ตั้งสติดีๆ !!! 5 วิธีรับมือเมื่อต้องเจอคู่แข่งที่เหนือกว่า
ภายใต้บริบทสังคมโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จากการเร่งเร้าของกระแสเทคโนโลยีดิจิทัล Digitalization กระบวนการปรับใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งส่งผลสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจ และถ้าธุรกิจของคุณเป็นอีกหนึ่งที่กำลังถูก Disrupt อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล ที่ทำให้เกิดคู่แข่งใหม่ๆ เยอะขึ้น ช่องทางการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าน้อยลง จำนวนลูกค้าลดลงอันเนื่องจากพฤติกรรมใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจากกระแสโควิด 19 หรือ New Normal ที่ปรับเปลี่ยนสู่วิถีชีวิตรูปแบบใหม่ โดยอาจจะมีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาพร้อมการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่า โดนใจลูกค้ามากกว่า หรืออะไรก็ตามที่ส่อเค้าว่า ธุรกิจของคุณกำลังเผชิญเหตุการณ์ที่อาจนำไปสู่ช่วงขาลงหรืออาจจะแย่กว่านั้น ลองนำ 5 คำแนะนำเหล่านี้ มาปรับใช้ดู
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
5 วิธีรับมือเมื่อธุรกิจเจอการ
Disrupt จากคู่แข่งที่เหนือกว่า
1. ซื้อกิจการหรือร่วมการลงทุน
วิธีนี้เป็นวิธีที่ธุรกิจที่มีอยู่แล้ว
นำมาใช้เพื่อป้องกันการที่เกิดคู่แข่งรายใหม่ที่จะเข้ามา และยังนำวิธีมาต่อยอดจากธุรกิจเดิมที่มีอยู่แล้วได้อีกด้วย
ยกกรณีที่ Facebook เข้าซื้อกิจการของ
Instagram มาเป็นของตนเอง หรือธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่ในไทยไล่ซื้อธุรกิจค้าปลีกต่างชาติที่เป็นคู่แข่ง
หรือแม้แต่ธุรกิจร้านอาหารที่ไล่ควบรวมกิจการร้านอาหารที่เป็นคู่แข่ง
ซึ่งหลายคนอาจมองว่าวิธีนี้อาจต้องใช้เงินเยอะ
ดังนั้นการร่วมทุนหรือเจรจาของเป็นหุ้นส่วน ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทำให้ลดการแข่งขันลงไปได้
แถมยังสามารถแสวงหาโอกาสจากตลาดใหม่ๆ ที่เกิดการร่วมทุนได้ด้วย
2. เปิดธุรกิจใหม่เข้าประชัน
อีกวิธีหนีตายและปั้นธุรกิจให้อยู่รอด
คือการเปิดธุรกิจใหม่ๆ หรือออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในกรณีที่ไม่สามารถสยบคู่แข่งหรือร่วมมือกันไม่ได้
ทางเดียวคือปักหลักสู้ โดยการเปิดธุรกิจใหม่ขึ้นมาแข่งกับคู่แข่งในตลาด อาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย
แต่ต้องประกอบด้วยการ Rethinking แผนธุรกิจและรูปแบบธุรกิจใหม่
ให้เข้ากับบริบททางสังคม และสิ่งที่จำเป็นมากที่สุดสำหรับเอสเอ็มอี คือแผนธุรกิจในการสร้างมูลค่าและรายได้ใหม่ๆ
ทั้งต้องเตรียมสภาพคล่อง รักษาบุคลากรที่มีความสามารถเอาไว้
และเพิ่มทักษะให้สูงขึ้น สิ่งเหล่านี้จะทำให้ธุรกิจใหม่ หรือผลิตภัณฑ์ใหม่สามารถประชันกับคู่แข่งในตลาดได้อย่างทัดเทียม
3. ทำความเข้าใจกับลูกค้าและใช้เทคโนโลยีเข้าสู้
กระแส
Digitalization เป็นสิ่งที่ธุรกิจเลี่ยงไม่ได้
