‘ฟองฟอง น้ำเต้าหู้’ คู่จิ้นความอร่อย ตอบโจทย์เทรนด์รักสุขภาพ
จาก ‘น้ำเต้าหู้’ ที่เรารู้จักคุ้นชินในรสชาติกันดี คุณศิริชัย
เบ็ญจพรเลิศ กรรมการผู้จัดการ บจก. โง้วเจงง้วน ได้ต่อยอดแนวคิดในการทำธุรกิจของครอบครัวซึ่งผลิตฟองเต้าหู้และเต้าหู้ยี้
มายาวนานกว่า 80 ปี ก่อเกิดแบรนด์ใหม่
‘ฟองฟอง’ น้ำเต้าหู้ผสมฟองเต้าหู้เจ้าแรกของเมืองไทย สินค้าเพื่อคนรักสุขภาพซึ่งมีแนวโน้มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในบ้านเรา
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
คุณศิริชัย เล่าว่า บจก. โง้วเจงง้วน เริ่มก่อตั้งปี 2480 (84 ปี) เป็นบริษัทตั้งแต่รุ่นคุณปู่ คุณพ่อ
ปัจจุบันตนเองเป็นรุ่นที่ 3 โดยในอดีตเป็นธุรกิจที่ผลิตฟองเต้าหู้
เต้าหู้ยี้ และจำหน่ายเกลือป่น จากนั้นเมื่อคุณพ่อรับช่วงธุรกิจต่อจากคุณปู่
ได้มีการเริ่มทำแฟรนไซส์ ‘น้ำเต้าหู้ไฮโซ’ ซึ่งมีเครื่องให้เลือกมากมาย
อาทิ ฟองเต้าหู้, ถั่วเขียว, ลูกเดือย, ถั่วแดง ในแบรนด์ ‘ฮองเฮา’ รวมถึง ‘น้ำเต้าหู้ใส่ฟองเต้าหู้สด’
ซึ่งผลิตสดใหม่จากเตา นำมาบรรจุขวดพลาสติกขายในชื่อแบรนด์ ‘เบญจพร’
ต่อมาปี 2552 คุณศิริชัยได้เข้ามารับช่วงต่อกิจการ
จึงได้เปลี่ยนแนวความคิดในการทำตลาด โดยรีแบรนดิ้งจากแบรนด์ ‘เบญจพร’
เปลี่ยนเป็น ‘ฟองฟอง’ ดีไซน์แพ็กเกจใหม่ และกำหนดทิศทางการตลาดให้สินค้าใหม่เพื่อให้ธุรกิจเติบโตมากขึ้น
“หลังจากผมไปใช้ชีวิตในต่างประเทศ
1 ปี
แล้วกลับมาเมืองไทยเมื่อปี 2552 โดยได้ตั้งเป้าหมายว่าจะพัฒนาอย่างไรให้ธุรกิจเติบโต
เพราะเห็นว่ากิจการของครอบครัวมีโอกาสประสบความสำเร็จสูง เนื่องจากธุรกิจที่ผลิตฟองเต้าหู้ได้มาตรฐาน
ถูกสุขลักษณะ ผ่าน อย. มี GMP รับรองในขณะนั้นมีค่อนข้างน้อย ขณะที่ปัจจุบันก็ยังไม่มีคู่แข่งเพิ่มขึ้นมากเท่าไร จึงมองเห็นว่าตรงนี่คือโอกาสที่ดีในแง่ของการมาต่อยอดผลิตภัณฑ์
มาตรฐาน และการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ”
Rebrand ปรับธุรกิจ
นำไปสู่การขายใน ‘โมเดิร์นเทรด’
จากนั้นคุณศิริชัยจึงตัดสินใจปรับเปลี่ยนรูปแบบสินค้าแฟรนไชส์น้ำเต้าหู้ร้อนนำมาบรรจุในขวด ทำให้ได้รับการตอบรับที่ดี จึงมีดีเลอร์เข้ามาติดต่อเพื่อนำผลิตภัณฑ์ไปจำหน่ายตามโมเดิร์นเทรดต่างๆ เช่น Tops Max Valu The Mall Lemon Farm
Lotus
“ตอนนั้นโรงงานมีกำลังการผลิตจำนวน
3,000 ขวดต่อวันโดยใช้พนักงานเป็นหลัก เมื่อมียอดสั่งเพิ่มขึ้นจึงต้องลงทุนซื้อเครื่องจักร
4 ล้านบาท ในส่วนของเครื่องบรรจุ เครื่องปิดฝา ระบบหล่อเย็น
และห้องเย็น”
‘ฟองฟอง’ ชื่อแบรนด์นี้ มีที่มาอย่างไร?
คุณศิริชัย กล่าวว่า
ด้วยความที่ตนเองอยากให้ชื่อแบรนด์เชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์ ซึ่งจุดเด่นของ บจก.
