นวัตกรรมทรายแมวจากมันสำปะหลัง ตอบโจทย์คนรักสัตว์เลี้ยง
จากนักบินสู่เส้นทางผู้ประกอบการ SME กับนวัตกรรมทรายแมวจากมันสำปะหลัง แบรนด์ ‘Hide & Seek’เพื่อตอบโจทย์คนรักสัตว์เลี้ยง จากแนวคิด คุณอภินันท์ มหาศักดิ์สวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวลตี้ ม็อกกี้ อินโนเวชั่น จำกัด นักบินสายการบินแห่งหนึ่ง ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด 19 ทำให้สายการบินต้องระงับการบินชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ปกติ ส่งผลให้ต้องผันตัวเองมาหารายได้เพิ่มเติมอีกหนึ่งช่องทาง
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ด้วยการหยิบไอเดียที่เกิดขึ้นเมื่อราว 2 ปีที่แล้ว ที่เล็งเห็นว่าส่วนใหญ่ประเทศไทยมีการนำเข้าทรายแมวมาจากต่างประเทศ 100% บวกกับตนเองชื่นชอบการเลี้ยงแมวอยู่แล้ว จึงร่วมกันกับเพื่อนอีก 2 คนที่เป็นทาสแมวอยู่แล้วเหมือนกัน จนเกิดแรงบันดาลใจพัฒนาทรายแมวขึ้นมา
ขณะที่เพื่อนที่เป็นหุ้นส่วน ก็เป็นนักวิจัย ทำให้มีองค์ความรู้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทรายแมว โดยพยายามคัดสรรวัตถุดิบไม่ว่าจะเป็นของเหลือจากอุตสาหกรรมน้ำตาล ข้าวโพด อ้อย จนมาจบที่ ‘มันสำปะหลัง’ จนกระทั่งเกิดเป็นสูตร ‘ทรายแมวมันสำปะหลัง’ ที่ใช้วัตถุดิบจากมันสำปะหลัง 100% ที่ปลูกในประเทศไทย และถือเป็นเจ้าแรกของโลก ที่ใช้มันสำปะหลังมาทำเป็นทรายแมว

คุณอภินันท์เล่าว่า เริ่มต้นการทำธุรกิจจากคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน ศึกษาเรียนรู้ ลองผิดลองถูกด้วยตนเอง สิ่งไหนที่ไม่รู้ก็พยายามหาความรู้เพิ่มเติมให้มากขึ้น เพราะเชื่อว่าในยุคที่การสื่อสารเป็นไปอย่างรวดเร็ว การหาข้อมูลต่างๆ เป็นไปโดยง่าย เพราะฉะนั้นต้องรู้จักใช้อินเทอร์เน็ตให้เป็นประโยชน์มากที่สุด
“ผมไม่ได้เสียเงินกับการจ้างคนมาจดบริษัท มาทำภาษีเยอะเลย ผมทำเองหมดทุกกระบวนการ แม้กระทั่งบัญชี บริหาร มาร์เก็ตติ้งต่างๆ เพราะคิดว่าถ้าคนจะทำธุรกิจจริงๆ นอกจากจะมีไอเดียแล้ว ต้องมีความรู้อื่นๆ ประกอบด้วย ซึ่งจะเป็นข้อดีทำให้สามารถตรวจสอบได้ และสามารถบริหารต่อไปได้อย่างไม่สะดุด”
นวัตกรรมทรายแมว ตอบโจทย์คนรักสัตว์เลี้ยง
ทรายแมวจากมันสำปะหลัง Hide & Seek เป็นการนำเอามันสำปะหลังมาผ่านการให้ความร้อนและความดันที่เหมาะสม ทำให้เกิดกระบวนการ Pregelatinization กับโมเลกุลของแป้ง เข้ามาช่วยปรับปรุงสมบัติเชิงโมเลกุลของสตาร์ชในมันสำปะหลัง จนได้ทรายแมวเม็ดเล็กละเอียด ที่มีคุณสมบัติดูดซับของเหลวและกลิ่นได้ดีขึ้น ไม่ก่อให้เกิดนิ่วในไตหรือโรคระบบทางเดินหายใจ และยังช่วยเก็บกลิ่นปัสสาวะของแมวได้ดีกว่าทรายแมวทั่วไปตามท้องตลาด
นอกจากจะตอบโจทย์คนรักสัตว์เลี้ยงแล้ว ยังสามารถสร้างประโยชน์ได้ทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ เนื่องจากมันสำปะหลังสามารถกินได้ หากน้องแมวเผลอกินเข้าไปก็ไม่เป็นอันตราย อีกทั้งยังสามารถกำจัดทิ้งได้ง่ายขึ้น โดยการนำไปทิ้งลงชักโครกได้ และมันสำปะหลังยังสามารถปลูกทดแทนได้อีกด้วย
ในส่วนของมิติด้านเศรษฐกิจ สำหรับประเทศไทย มันสำปะหลังถือเป็นพืชที่ประเทศไทยส่งออกมากที่สุดในโลก แต่เนื่องจากหลายปีที่ผ่านมา ราคามันสำปะหลังตกต่ำมาโดยตลอด จึงคิดว่าเป็นพืชที่เหมาะนำมาประยุกต์ใช้ ช่วยเพิ่มมูลค่ามันสำปะหลังให้กับพี่น้องเกษตรกรชาวไทย
ทั้งนี้ ยังสร้างทางเลือกให้กับผู้บริโภคด้วยการเพิ่มกลิ่นผลไม้ต่างๆ เข้ามา แต่ยังคงเน้นเรื่องความปลอดภัยสูงสุด เพื่อให้ผลตอบรับที่ดีขึ้นสำหรับคนที่ไม่ชอบกลิ่นของมันสำปะหลังอีกด้วย

สร้างโปรดักต์ให้แตกต่าง ช่วยดึงลูกค้า
ทรายแมวจากมันสำปะหลัง Hide & Seek พัฒนาขึ้นโดยมีเป้าหมายเรื่องความปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสำหรับน้องแมวและเจ้าของแมว ดังนั้นทางแบรนด์ผู้ผลิตเชื่อว่า หากจะทำให้ธุรกิจเติบโตต่อไปได้อีกไกล ต้องสร้างความแตกต่าง และสร้างมาตรฐานให้กับสินค้า
เนื่องจากทรายแมวมันสำปะหลังไม่เคยมีมาก่อนในโลก จึงถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับตลาดคนรักแมว ทางแบรนด์จึงพยายามสร้างการรับรู้ ไม่ว่าจะเป็นการเผยแพร่วิดีโอขั้นตอนในการทดสอบ เพื่อให้ผู้บริโภคเห็นถึงนวัตกรรมที่พิถีพีถันในการทำทุกขั้นตอน ประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อได้เป็นอย่างดี
“ต้องสร้างความแตกต่างให้กับสินค้า จะขายอะไรต้องรู้จักคุณสมบัติสินค้าตัวเองด้วย ว่ามีฟังก์ชันยังไงบ้าง สามารถปรับปรุงได้อย่างไรบ้าง สำคัญการนำเสนอสินค้าให้กับร้านค้าต่างๆ ต้องมีความใส่ใจ ซึ่งผมก็ได้ลงไปคุยเองในทุกขั้นตอน”

สำรวจความต้องการ สร้างความน่าเชื่อถือ
เริ่มต้นทำการตลาด ด้วยการสำรวจลูกค้าว่าซื้อสินค้าจากช่องทางไหนเป็นหลัก ซึ่งค้นพบคนไทยส่วนใหญ่เดินเข้าไปซื้อสินค้าจากร้าน Pet Shop มากกว่าสั่งทางออนไลน์ ด้วยเหตุผลที่ว่าการเดินเข้าไปซื้อสินค้าด้วยตัวเอง ทำให้มีประสบการณ์ทดลองใช้สินค้าได้หลากหลายประเภท และยังได้พูดคุยกับผู้ขายโดยตรง จึงทำให้แบรนด์ Hide & Seek เน้นกระจายสินค้าตามร้าน Pet Shop ทั่วประเทศ โดยเริ่มต้นจากร้านในห้างสรรพสินค้าในกรุงเทพฯ
