ทุกวันนี้การทำธุรกิจ นี่จะอยู่แค่แต่ในออฟไลน์อย่างเดียวไม่ได้
เพราะคนส่วนใหญ่ใช้งานโซเชียลมีเดียเป็นหลัก ทำให้ถ้าอยากเข้าถึงกลุ่มคนมหาศาล ก็ต้องมีเฟซบุ๊ก
มีเพจของตัวเอง เป็นเหมือนสูตรสำเร็จเบื้องต้นในการทำธุรกิจเลยก็ว่าได้
แต่ตอนนี้โลกของเรากำลังเปลี่ยนไป
โซเชียลมีเดียที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจอย่างเฟซบุ๊กเอง ก็มีวันเสื่อมสลายเช่นกัน
โดยในแอปพลิเคชันเฟซบุ๊กนั้น มียอดดาวน์โหลดลดลงจากปีที่แล้วถึง 13% ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่เยอะมาก รวมทั้งโซเชียลมีเดียอย่าง
IG ก็ลดลง 9% เช่นกันเมื่อเปรียบเทียบกันปีที่ผ่านมา
ในทางกลับกัน แอปพลิเคชัน หรือโซเชียลมีเดียอื่นๆ อย่าง Twitter หรือ Snapchat กลับไม่เจอวิกฤตการณ์เดียวกัน แต่ยังคงมียอดดาวน์โหลดสม่ำเสมอ และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้นักการตลาดทั้งหลาย และคนที่ทำธุรกิจต้องเตรียมตัว เพราะนี่คือสัญญาณว่าในอนาคตถ้าเฟซบุ๊กเสื่อมความนิยมมากขึ้นจริงๆ เราจะใช้ช่องทางไหนในการทำการตลาดต่อไป
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
เล่นเฟซบุ๊กน้อยลง
มีเวลาอยู่กับคนรอบตัวมากขึ้น
หนึ่งในเหตุผลยอดฮิต ที่ทำให้คนแฮปปี้
หลังจากได้เลิกเล่นเฟซบุ๊กไปนั่นเพราะ พวกเขาบอกว่า การเลิกเล่นเฟซบุ๊กไปนั้นทำให้มีความสุขกับการใช้ชีวิตจริงๆ
ได้มากกว่า พวกเขาใช้เวลากับการดูแลครอบครัวมากขึ้น อยู่กับคนที่รักมากขึ้น
และได้ดูทีวี ดูสิ่งต่างๆ รอบตัวมากกว่าเดิม ใช้เวลาเสพข่าวสารน้อยลง
และให้เวลากับตัวเองมากขึ้น แทนการสนใจชีวิตคนอื่น
อีกทั้งเฟซบุ๊กยังเป็นตัวกำหนดทัศนคติในหลายๆ
เรื่อง อย่างที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ เรื่องการเมือง ซึ่งการที่เค้าไม่เล่นเฟซบุ๊ก
ไม่ติดเฟซบุ๊ก ก็ทำให้มีเวลาอยู่กับตัวเอง
และไม่เอนเอียงไปทางฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากจนเกินไป
อิจฉาชีวิตของคนอื่น
คือตัวบั่นทอนจิตใจในการเล่น Facebook
เชื่อว่าทุกคนต้องเคยเป็นแน่นอน กับการเลื่อนไถนิวฟีดแล้วมองเห็นคนอื่นๆ
ที่มีชีวิตดีวันดีคืน ได้เที่ยวอย่างเต็มที่ ชีวิตก้าวไปอย่างรวดเร็ว
ซึ่งมันอดที่จะนำมาเปรียบเทียบกับตัวเองไม่ได้จริงๆ จนทำให้เกิดความอิจฉาขึ้นในใจ
และทำให้ชีวิตไม่มีความสุข ซึ่งคนกว่า 88% จากแบบทดสอบ ได้เลิกเล่น Facebook ไปเป็นเวลา 1
สัปดาห์ และพวกเขารู้สึกว่าชีวิตตัวเองดีขึ้น มีความสุขมากขึ้น
เพราะไม่ต้องคอยอิจฉา เมื่อเห็นภาพคนอื่นบนหน้าฟีด
แถมการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตง่ายๆ โดยการตัดเฟซบุ๊กออกไป
ยังช่วยให้พวกเขาเหงาน้อยลง กระตือรือร้นมากขึ้น ตัดสินใจทำสิ่งต่างๆ
ได้อย่างเด็ดขาด และลดความกังวลไปได้มากเลยอีกด้วย
Facebook ลดทอนสมาธิและการโฟกัส
สุดท้ายแล้วคนที่เลิกเล่น Facebook
ไปต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า พวกเขามีสมาธิมากขึ้น
จดจ่อกับงานตรงหน้าได้อย่างเต็มที่ และไม่วอกแวก
สามารถทำงานได้เสร็จอย่างว่องไวกว่าเดิม ซึ่งนี่เป็นปัญหาหนักใจของพนักงานทุกคน
ที่ต้องเคยเจอว่า รู้ตัวอีกทีตัวเองก็ไถเฟซบุ๊กมานานกว่า 30 นาทีแล้ว ซึ่งมันทำให้เสียเวลาชีวิตไปมาก
หรือก่อนจะเข้านอนก็ต้องเล่นเฟซบุ๊กก่อน ทำให้นอนน้อย นอนไม่หลับ
ด้วยเหตุผลเหล่านี้ จึงกลายเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เด็กรุ่นใหม่ย้ายตัวเองสู่โซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มอื่นๆ นอกเหนือจากเฟซบุ๊ก และบริหารเวลา จัดการตัวเองให้ดีขึ้นด้วยการใช้ชีวิตอย่างบาลานซ์ และไม่จมปลักอยู่กับช่องทางใดช่องทางหนึ่งอีกต่อไป
สำหรับคนที่กำลังจะทำกิจการ
หรือเป็นนักการตลาด ก็อย่าลืมศึกษาเทรนด์เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจของคุณ
รายงานนี้อ้างอิงจากข้อมูลจากบทความ Facebook and Instagram app downloads are declining, says BofA โดย Bank of America เว็บไซต์ : CNBC.com