โง้วเจงง้วน ก็คือ ‘ฟองเต้าหู้’ ซึ่งเป็นตำนานและจุดเด่นของสินค้า
จึงเกิดแนวคิดว่าจะสื่อสารอย่างไรให้ฟองเต้าหู้แมตช์กับคนรุ่นใหม่
แล้วเป็น 2 พยางค์ที่เรียกง่ายฮิตติดหู
จึงกลายเป็นที่มาของแบรนด์ที่ชื่อว่า 'ฟองฟอง'
เพื่อสื่อถึงผลิตภัณฑ์นำเสนอแก่ผู้บริโภค
มีการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์มาเป็นเกรดเดียวกับขวดนมเด็ก สามารถรียูสได้เพื่อนำเสนอสิ่งที่ปลอดภัยสำหรับลูกค้าในเรื่องของสารตกค้าง
ซึ่ง ‘ฟองฟอง’ ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
“หลังจากนั้นธุรกิจก็เติบโตเรื่อยมา
จากยอดขาย 10-20 ล้านบาทต่อปี เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 30 ล้านบาทต่อปี ในช่วงก่อนโควิด 19 จะเกิดการระบาด”
Know How สมัยคุณปู่..สู่รุ่นหลาน
ในเรื่องนี้คุณศิริชัยเผยว่าเมื่อก่อน บจก. โง้วเจงง้วน จะใช้เตาถ่านในการผลิตฟองเต้าหู้
จึงทำให้มีความนุ่ม ความหอม หลังจากนั้นเมื่อชุมชนมีความเจริญมากขึ้นเกิดการขยับขยาย
ทำให้ไม้ไม่เพียงพอต่อการนำมาเป็นฟืนเพื่อเผาเป็นถ่าน จึงต้องเปลี่ยนจากฟืนมาเป็นบอยเลอร์ไม้
ก่อนปัจจุบันจะเปลี่ยนมาเป็นบอยเลอร์แก๊สเพื่อผลิตไอน้ำ โดยบริษัทพยายามรักษาเคล็ดลับการผลิตเต้าหู้ด้วย
‘ไอน้ำ’ เอาไว้ เพื่อให้สินค้ายังคงความหอม มีความนุ่ม มาจนถึงปัจจุบัน
‘ฟองน้ำเต้าหู้’ ผลิตภัณฑ์ที่บริโภคได้ทุกวัน
ในอดีต บจก. โง้วเจงง้วน จะผลิตฟองเต้าหู้แห้งที่นำมาทำแกงจืดเต้าหู้ ทำให้เกิดโอเวอร์สต็อกเพราะปกติจะขายได้เฉพาะช่วงเทศกาล
เช่น สารทจีน ตรุษจีน หรือกินเจ เท่านั้น จึงทำให้คุณศิริชัยมีแนวคิดที่จะสร้างแบรนด์ที่เกี่ยวกับฟองเต้าหู้ขึ้นมา
แต่ไม่ใช่สินค้าตัวเดิมที่เป็นฟองเต้าหู้แห้ง แต่เป็นฟองเต้าหู้สดในรูปแบบ IQF (เหมือนกุ้งแช่แข็ง) ซึ่งจะเป็นชิ้นๆ
เพื่อความสะดวกในการนำไปประกอบอาหาร
นอกจากนี้ ‘ฟองฟอง’ ยังมีแนวคิดในการพัฒนาสินค้าที่ไม่ต้องแช่เย็น ไม่เสียง่าย เมื่อประกอบกับโจทย์ที่ว่าจะทำอย่างไรให้สินค้าสามารถบริโภคได้ทุกวัน
จึงตกผลึกมาเป็นสินค้าที่คล้ายกับ ‘คอนเฟล็กซ์’ ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก
“ฟองฟอง
ต้องการเปลี่ยนภาพลักษณ์ฟองเต้าหู้ซึ่งเป็นอาหารคาว
ปรับภาพลักษณ์ให้เป็นสินค้าที่บริโภคได้ทุกวัน ทำอย่างไรไม่ให้มีกลิ่นคาว
จึงเกิดแนวคิดการผลิตสินค้า ‘ซอยเฟล็กซ์กราโนล่า’ หรือฟองเต้าหู้ผสมกับธัญพืชตระกูลถั่ว ผลไม้ตระกูลเบอร์รี มิกซ์ด้วยรสชาติเมเปิ้ลไซรัป
และช็อกโกแลต ซึ่งเป็น 2 รสชาติที่คนกินอาหารเช้าชื่นชอบมากที่สุด
และนอกจากนี้จะมีการพัฒนาสินค้าในรูปแบบอาหารแช่แข็งและกลุ่มอาหารพร้อมทานเพิ่มขึ้นด้วย”
ทำอย่างไร? ให้ผู้บริโภครู้จัก ‘ฟองฟอง น้ำเต้าหู้’ มากขึ้น
ด้วยความที่ ‘ฟองเต้าหู้’ ยังเป็นอาหารที่ไม่ได้รับการประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายเท่าที่ควร
คุณศิริชัย เผยว่า ‘ฟองฟอง’
จึงใช้ช่องทางออนไลน์ บจก. โง้วเจงง้วน สื่อสารไปยังผู้บริโภคด้วยการทำบรอดแคสต์ เนื่องจากอยากให้ ‘ฟองเต้าหู้’ เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คน ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ของ ‘ฟองฟอง’ นำไปสู่กลยุทธ์สร้างการรับรู้ นำเสนอเบเนฟิทว่าสินค้าดีอย่างไร
เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจ
“ฟองเต้าหู้
โฉมใหม่จะอยู่ในรูปแบบอาหารเช่น Fine
Dining ซึ่งจะมีเชฟรวมถึงอินฟลูเอนเซอร์มาทำอาหาร
เป็นการเปิดมุมมองใหม่สำหรับคนที่เคยนำฟองเต้าหู้ไปทำอาหารแบบเดิมๆ
แต่ในอนาคตอันใกล้จะได้เห็นฟองเต้าหู้ในมิติใหม่
อาจกลายเป็นเมนูเด่นในภัตตาคารหรือร้านอาหารอิตาเลียน”
‘โควิด’
ส่งผลกระทบอย่างไรกับธุรกิจ
โควิดระลอก 1 และ 2 บจก. โง้วเจงง้วน ยังไม่ค่อยได้รับผลกระทบเท่าไร แต่โควิดระลอก 3 คุณศิริชัยกล่าวว่าบริษัทได้รับผลกระทบพอสมควร เนื่องจากร้านอาหารที่ ฟองฟอง
น้ำเต้าหู้ เป็นซัพพลายให้นั้นต้องปิดกิจการชั่วคราว
ซึ่งตลาดที่ยังอยู่ได้ก็คือโมเดิร์นเทรด แต่ก็มียอดขายลดลง 20-30%
ตลาดออนไลน์
ช่องทางจำหน่ายเพื่อธุรกิจเติบโตยั่งยืน
สำหรับเรื่องนี้คุณศิริชัยกล่าวว่า ตอนนี้ ‘บจก. โง้วเจงง้วน’ มองตลาดออนไลน์ว่ามีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง แม้จะต้องเสียค่าคอมมิชชันให้กับแพลตฟอร์ม
แต่อย่างน้อยก็ช่วยลดการพึ่งพาการจำหน่ายในช่องทางโมเดิร์นเทรดได้
เพราะในสถานการณ์โควิด 19 ทำให้เห็นชัดเจนว่าการที่มีลูกค้าหลากหลายช่องทางจะช่วยกระจายความเสี่ยง
ถึงแม้ว่าซูเปอร์มาร์เก็ตจะเป็นช่องทางจำหน่ายหลักก็ตาม แต่อาจยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน
จึงต้องมีการพัฒนาช่องทางออนไลน์เพื่อจำหน่ายสินค้าให้กับผู้บริโภคด้วย
‘บจก. โง้ว เจง
ง้วน’ กับแนวทางดำเนินธุรกิจในอนาคต
คุณศิริชัยแสดงทรรศนะว่า ในอดีตสินค้าถูกคิดค้นขึ้นจากปัญหา เพนพอยท์ต่างๆ รวมถึงการเกิดโอเวอร์สต็อก
ขณะที่ปัจจุบันมีการว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อมองภาพกว้างของผลิตภัณฑ์ที่จะต้องตามเทรนด์
5-10 ปีข้างหน้า ‘บจก. โง้วเจงง้วน’
จึงเริ่มคิดค้นเพื่อพัฒนาสินค้า
โดยในช่วงปลายปีนี้และปีหน้าจะเริ่มเห็น
Product Innovative ใหม่ๆ ออกมา ซึ่งจะสอดคล้องกับเทรนด์สุขภาพ
ไลฟ์สไตล์มากขึ้น ที่สำคัญสินค้าจะต้องง่ายและสะดวก โดยมุ่งเป้าไปที่สินค้าฟังชั่นนอลฟู้ดเพื่อคนรักสุขภาพ ซึ่งก็คือ ‘กลุ่มผู้สูงอายุ’ ส่วนสุขภาพของคนวัยทำงานจะอยู่ในกลุ่มฟองน้ำเต้าหู้ เช่น
เสริมโปรไบโอติกต่อวัน เป็นต้น
จากธุรกิจรุ่นคุณปู่
มาถึงทายาทรุ่นที่ 3 คุณศิริชัย
เบ็ญจพรเลิศ กรรมการผู้จัดการ บจก. โง้วเจงง้วน ได้นำความรู้ที่มี รวมถึง Know How ต่างๆ ที่สั่งสมมาตั้งแต่เด็ก นำมาพัฒนา ปรับปรุง ต่อยอดแนวคิดในการทำธุรกิจของครอบครัว สร้างแบรนด์ ‘ฟองฟอง’ น้ำเต้าหู้ผสมฟองเต้าหู้เจ้าแรกของเมืองไทย ซึ่งมีเป้าหมายบุกตลาดสุขภาพคนเอเชียในอนาคตอันใกล้
รู้จักฟองฟองได้ที่ :