“ใช้เวลา 2 เดือนก็สามารถวางขายสินค้าในร้านใหญ่ๆ ได้ ไม่ว่าจะตามห้าง หรือตามโรงพยาบาลสัตว์ที่มีชื่อเสียงและมีความน่าเชื่อถือ หลังจากนั้นก็สามารถกระจายสินค้าไปได้ในทั่วประเทศ”
นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดทำการตลาดด้วยการเน้นพาตัวเองไปสู่สปอร์ตไลท์อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขัน การประกวดในเวทีของภาครัฐต่างๆ ซึ่งมีเวทีให้แข่งขันหรือให้ไปหาความรู้เยอะมาก และด้วยความที่เป็นบริษัทใหม่ จึงต้องสร้างมาตรฐาน สร้างความน่าเชื่อถือ เพื่อในอนาคตจะเป็นการส่งออกได้ง่ายขึ้น
“โครงการไหนน่าสนใจก็หาโอกาสเข้าร่วมเสมอ ซึ่งพยายามทำแบบนี้มาโดยตลอด สิ่งที่ได้กลับมาคือถ้าสินค้าเราดี ก็จะเกิดการบอกต่อไปโดยอัตโนมัติ”
ทั้งนี้ ทรายแมวจากมันสำปะหลัง ยังได้รับรางวัลรองชนะเลิศระดับภูมิภาค ภาคกลาง โครงการสุดยอดธุรกิจนวัตกรรมประเทศไทยระดับภูมิภาค ภายใต้ ‘นิลมังกรแคมเปญ’ ของสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA

บุกตลาดออนไลน์ ฝ่าวิกฤตโควิด-19
พาธุรกิจฝ่าวิกฤตโควิด 19 ด้วยการสร้างโอกาสให้กับธุรกิจพร้อมบุกตลาดออนไลน์มากขึ้น โดยการเชื่อว่าการทำคอนเทนต์ให้กับผู้บริโภคได้รับรู้เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการตลาด
“ตอนนี้เราก็ไปร่วมกับกล้องสตอรี่ ให้เข้ามาช่วยถ่ายทำคอนเทนต์มาตรฐานให้ จากนั้นก็ยิงแอดโฆษณา ทำให้คนรู้จักสินค้าในวงกว้างมากขึ้น ทำให้ตลาดออนไลน์เราเติบโตขึ้น 100% - 200%”
ทั้งนี้ ธุรกิจทรายแมว ถือเป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตมาก เพราะคนนิยมอยู่เป็นโสด ไม่มีลูก ใช้ชีวิตลำพังมากขึ้นจึงเลี้ยงแมวเป็นเพื่อน หรือบางคนเลี้ยงเสมือนเป็นลูก อีกทั้งคนเลี้ยงแมวเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยมากขึ้น ทำให้ธุรกิจทรายแมวจากมันสำปะหลังแม้จะเริ่มทำธุรกิจผ่านมาได้เพียง 1 ปี ก็สามารถพาธุรกิจเติบโตไปได้เรื่อยๆ
“เนื่องจากเราเริ่มขายมาประมาณ 1 ปี ในช่วง 8 เดือนแรก อัตราการเติบโตเฉลี่ยเดือนละ 15% ต่อเดือน จากนั้นก็เติบโตอย่างต่อเนื่องมาเรื่อยๆ”
OEM เปิดตลาดต่างประเทศ
นอกจากขายในแบรนด์ Hide & Seek แล้ว ยังมีรับทำ OEM (Origianl Equipment Manufacturer) ให้กับแบรนด์ทรายแมวเจ้าอื่นอีกด้วยและยังมีเป้าหมาย เปิดตลาดต่างประเทศ เพื่อให้สินค้าไทยเป็นที่รู้จักในตลาดโลกมากยิ่งขึ้น และยังเป็นโอกาสสนับสนุนให้ผู้ประกอบการของไทยได้ขยายตลาดธุรกิจทรายแมวไปได้ทั่วโลกอีกด้วย
