งานอดิเรกยุคใหม่ ปลูก ‘บอนสี’ เพลินใจ แถมอาจสร้างรายได้

‘บอนสี’ กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงสถานการณ์โควิด 19 จะเห็นได้จากหลายคนที่มีการแลกเปลี่ยนรูปถ่ายไม้ประดับที่ปลูกกันตามหน้าสื่อโซเชียลอยู่เสมอ ซึ่งนอกจากจะเป็นงานอดิเรกที่ช่วยให้มีกิจกรรมไว้ผ่อนคลายในยามว่างแล้ว ยังช่วยเพิ่มความสวยงามให้บ้านหรือที่อยู่อาศัยให้ดูมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น จึงทำให้คนตามหาไม้ใบสวยหลากหลายรูปแบบเพื่อจะได้มาครอบครอง

เมื่อมีการสะสมในปริมาณมากขึ้น เกิดการเรียนรู้อย่างชำนาญ จากสิ่งที่ทำเพื่อเป็นงานอดิเรกกลับเกิดเป็นสิ่งที่ดีมีคุณภาพและสามารถสร้างรายได้ในเวลาต่อมา โดยต้นบอนสีนั้น เป็นไม้ประดับที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยลักษณะของใบที่มีสีสันแปลกตา รูปร่างลักษณะของใบก็มีความพิเศษ ทำให้หลายคนขนานนามว่าเป็น ราชินีแห่งไม้ใบ ซึ่งบางสายพันธุ์ยังจัดเป็นไม้มงคลที่ช่วยเรียกโชคลาภได้อีกด้วย

สำหรับแหล่งผลิตบอนสีที่ใหญ่ที่สุดในโลก อยู่ในรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ส่วนแหล่งผลิตบอนสีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อยู่ที่ภาคกลาง ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี อยุธยา ซึ่งคาดปริมาณการผลิตกว่า 3 แสนกระถางต่อปี และตลาดบอนสีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตลาดจตุจักร, ตลาดสนามหลวง 2, ตลาดต้นไม้กาญจนาภิเษก, ตลาดมีนบุรี และตลาดกลุ่มเฟซบุ๊ก

นอกจากนี้ เมื่อมีการขยายสายพันธุ์ใหม่ๆ ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้มีการจัดตั้งสมาคมบอนสีแห่งประเทศไทย เพื่อส่งเสริม อนุรักษ์ และพัฒนาการปลูกเลี้ยง รวมถึงการจดทะเบียนชื่อบอนสีที่ได้รับการผสมพันธุ์ขึ้นมาใหม่ จากความสามารถของคนไทย ทำให้การปลูกเลี้ยงและผสมพันธุ์ของบอนสีไม่เป็นที่ยุ่งยาก หรือเกินความสามารถของผู้ที่สนใจ

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

5 อันดับบอนสียอดฮิต ราคาพุ่งแรง

1. บอนสีเมืองเกาะเกร็ด

เป็นอีกหนึ่งในตระกูลบอนที่หลายคนตามหา ด้วยความสวยน่ารักที่ใบจะมีลายจุดสีแดง ชมพู ทำให้ราคาที่พบเห็นสำหรับต้นเล็กหรือต้นอ่อนจะเริ่มต้นที่ ประมาณ  2,000-5,000 บาท  ยิ่งหากมีลวดลายที่สวยแปลกตา มีความด่างสมบูรณ์ของใบ ราคาสามารถพุ่งสูงขึ้น  70,000 บาท

2. บอนสีเพชรเจ็ดสี

อีกหนึ่งบอนสีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงนี้ เนื่องจากมีจุดเด่นคือรอยป้าย รอยด่างขาวเขียว ไปจนถึงด่างเหลือง และจุดแต้มสีชุมพูที่มีอยู่ทั่วใบ ราคาซื้อขายในต้นอ่อน หรือต้นเล็กที่เริ่มมีใบประมาณ 2-3 ใบขึ้นไป เริ่มต้นที่ราคา1,500 บาทขึ้นไป ส่วนต้นที่โตแล้ว มีต้นสมบูรณ์  ใบสมบูรณ์ ก็จะมีราคาสูง 50,000 -60,000 บาทกันเลยทีเดียว

3. บอนสีชายชล

จุดเด่นของบอนสีชายชล คือ ใบสวยดก พร้อมพรั่งไปด้วยสามสีทั้งเขียว แดง ขาว มีลักษณะเป็นใบยาว และเมื่อยิ่งโตยิ่งสวยงดงามเพลินตา ในส่วนของราคาซื้อขายในตลาดออนไลน์เริ่มตั้งแต่ 500 บาท และไต่ระดับไปจนถึง 55,000 บาท จัดว่าเป็นบอนสีที่ได้รับความนิยมมาโดยตลอด ทำให้ราคานั้นจะขยับขึ้นอยู่เรื่อยๆ

4. บอนสีพรหมพิมาน

มีลักษณะเด่นก้านใบสีขาว ใบจะมีรอยป้ายสีชมพูเข้มชัดเจน ตัดกับบริเวณขอบใบที่จะมีสีเขียวเข้ม มีกาบใบและเม็ดสีขาวจนเป็นเอกลักษณ์  สำหรับราคาในต้นขนาดเล็ก เริ่มตั้งแต่หลักพัน  แต่สำหรับต้นที่สมบูรณ์ดีมีลวดลายสวยงามราคาก็จะขยับขึ้นไป 8,000-9,000 บาท

5. บอนสีอัปสรสวรรค์

ลักษณะของใบจะมีพื้นสีขาว อมเขียวอ่อน และอมชมพู มีรอยป้ายเป็นสีแดงสดสวยงาม ในส่วนของราคาอยู่ในเกณฑ์ที่จับต้องได้ง่ายกว่าบอนสีชนิดอี่นๆ  สำหรับราคาซื้อขายออนไลน์ สำหรับต้นเล็กๆ จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 400-500 บาท ในส่วนของต้นที่โตขึ้นมาก็จะมีราคาอยู่ในหลักพันบาท ไปจนถึงหลักหมื่น

แนะทริกการดูแลบอนสีง่ายๆ

การปลูกบอนสีในกระถาง ควรใช้ดินร่วนผสมวัตถุอินทรีย์ หรือดินขุยไผ่ ผสมใบทองหลาง ใบมะขาม หรือใบก้ามปู ด้วยอัตรา 2:1 เพราะบอนสีจะเจริญเติบโตและออกใบสวยงามในดินโปร่ง ระบายน้ำได้ดีและมีแร่ธาตุสูง และมีไม้ค้ำที่ก้านใบ เพื่อให้ก้านแตกกอเป็นระเบียบสวยงาม ไม่หักหรืองอ แต่หากต้องการปลูกเป็นแปลงใหญ่เพื่อการขยายพันธุ์ ควรใช้ดินร่วนปนทรายผสมปุ๋ยคอก แกลบดิน และขุยมะพร้าว ในอัตรา 1:1:1 และนำฟางข้าวมาคลุมแปลงไว้ เพื่อลดการระเหยของน้ำ 

ในช่วงฤดูร้อนหรือสภาพอากาศปกติทั่วไป ควรรดน้ำตอนเช้าวันละ 1 ครั้ง หลีกเลี่ยงการรดน้ำใกล้โคนต้น เพราะอาจจะทำให้ก้านใบหักได้ นอกจากนี้ควรมีจานรองกระถางหล่อน้ำไว้ตลอดเวลา เนื่องจากเป็นต้นไม้ที่ชอบความชื้นสูง

ควรลดการให้น้ำช่วงฤดูหนาว เพราะเป็นช่วงพักตัวและทิ้งใบ ระหว่างนี้ให้นำหัวบอนสีมาทำความสะอาด ชุบน้ำยาป้องกันเชื้อรา นำไปผึ่งให้แห้งประมาณ 15 วัน แล้วนำไปเก็บในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก เมื่อถึงฤดูปลูกหรือบอนสีเริ่มผลิใบค่อยกลับมารดน้ำตามปกติ

ทั้งนี้ควรปลูกบอนสีในที่มีแสงแดดรำไร เช่น แดดตอนเช้าช่วง 09.00-10.00 น. หากโดนแดดร้อนจัดมากเกินไปจะทำให้เกิดใบไหม้หรือสีซีดได้ สำหรับการปลูกบอนสีในบ้านควรวางในที่ที่มีแดดรำไร เช่น ใกล้หน้าต่าง และหมั่นหมุนกระถางเข้าหาแสง หรือนำกระถางปลูกไปวางกลางแจ้งสัปดาห์ละครั้ง และหลีกเลี่ยงการปลูกในห้องแอร์ เพราะอาจจะทำให้บอนพักตัวและทิ้งใบ และหมั่นเปลี่ยนดินปีละครั้งหรือเมื่อดินแน่น 

แหล่งอ้างอิง :

https://www.thairath.co.th/

https://www.baanlaesuan.com/

https://www.technologychaoban.com/

https://youtu.be/