ด้วยเหตุนี้ต้องสังเกตพฤติกรรมของคน และมองให้ออกว่า End to end หรือขั้นตอนตั้งแต่ผู้บริโภคพิจารณาจะซื้อสินค้าไปจนถึงปิดการขายและดูแลหลังการขายนั้น
ในแต่ละขั้นตอนผู้บริโภคมีพฤติกรรมการใช้อย่างไร
และถ้าสามารถนำเทคโนโลยีมาใช้อย่างเหมาะสม (Proper technology) จะเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด และทำให้เห็นข้อเท็จจริงว่า ในกระบวนการให้บริการของเรามีจุดไหนที่ไม่จำเป็นหรือไม่
หรือแม้แต่การพัฒนาไปสู่สินค้าใหม่ บริการใหม่ๆ
ที่ผู้บริโภคกำลังมองหาอยู่แต่ยังไม่มีสิ่งนั้นอยู่ในตลาด
4. รักษาลูกค้าเดิมไว้ให้ดีที่สุด
ธุรกิจจะยั่งยืนถ้าลูกค้ายังคอยสนับสนุน
ดังนั้นลูกค้าเก่า ลูกค้าดั้งเดิมที่เป็นรอยัลตี้ ต้องรักษาไว้ให้ได้ อาจใช้วิธีการรักษาลูกค้าเฉพาะกลุ่มที่คู่แข่งไม่สามารถแย่งชิงลูกค้ากลุ่มนี้ไปจากเรา
ให้เขายังอยู่เชื่อมั่นในธุรกิจของเราอยู่ เช่นหลายธนาคารต้องการรักษาฐานลูกค้าไว้
เนื่องจากมีบริการอื่น ๆ เข้ามาเสนอช่องทางการชำระเงิน โดยการยกเลิกค่าธรรมเนียมในบริการต่างๆ
ของธนาคาร หรือลูกค้าร้านอาหารที่เป็นลูกค้าประจำจะได้สิทธิพิเศษในการบริการและราคา
เป็นต้น
ทั้งหมดนี้คือการหาวิธีการใดก็ได้ที่จะสามารถทำให้ลูกค้ายังคงกลับมาซื้อหรือใช้บริการของธุรกิจเรา
5. ปรับตัวไปทำธุรกิจรูปแบบอื่น
ทฤษฎีนี้คือ ถ้าสู้ไม่ได้
ก็ถอย...ซึ่งการปรับตัวไปทำธุรกิจรูปแบบอื่นอาจเป็นทางรอดของการทำธุรกิจ
โดยหันไปทำธุรกิจที่ยังสามารถอยู่ในตลาดและยังสามารถบริหารธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ
เช่น ผู้ให้บริการด้านสัญญาณโทรศัพท์มือถือในปัจจุบัน เปลี่ยนจากขายการโทรเป็นการให้บริการด้านอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก
ธุรกิจสื่อรายวันที่เป็นกระดาษปรับไปสู่ออนไลน์
ธุรกิจค่ายเพลงหันไปพัฒนาในช่องทางยูทูป พัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์
หรือหารายได้จากการแสดงคอนเสิร์ต
ดารานักร้องหันไปใช้ช่องทางออนไลน์สร้างตัวตนเป็น Influencers มากขึ้น สิ่งเหล่านี้ตัวอย่างของการออกจากรูปแบบธุรกิจเดิมๆ
ไปทำธุรกิจใหม่ หรือรูปแบบใหม่ๆ เพื่อความอยู่รอด ฉีกหนีจากคู่แข่ง และสอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่
แต่ถ้าคุณได้ลองทำมาตามที่เราแนะนำแล้ว
หากยังไม่ประสบผลสำเร็จ ท้ายที่สุดก็ต้อง ‘ออกจากตลาด’ เมื่อเห็นแล้วว่าธุรกิจไม่สามารถแข่งขันได้ หรือทำต่อไปก็ไม่มีทางจะดีขึ้นได้
โดยการขายกิจการเพื่อให้ได้เงินทุนกลับมา
ถึงจะไม่ได้กำไรแต่ก็ได้เงินทุนกลับมาแค่บางส่วนก็ยังดี
ทั้งนี้ก่อนการกระทำอะไรลงไป
เราอยากให้คุณเริ่มต้นด้วยการตั้งสติ คิดหาเหตุและผลที่เกิดขึ้น ในกรณีที่ธุรกิจที่กำลังเผชิญในขณะนี้
ว่าสาเหตุที่แท้จริงนั้นคืออะไร เพราะบางขณะเราอาจยังมองไม่ออกว่าเหตุที่เกิดขึ้นนำไปสู่ผลที่ตามมานั้น
มาจากเหตุปัจจัยใด เพราะการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมาปรับธุรกิจอาจเป็นเรื่องที่ดี
แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของความเหมาะสมด้านงบประมาณและสภาพคล่องของธุรกิจด้วย
ที่สำคัญคือต้องคิดก่อนทำว่า ‘จำเป็น’ หรือไม่ด้วย