกล มูลค่า 170 ล้านบาท อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ มูลค่า 170 ล้านบาท และอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร มูลค่า 162 ล้านบาท

EEC มีอะไรเข้าใจง่ายๆภายใน 5 นาที

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลค์ Facebook bangkokbanksme 


ญี่ปุ่นมิตรการค้า – การลงทุนสำคัญของไทย

กลุ่มนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่นยังคงรั้งอันดับ 1 เข้ามาลงทุนในประเทศไทย และมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ ปัจจุบันญี่ปุ่นเป็นคู่ค้า ซึ่งผลสำรวจขององค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น(เจโทร) ระบุว่า แนวโน้มทางเศรษฐกิจของบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทย ประจำครึ่งปีหลัง 2561 ได้สะท้อนว่านักธุรกิจและนักลงทุนญี่ปุ่นยังมีความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจไทย และต้องการลงทุนร่วมกันระหว่างเอสเอ็มอีของไทยและญี่ปุ่น

ทั้งที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ ได้รวบรวมข้อมูลสถิติ พบว่า ประเทศญี่ปุ่นมีความสำคัญในฐานะคู่ค้า และนักลงทุนอันดับต้น ๆ ของไทย โดยในปี 2561 ญี่ปุ่นเป็นคู่ค้าอันดับ 2 รองจากจีน เป็นตลาดส่งออกอันดับ 3 และเป็นแหล่งนำเข้าอันดับ 2 ของไทย

แต่หลังเกิดวิกฤติสงครามการประเทศญี่ปุ่นจะกลายเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย ส่วนไทยเป็นคู่ค้าอันดับ 6 ของญี่ปุ่น เป็นตลาดส่งออกอันดับ 6 และแหล่งนำเข้าอันดับ 8 ของญี่ปุ่น การค้ารวมไทย-ญี่ปุ่น ปี 2561 มีมูลค่า 60,201.49 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจาก 54,120.23 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ของปีก่อน โดยขยายตัว 11.24%

อย่างไรก็ตามการส่งออกของไทยไปญี่ปุ่นปี 2561 มีมูลค่า 24,941.87 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีมูลค่า  22,066.54 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือขยายตัว 13.03% สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปญี่ปุ่น ได้แก่ รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ,ไก่แปรรูป, เครื่องโทรสารโทรศัพท์อุปกรณ์และส่วนประกอบ, เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล ผลิตภัณฑ์พลาสติก, เครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์และส่วนประกอบ, เม็ดพลาสติก เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่นๆ ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องสำอาง สบู่และผลิตภัณฑ์รักษาผิว และเครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ เป็นต้น

สอดคล้องกับองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร กรุงเทพฯ) ได้รายงานผลสำรวจพบว่าบริษัทของญี่ปุ่นในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 30 พ.ค.-30 ก.ย. 2560 จำนวน 6,134 บริษัท แต่ได้รับการตรวจสอบยืนยันสถานะทำธุรกิจในไทย 5,444 บริษัท เพิ่มขึ้น 877 บริษัท จากที่ทำสำรวจครั้งก่อนปี 2557 พบว่าจำนวนบริษัทในอุตสาหกรรมการผลิตคิดเป็นสัดส่วน 43.09% หรือมี 2,346 บริษัท และอยู่ในอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่ภาคการผลิต 53.01% หรือมี 2,890 บริษัท ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภาคบริการ ธุรกิจที่พบมากสุด คือ การค้าส่ง 1,278 บริษัท รองลงมา การบริการเฉพาะทาง เช่น บริษัทที่ปรึกษา สำนักงานบัญชี กฎหมาน จัดหางาน รวมกัน 256 บริษัท

 โครงการพื้นฐานไทยดีที่สุดดึงทุนญี่ปุ่นอยู่หมัด

ทั้งนี้แนวโน้มการลงทุนในไทย ที่เป็นอุตสาหกรรมไม่ใช่ภาคการผลิตมีสัดส่วนมากกว่าอุตสาหกรรมการผลิตอย่างชัดเจน เทียบกับปี 2557 ซึ่งมีสัดส่วนใกล้เคียงกัน เมื่อดูขนาดบริษัทพบว่ามีบริษัทขนาดกลางและเล็กเข้ามาลงทุนในปี 2562 มากกว่าบริษัทใหญ่เทียบกับปี 2557 โดยเพิ่มขึ้น 432 บริษัท และ 404 บริษัท ตามลำดับ ในปี 2557 มีบริษัทกลางและเล็ก 1,427 บริษัท และใหญ่ 1,884 บริษัท พื้นที่การลงทุนบริษัทครึ่งหนึ่งลงทุนในกรุงเทพฯ ที่เหลือเป็นปริมณฑล

นอกจากนี้การลงทุนของบริษัทญี่ปุ่นโดยตรงในอาเซียน พบว่าการลงทุนสะสมจากอดีตถึงปีที่ผ่านมารวม 1.63 แสนล้านเหรียญสหรัฐ อันดับหนึ่งเป็นการลงทุนในประเทศไทย มูลค่าลงทุนสะสม 5.35 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ รองลงมาสิงคโปร์ 3.96 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ อินโดนีเซียมูลค่า 2.66 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เวียดนามมูลค่า 1.46 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ฟิลิปปินส์ มูลค่า 1.36 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ มาเลเซีย มูลค่า 1.26 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อพิจารณาเฉพาะในประเทศไทย ปี2561ที่ผ่านมาต่างชาติลงทุนโดยตรงในไทยรวมมูลค่า 1.97 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ชาติที่มาลงทุนในไทยมากสุด คือ ญี่ปุ่น คิดเป็นสัดส่วน 36.2% รองลงมาสิงคโปร์ 14.8% ยุโรป 14.3% สหรัฐ 7.7% ฮ่องกง 5.5% จีน 1.8%

นายฮิโรคิ มิทสึมะตะ ประธานเจโทร-กรุงเทพฯ กล่าวว่า“สาเหตุที่บริษัทญี่ปุ่นลงทุนในไทยเป็นอันดับแรก และเป็นอันดับ 1 ของชาติอาเซียน เพราะนโยบายส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐมีความชัดเจนและต่อเนื่อง ประเทศไทยไทยมีโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการลงทุนดีกว่าประเทศเพื่อนบ้าน โดยประเทศไทยมีนโยบายการค้าเสรีที่มีความต่อเนื่อง รวมถึงมีฐานการลงทุนของบริษัทญี่ปุ่นขนาดใหญ่เข้ามาลงทุนาตั้งแต่ 10 ปีที่ผ่านมา รองรับอยู่แล้วทำให้กลุ่มนักลงทุนจากญี่ปุ่นสามารถเข้ามาขยายธุรกิจทำได้ง่ายมากขึ้น”

 ทุนญี่ปุ่น 500 รายลงดูพื้นที่ EEC

ส่วนกลุ่มนักลงทุนจากญี่ปุ่นซึ่งเป็นบริษัทขนาดใหญ่ประมาณ 500 ราย ลงพื้นที่ดูงานระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ในช่วงที่ผ่านมา เชื่อว่าจะทำให้การลงทุน ในไทยของบริษัทญี่ปุ่นขยายตัวเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอนเพราะกลุ่มนักลงทุนมีความสนใจเข้ามาลงทุนด้วยเพราะสิทธิพิเศษมากมาย แต่ะมีหลายบริษัทที่ได้ทำแผนการลงทุนแล้วว่าจะทำอะไรบ้าง ซึ่งนักลงทุนญี่ปุ่นส่วนใหญ่มี ข้อกังวลเรื่องการขาดแคลนแรงงานมีฝีมือโดยเฉพาะวิศวกร นับว่าเป็นข้อกังวลใหญ่ของธุรกิจญี่ปุ่นอยู่ในปัจจุบัน แต่รัฐบาลไทยออกมายืนยันก่อนหน้านี้แล้ววิศวกรชาวไทยไม่ขาดแคลน


นายชินจิ นาคาโนะ ประธานหอการค้าญี่ปุ่น- กรุงเทพฯ ยืนยันด้วยตนเองหลังจากพบปะกับกลุ่มนักลงทุนชาติเดียวกัน เพราะรัฐบาลใหม่เป็นชุดเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายหลัก เช่น เรื่อง 4.0 แม้ตอนนี้จะเป็นรัฐบาลผสม แต่ทุกอย่างจะไปในทิศทางเดียวกัน การตั้ง คณะรัฐมนตรี(ครม.)เศรษฐกิจ จะทำให้ทุกอย่างอยู่ในกรอบเดียวกัน แต่ทางกลุ่มนักลงทุนญี่ปุ่นขอให้รัฐบาลดูแลเรื่องค่าแรง หากจะปรับขึ้นขอให้มีการหารือกันอย่างมีเหตุมีผล แม้ว่าช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้นักลงทุนญี่ปุ่นต่างรู้สึกกังวลการเมืองยังไม่ชัดเจน ปัญหาสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา และค่าเงินบาทที่แข็ง แต่หลังได้รัฐบาลใหม่ทำให้นักลงทุนจากญี่ปุ่นมองว่าครึ่งหลังของปีน่าจะดีขึ้น และเชื่อว่านักลงทุนประเทศอื่นคงรู้สึกเช่นเดียวกัน