“เป้าหมายคืออยากส่งออก หลังจากที่ประเทศไทยนำเข้าทรายแมวมานาน ก็อยากให้ต่างชาติได้ใช้ทรายแมวที่ผลิตจากประเทศไทยบ้าง โดยมองตลาดในเอเชียใกล้ๆ ก่อน เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี เวียดนาม”
นอกจากเป้าหมายขยายตลาดในต่างประเทศ อนาคตยังมีเป้าหมาย การทำประโยชน์เพิ่มขึ้นจากมันสำปะหลังในมุมมองอื่นๆ ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการวิจัย

บริหารธุรกิจด้วยการระดมความคิด พาธุรกิจไม่สะดุด
สำหรับการบริหารงานของ บริษัท เวลตี้ ม็อกกี้ อินโนเวชั่น จำกัด แบ่งหน้าที่ตามความถนัดและความเชี่ยวชาญออกไปในแต่ละด้าน เพราะเชื่อว่าการระดมความคิด สามารถป้องกันข้อผิดพลาด ปิดช่อโหว่ และสามารถส่งเสริมทุกคนในบริษัทให้ทำงานได้อย่างราบรื่น
นอกจากนี้ยังเชื่ออีกว่า การที่ระดมความคิดสามารถให้ทุกคนรู้เรื่องทุกอย่างในบริษัท ช่วยกันตัดสินใจ หาหนทางที่ดีที่สุดออกมาได้ การที่เรารู้ทุกอย่างในบริษัทของทุกคนรู้เหมือนกัน การประสานงานก็จะดีกว่า การที่จะเติบโตไปในอนาคต ถ้าทุกคนรู้เรื่องเหมือนกันหมด ไม่ว่าใครจะหายไป ทุกคนก็จะพาบริษัทไปต่อได้
นอกจากนี้ยังมีหลักคิดในการทำธุรกิจอีกว่า การทำธุรกิจกับเพื่อนยิ่งต้องใช้ความจริงใจ ซื่อสัตย์ โปร่งใสพยายามหาความรู้อย่างรวดเร็วในเวลาจำกัด เพื่อทำให้ทุกอย่างเป็นระบบและถูกต้องที่สุด ทั้งถูกต้องในทางจิตใจและกฎหมายด้วย เพราะเชื่อว่าบริษัทจะโตได้ต้องมีความถูกต้อง ถ้าเราทำผิดเราไม่กล้าที่จะโต

ท้ายนี้คุณอภินันท์ เชื่อว่า คนจะจับจ่ายใช้สอยสินค้าที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงมากขึ้น ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต โดยเฉพาะสินค้าเกี่ยวกับแมว ซึ่งเกิดจากเทรนด์ที่มีการเลี้ยงสัตว์ให้เป็นส่วนหนึ่งของคนในครอบครัว เพราะฉะนั้นจะยิ่งทำให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงเหล่านี้เกิดความพิถีพิถันในการเลือกสินค้ามากยิ่งขึ้น
อีกทั้งยังมองว่า ‘ทรายแมวจากมันสำปะหลัง’ ยังมีศักยภาพในตลาดโลก เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีความปลอดภัย และยังเชื่ออีกว่าเทรนด์ทั่วโลกจะมีการเลี้ยงสัตว์มากขึ้น ส่งผลให้ตลาดสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงเติบโตขึ้น
รู้จัก ‘ทรายแมวมันสำปะหลัง’ เพิ่มเติมได้ที่ : https://www.facebook.com/HideandSeekCatLitterOfficial/