ในยุคที่เศรษฐกิจมีความผันผวนสูง
เนื่องด้วยสถานการณ์โรคโควิด 19 ระบาด ส่งผลให้ผู้ประกอบการ SME จะต้องเร่งวางแผนและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการดำเนินงานอย่างเร่งด่วน
เพื่อช่วยประคับประคองไม่ให้ธุรกิจที่อยู่ในมือต้องปิดตัวลง
เพราะฉะนั้นในบทความนี้เราจึงได้รวบรวมคำแนะนำที่คาดว่าจะเป็นประโยชน์ ช่วยให้ SME สามารถปรับตัวให้อยู่รอดในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ และพร้อมไปต่อเมื่อโอกาสที่ดีมาถึง ซึ่งจะมีกลยุทธ์อะไรที่น่าสนใจบ้าง เราไปติดตามพร้อมๆ กันเลย!
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
1. ให้ความสนใจกับโลกออนไลน์มากยิ่งขึ้น!
SME ต้องเข้าใจก่อนว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคนั้นได้เปลี่ยนไปจากเดิมเป็นอย่างมาก!
การเลือกซื้อสินค้า/บริการทางออนไลน์ คือสิ่งที่กำลังได้รับความนิยมอย่างถึงขีดสุด
เพราะเข้าถึงง่าย สะดวกสบาย รวดเร็ว มีเวลาตัดสินใจและไม่ต้องออกจากบ้าน
ดังนั้นการขายสินค้า/บริการผ่านโลกออนไลน์
จึงกลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะทำให้ธุรกิจในมือของคุณดำรงอยู่ได้และมีโอกาสที่จะเติบโตได้มากกว่าเดิม
อีกทั้งตลาดออนไลน์เป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ คุณจึงสามารถเจาะกลุ่มลูกค้าผ่านทางโฆษณาบน
Platform
ต่างๆ ได้อย่างไม่มีขีดจำกัด รวมไปถึงคุณสามารถติดต่อสื่อสารกับลูกค้าได้แบบใกล้ชิด
ซึ่งมันจะทำให้คุณรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วลูกค้าต้องการอะไร? หรือมีจุดไหนที่ธุรกิจของคุณต้องปรับปรุง
2. มองหาและจับมือกับธุรกิจ
SME
อื่นๆ
“น้ำพึ่งเรือ
เสือพึ่งป่า”
ฉันใด ธุรกิจ SME
ก็ต้องพึ่งพากันฉันนั้น ยิ่งเฉพาะในช่วงวิกฤตแบบนี้ การจับมือและทำงานร่วมกัน
จะช่วยให้ธุรกิจในกลุ่ม SME มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
เช่น ธุรกิจที่ต้องมีการจัดส่งสินค้า อาจจะร่วมมือกับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการขนส่ง
เพื่อราคาในการจัดส่งสินค้าที่ถูกลงและธุรกิจบริการขนส่งจะมีรายได้เพิ่มมากขึ้น หรือเพื่อลดต้นทุนธุรกิจ
ซึ่งในกรณีแบบนี้จะเป็นการเอื้อผลประโยชน์ร่วมกันของธุรกิจ SME ทั้ง 2 นั่นเอง เคยได้ยินมั้ย ..รวมกันเราอยู่
3. ศึกษาความต้องการของผู้บริโภคอยู่เสมอ
สิ่งที่ทำให้ SME อยู่รอดปลอดภัยในทุกๆ
วิกฤตทางเศรษฐกิจเลยก็คือ ‘ความต้องการของผู้บริโภค’ ดังนั้นการศึกษาและทำความเข้าใจกับความต้องการต่างๆ ของผู้บริโภค
จึงเป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการทุกคนไม่ควรที่จะมองข้าม
ยิ่งถ้าคุณจับทางความต้องการของพวกเขาได้ถูกจุด
ว่าตอนนี้ผู้บริโภคต้องการอะไร
สิ่งไหนคือสิ่งที่ช่วยแก้ไขปัญหาหรืออำนวยความสะดวกให้กับพวกเขา
ทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตสวนทางกับสภาวะเศรษฐกิจได้อย่างแน่นอน โดยวิธีการศึกษาความต้องการของผู้บริโภคก็อาจจะทำได้
โดยการเก็บสถิติ จัดทำแบบสอบถามออนไลน์หรือสอบถามกับลูกค้าของคุณเอง
4. ปรับแต่งธุรกิจที่อยู่ในมือ!
ยุคสมัยเปลี่ยนไป
พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป สภาวะเศรษฐกิจเปลี่ยนไป ดังนั้นผู้ประกอบการ SME จึงต้องเปลี่ยนตาม
ยกตัวอย่างเช่น ปกติเคยขายแต่สินค้าประเภทเดียว ก็ต้องปรับเปลี่ยนหาสินค้าใหม่ๆ
มากระตุ้นความต้องการของลูกค้า หรือปกติเคยขายแต่สินค้าส่ง ก็อาจจะต้องเพิ่มการขายปลีกเข้าไป
เพื่อให้ได้ฐานลูกค้าที่กว้างขึ้นจากเดิม เป็นต้น ทั้งนี้คุณก็อาจจะต้องดูความเหมาะสมของพื้นฐานธุรกิจเป็นหลักว่าสามารถปรับแต่งได้มากน้อยขนาดไหน
5. e-Commerce แบบเต็มตัว
การปรับเปลี่ยนธุรกิจให้เป็นแบบ
e-Commerce
เต็มตัว จะช่วยให้คุณมีจุดโฟกัสในการทำธุรกิจมากยิ่งขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงเนื้อผ้าบนเว็บไซต์ การทำ Digital Marketing การยิง Ads บน Platform ต่างๆ
รายละเอียดในส่วนนี้
จะช่วยทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นและไว้วางใจในการซื้อสินค้า/บริการ
รวมไปถึงคุณต้องใส่ใจในเรื่องการตรวจเช็คสต็อกของการจัดส่งของ เพื่อให้ทุกๆ อย่างถึงมือลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ จนสามารถสร้างความประทับใจต่อธุรกิจของคุณนั่นเอง
สำหรับเรากล่าวไปข้างต้นนั้น คงพอจะช่วยทำให้กลุ่มธุรกิจ SME สามารถประคองตัวเองไปได้ในสถานการณ์ที่กำลังย่ำแย่อยู่ในขณะนี้ รวมทั้งอาจจะมองหาโอกาสจากช่วงเวลาต่างๆ ได้
เพราะสุดท้ายแล้ว SME จะต้องระลึกไว้เสมอ วิกฤตครั้งนี้อาจเป็นอีกเพียงแค่บททดสอบหนึ่ง และความเป็นไปได้ถึงแนวโน้มโลกที่จะเกิดวิกฤตถี่มากขึ้น จากการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ต่างๆ ดังนั้นธุรกิจแบบเดิมๆ จะยิ่งเสี่ยงสูญพันธุ์ ดังที่นักวิทยาศาสตร์ด้านชีววิทยาท่านหนึ่งเคยกล่าวไว้
“ผู้ที่อยู่รอดไม่ใช่ผู้ที่แข็งแรง
ฉลาดที่สุด แต่เป็นผู้ที่ปรับตัวได้เร็วที่สุด”