ในปี 2018
ตลาดเครื่องดื่มในญี่ปุ่นที่ไม่มีแอลกอฮอล์ (soft drink) มีมูลค่า 5.18 ล้านล้านเยน (ประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท) สินค้าในธุรกิจกลุ่มนี้
ประกอบด้วยน้ำเปล่า น้ำอัดลม ชา กาแฟ น้ำผลไม้ นม เครื่องดื่ม ชูกำลัง
เครื่องดื่มกีฬา ฯลฯ ซึ่งนับเป็นกลุ่มสินค้าที่มีความหลากหลาย ทั้งด้านบรรจุภัณฑ์และวัตถุประสงค์ของแต่ละสินค้า
ข้อมูลโดยสมาคม Japan Soft Drink Association พบว่าปริมาณบริโภคสินค้าเครื่องดื่มเฉลี่ยต่อคนอยู่ที่
185 ลิตรต่อปี โดยมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2009
ขณะที่กระแสรักสุขภาพที่เกิดขึ้นทั่วโลก
ทำให้ผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อร่างกาย จากส่วนประกอบทางเคมีของอาหารมากขึ้น
เช่น สารเติมแต่งในอาหาร สารให้ความหวาน สารกันบูด เป็นต้น
ผู้บริโภคมองว่าน้ำตาลเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาทางสุขภาพ
ส่งผลให้ถอยห่างจากเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมน้ำตาลหรือเครื่องดื่มที่ผสมสารให้ความหวาน
ทำให้เกิดกระแสความต้องการสินค้าเครื่องดื่มที่ไม่มีน้ำตาล และสินค้าที่ให้คุณค่าอาหารที่ได้จากธรรมชาติมากขึ้น เช่น ชาพร้อมดื่มเพื่อสุขภาพ ชาข้าวบาร์เลย์ซึ่งไม่มีคาเฟอีน รวมถึงสินค้าที่ผ่านกระบวนการจัดเตรียมหรือผลิตน้อยที่สุด แต่สามารถบริโภคได้ทันทีและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบในปัจจุบันได้
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ด้วยเหตุนี้
ผู้ผลิตสินค้าในญี่ปุ่นปัจจุบันจึงทยอยเปิดตัวสินค้าเครื่องดื่มไม่มีน้ำตาลเพิ่มขึ้น
และแม้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังนิยมดื่มน้ำอัดลมที่มีส่วนผสมน้ำตาล
แต่ก็มีตลาดกลุ่มผู้ใหญ่ที่ใส่ใจกับการดูแลสุขภาพและหลีกเลี่ยงสินค้าที่มีน้ำตาล
โดยหันไปบริโภคสินค้าทางเลือกที่เป็นสูตรน้ำตาล 0% แทน
ในขณะที่ผู้ผลิตบางรายมีการนำเสนอสินค้าที่มีความหวานต่ำ
ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ชอบเครื่องดื่ม หวานน้อยลง ตัวอย่างเช่น
เครื่องดื่มสีใส (Flavored Water) หรือที่เรียกกันว่า น้ำแต่งกลิ่นรส (Flavored
Water) ในญี่ปุ่น มีจุดเริ่มต้นในปี 2010 จากบริษัท Coca-Cola
ที่เริ่มทำตลาดน้ำดื่มแต่งกลิ่นรสชาติผลไม้แบรนด์ “I-Lohas” จากแนวคิดของผู้ผลิตที่ต้องการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับแบรนด์น้ำแร่ธรรมชาติ
ต่อมาบริษัทผู้ผลิตหลายๆ แบรนด์ต่างทยอยกันเปิดตัวสินค้าตามๆ กันมาต่อเนื่อง เช่น แต่งกลิ่นรสในรูปแบบเครื่องดื่มน้ำสีใสเป็นครั้งแรก
ก่อนจะมีสินค้าใหม่ๆ ออกมาต่อเนื่อง เช่น รสชาติโยเกิร์ตผสมอโลเวรา
สร้างความตื่นเต้นให้ผู้บริโภคเป็นอย่างยิ่ง
Flavored Water ถูกวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ให้เป็นกลุ่มสินค้าตรงกลาง
ระหว่างน้ำเปล่าและเครื่องดื่มที่มีรสหวาน
โดยผู้ผลิตโฆษณาว่าเป็นเครื่องดื่มช่วยเพิ่มความสดชื่น เป็นทางเลือกแทนน้ำผลไม้และเครื่องดื่มอัดลม
เหมาะสำหรับผู้ดูแลสุขภาพเนื่องจากมีปริมาณน้ำตาลต่ำ Flavored Water เป็นกลุ่มสินค้าที่มีอัตราการเติบโตสูง จึงเป็นกลุ่มสินค้าที่ได้รับการจัดสรรพื้นที่ชั้นวางขนาดใหญ่ในช่องทางค้าปลีกต่างๆ
ทั้งร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงตู้กดเครื่องดื่มอัตโนมัติ
ซึ่งมีสินค้าหลากหลายรสชาติและมีเกือบทุกยี่ห้อให้เลือก
จนกล่าวได้ว่า Flavored Water ได้กลายเป็นเทรนด์ที่มาแรงในญี่ปุ่นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยต่อมาสินค้าที่เป็นเครื่องดื่มสุขภาพใหม่ๆ หลายอย่าง ได้ถูกพัฒนาเป็นแบบเครื่องดื่มสีใส จนทุกวันนี้มีเครื่องดื่มไร้สีแทบทุกประเภทตั้งแต่โคล่า กาแฟ ไปจนถึงเบียร์
ทั้งนี้คาดว่าสาเหตุหลักที่เครื่องดื่มสีใสสามารถตีตลาดในญี่ปุ่นได้
เนื่องจากผู้บริโภคญี่ปุ่นมีความต้องการประสบการณ์ดื่มใหม่ๆ และที่สำคัญสอดคล้องกับเทรนด์ด้านสุขภาพ
ซึ่งเครื่องดื่มสีใสมีจุดเด่นที่มีภาพลักษณ์ที่ทันสมัย อีกทั้งมีส่วนผสมน้ำตาล
สารเติมแต่งและปริมาณแคลอรี่ในระดับต่ำ เมื่อเทียบกับน้ำอัดลมหรือน้ำผลไม้ทั่วไป
นอกจากนี้ เครื่องดื่มสีใสได้รับการยอมรับในสถานที่ทำงานมากกว่าน้ำอัดลมหรือน้ำผลไม้
ด้วยเหตุผลมารยาทในที่ทำงานตามบริษัทญี่ปุ่นที่ไม่ควรนำเครื่องดื่มอย่างอื่น ยกเว้นน้ำเปล่าเข้าที่ประชุมนั่นเอง
แหล่งอ้างอิง : Marketing Report From Tokyo March 2020 โดย สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว