สภาทองคำโลก (World Gold Council) เปิดเผยรายงานสำรวจความคิดเห็นผู้บริโภคฉบับใหม่ ซึ่งมีโอกาสมากมายในตลาดทองคำ ทั้งสำหรับผู้ที่ทำงานอยู่ทั้งในแวดวงการลงทุนรายย่อยและตลาดเครื่องประดับ งานวิจัยนี้ได้ศึกษาตัวอย่างราว 18,000 รายการ ครอบคลุมตลาดต่าง ๆ ทั้งจีน อินเดีย อเมริกาเหนือ เยอรมนี และรัสเซีย จนสรุปผลการศึกษาสำคัญที่เจาะลึกถึงทัศนคติและความเข้าใจที่มีต่อทองคำ รวมถึงช่องทางและเหตุผลที่ซื้อทองคำ และเหตุผลที่ตัดสินใจไม่ซื้อทองคำ
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ผลการวิจัยใหม่ล่าสุดนี้พบว่าทองคำเป็นตัวเลือกการลงทุนกระแสหลัก
โดยเป็นรูปแบบการลงทุนที่มีผู้ซื้อคงเส้นคงวามากที่สุดเป็นอันดับสาม โดยนักลงทุนรายย่อยทั่วโลกราว
46% เลือกลงทุนในผลิตภัณฑ์ทองคำ เมื่อเทียบกับบัญชีออมทรัพย์ 78% และประกันชีวิต 54% ในส่วนของเครื่องประดับนั้นผลสำรวจพบว่าผู้บริโภค 56% ได้ซื้อเครื่องประดับทองคำชั้นดี ขณะที่อีก
34% ซื้อเครื่องประดับทองคำขาว
นอกจากนี้
ผลการวิจัยใหม่ยังพบว่า นักลงทุนรายย่อยและผู้ชื่นชอบแฟชันกว่าหนึ่งในสาม (38%) ไม่เคยซื้อทองคำมาก่อนแต่ก็มีทัศนคติที่ดีต่อการซื้อทองคำในอนาคต
สิ่งนี้แสดงให้เห็นศักยภาพอันมหาศาลในการผลักดันตลาดทองคำให้เติบโต
หากความต้องการเหล่านี้แปลงเป็นแรงซื้อได้
รายงานฉบับนี้ยังมีข้อค้นพบหลัก
ๆ 5
ประการ ได้แก่ :
ผู้คนเชื่อมั่นและยึดมั่นกับทองคำ
นักลงทุนรายย่อยกว่าสองในสาม (67%) เชื่อว่า
ทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่ดีในการรับมือกับเงินเฟ้อและความผันผวนของค่าเงิน ขณะที่ 61% เชื่อมั่นในทองคำมากกว่าสกุลเงินทั่วไป
โดยอุตสาหกรรมควรต่อยอดความเชื่อมั่นนี้
พร้อมจับตาความเคลื่อนไหวในขอบเขตที่อ่อนแรงกว่า
มีความไม่เชื่อใจอยู่บ้าง
ในกลุ่มคนที่ไม่เคยซื้อทองคำมาก่อน แต่ก็เปิดกว้างแนวคิดในการซื้อทองคำในอนาคต
โดยว่าที่นักลงทุน 48%
และผู้บริโภคเครื่องประดับ 28% มองว่าความไม่เชื่อใจเป็นอุปสรรคสำคัญ
โดยอาจเป็นความกังวลที่จะเจอทองคำแท่งและเหรียญทองคำปลอมหรือเลียนแบบ รวมถึงความกังวลเรื่องความบริสุทธิ์ของผลิตภัณฑ์
หรือความน่าเชื่อถือของผู้ค้าบางราย
ผู้บริโภครุ่นใหม่กับมุมมองต่อทองคำ
ทัศนคติที่ผู้บริโภคกลุ่มมิลเลนเนียลมีต่อทองคำนั้นไม่ค่อยต่างจากคนรุ่นเก่า
แต่คนกลุ่ม Gen
Z มีความสงสัยอยู่บ้าง โดยเฉพาะในตลาดเครื่องประดับของจีน
ยกตัวอย่างเช่น ผู้ซื้อสินค้าแฟชันอายุ 18-24 ปีเป็นสัดส่วน 40%
ในจีนเชื่อว่าทองคำจะทำให้โชคดี เมื่อเทียบกับ 88% ในกลุ่มคนอายุระหว่าง 55-65 ปี
นวัตกรรมเทคโนโลยีอาจเป็นช่องทางเข้าถึงผู้ซื้อกลุ่มใหม่ๆ
ปัจจุบันเราทราบว่าตลาดทองคำยังพอมีผู้บุกเบิกที่นำเทคโนโลยีมาใช้อยู่บ้าง
แต่ข้อมูลของเราบ่งชี้ว่ายังมีน้อยเกินไป
ทองคำนั้นมีความก้าวหน้าน้อยมากเมื่อเทียบกับการลงทุนรายย่อยและสินค้าแฟชันรูปแบบอื่น
เมื่อมองในแง่ของการกระจายทางดิจิทัล การตลาด และการสื่อสาร โดยมีนักลงทุนรายย่อยทั่วโลกซื้อเหรียญทองคำเป็นสัดส่วนเพียง
9% และเครื่องประดับเพียง 6% เมื่อเทียบกับกองทุน ETF
ทองคำที่มีผู้ซื้อ 25%
ว่าที่ผู้ซื้อทองคำยังขาดความรู้ความเข้าใจอยู่บ้างซึ่งจำเป็นต้องแก้ไข ว่าที่ผู้บริโภคทองคำราวสองในสาม (66%) ทั่วโลกเปิดเผยว่า ตนขาดความรู้ความเข้าใจที่จำเป็นในการซื้อทอง โดยจำเป็นต้องส่งเสริมความตระหนักเกี่ยวกับทองคำผ่านโทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ และโซเชียลมีเดีย ทั้งยังต้องมีการให้ความรู้เกี่ยวกับประโยชน์ในการเป็นเจ้าของทองคำ นอกจากนี้ ว่าที่ผู้ซื้อทองคำยังจำเป็นต้องทราบเกี่ยวกับมาตรฐานทางจริยธรรมมากกว่านี้ แม้ยังไม่ได้เป็นประเด็นกระแสหลักในตอนนี้ก็ตาม
สามารถอ่านรายงาน Consumer Research ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลใหม่ที่เจาะลึกผู้บริโภคอย่างครอบคลุมได้ที่ www.retailinsights.gold