 ที่ผ่านมารัฐบาลไทยให้การสนับนักลงทุนญี่ปุ่นมาลงทุนในอีอีซี มี 3 เรื่องที่สำคัญ คือ

1. ประเทศญี่ปุ่นคาดหวังให้ไทยขับเคลื่อนนโยบายอย่างต่อเนื่องจากนโยบายที่แล้ว โดยเฉพาะเรื่องไทยแลนด์ 4.0 เรื่องโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ

2. เรื่องนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่เศรษฐกิจโลกกำลังผันผวน และมีปัญหาเรื่องสงครามการค้าที่กำลังเกิดขึ้น ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลได้ให้ความมั่นใจกับญี่ปุ่นว่านโยบายต่างๆ จะก้าวไปข้างหน้า และประเทศไทยมีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐกิจขึ้น เพื่อให้นโยบายเศรษฐกิจดำเนินการไปอย่างมีประสิทธิภาพ

3. การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจของคนญี่ปุ่นในประเทศไทย เพื่อสร้างความสะดวกสบายในการดำเนินธุรกิจกับญี่ปุ่นต่อไป ทั้งเรื่องการลงทุน การคืนภาษี หรือการส่งสินค้าข้ามไปยังประเทศเพื่อบ้าน ซึ่งนายสมคิดได้ยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นนโยบายสำคัญของประเทศไทยอยู่แล้ว


รัฐบาลไทยมีนโยบายผลักดันอีอีซีเพื่อดึงดูดการลงทุน สนับสนุนอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ ทำให้บริษัทจากญี่ปุ่นและทั่วโลกได้รับประโยชน์จากสิทธิพิเศษมากมายรัฐบาลไทยมีนโยบายผลักดันอีอีซีเพื่อดึงดูดการลงทุน สนับสนุนอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ ทำให้บริษัทจากญี่ปุ่นและทั่วโลกได้รับประโยชน์จากสิทธิพิเศษมากมาย

ไทยพร้อมต้อนรับนักธุรกิจต่างชาติเข้าลงทุนใน EEC

หลายๆ เหตุผลที่ผู้ประกอบการต้องสนใจ EEC


Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

‘TikTok For All’ Update เทรนด์ใหม่ปี 2024 พร้อมกลยุทธ์เพิ่มโอกาส SME ไทยสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน

‘TikTok For All’ Update เทรนด์ใหม่ปี 2024 พร้อมกลยุทธ์เพิ่มโอกาส SME ไทยสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน

TikTok ตอกย้ำการเป็นแพลตฟอร์มเอนเตอร์เทนเมนต์ที่น่าเชื่อถือสำหรับทุกคน ทั้งครีเอเตอร์ คอมมูนิตี้ผู้ใช้งาน และธุรกิจทุกขนาดในไทย ด้วยการเปิดตัว…
pin
1232 | 14/02/2024
ทอดไม่ทิ้ง! เปลี่ยน ‘น้ำมันเหลือทิ้ง’ เป็น ‘น้ำมันเครื่องบิน’ โอกาสใหม่ SME ไทย เติบโตอย่างยั่งยืน

ทอดไม่ทิ้ง! เปลี่ยน ‘น้ำมันเหลือทิ้ง’ เป็น ‘น้ำมันเครื่องบิน’ โอกาสใหม่ SME ไทย เติบโตอย่างยั่งยืน

ขณะที่ยานพาหนะต่าง ๆ ทั้ง รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รถไฟ และเรือ ต่างมุ่งสู่การใช้เชื้อเพลิงพลังงานทดแทน ที่เป็นพลังงานสะอาดกันแล้ว แต่สำหรับการเดินทางโดยอากาศยาน…
pin
1591 | 26/01/2024
จับกระแส 'เทรนด์ธุรกิจ' ปี 2024 ใครได้ไปต่อ ใครมาแรง SME ไทยต้องรู้

จับกระแส 'เทรนด์ธุรกิจ' ปี 2024 ใครได้ไปต่อ ใครมาแรง SME ไทยต้องรู้

ปี 2024 นี้ ธุรกิจไหนมาแรง ธุรกิจไหนน่าจับตา เทรนด์ธุรกิจใดกำลังมาแรง Bangkok Bank SME สรุปมาไว้ในบทความนี้ เพื่อเป็นแนวทางแก่ SME และผู้ที่กำลังคิดจะเริ่มต้นทำธุรกิจทุกท่าน…
pin
1877 | 25/01/2024
500 บริษัทญี่ปุ่นลุยลงทุน EEC