ในช่วงนี้แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของประเทศไทยต่างเงียบเหงาเป็นประวัติศาสตร์
เนื่องจากกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นตัวเลข “0” จากการแพร่ระบาดของโควิด
19 ทั่วโลกยังทวีความรุนแรง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผลไม้ไทยกระทบกระเทือนมากนัก เพราะยังคงมีความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคชาวไทยและตลาดต่างประเทศ
ทำให้เกษตรกรไทยยังสามารถยิ้มได้ โดยเฉพาะตลาดส่งออกไปประเทศจีนยังคงชื่นชอบผลไม้จากไทยไม่จางหาย
ไม่วาจะเป็นทุเรียน มังคุด ลำไย มะม่วง ชมพู เงาะ ส้มโอ กล้วยไข่ และมะขามหวาน
ยังขายดีเป็นพิเศษ
เช่นเดียวกับผลไม้ “ขนุน” ที่ปัจจุบันผู้บริโภคชาวจีนนิยมรับประทานไม่แพ้
“ทุเรียน” เนื่องจากผู้บริโภคชาวจีนมีความเชื่อว่ากินเนื้อสีทองของขนุนเป็นมงคล
กินแล้วการค้าจะได้ผลดีมีผลตอบแทนเป็นทอง จึงนิยมนำมาเป็นเครื่องเซ่นไหว้เทพเจ้า
ขนุนจึงเป็นที่ต้องการของตลาดจีนไม่แพ้ทุเรียน โดยเฉพาะช่วงเทศกาลตรุษจีน
ราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 45-50 บาท
ทั้งนี้เพื่อตอบสนองความต้องการตลาดที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ กรมส่งเสริมการเกษตรได้สนับสนุนให้เกษตรกรปลูกสวนขนุนมาตั้งแต่ปี 2561 โดยเฉพาะส่งเสริมปลูกขนุนเป็นรายจังหวัด รวมทั้งหมด 62 จังหวัด บนเนื้อที่ 50,124 ไร่ อาทิ จันทบุรี ชลบุรี ระยอง เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ฯลฯ โดยได้ผลผลิตรวม 88,740 ตัน ผลผลิตต่อไร่ 4,798 กิโลกรัม ซึ่งปัจจุบันไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
พิจิตรส่งเสริมเกษตรกรปลูกขนุนพันธุ์ทองประเสริฐ
ปัจจุบันเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดพิจิตรมีทั้งผู้ที่มีอาชีพทำนาและเป็นชาวสวนปลูกส้มโอ
แต่สนใจที่จะขอปลูกพืชหลากหลายเพื่อเป็นทางเลือกทางรอดดีกว่าที่จะเสี่ยงปลูกพืชเชิงเดี่ยว
ทำให้ นายศุภเดช แสนภูมินิเทศ หัวหน้าฝ่ายอำนวยการ
รักษาการในตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดพิจิตร จึงส่งเสริมกลุ่มเกษตรกรปลูกขนุน
”พันธุ์ทองประเสริฐ” เพื่อรองรับตลาดการส่งออก
โดยสมาชิกกลุ่มผู้ประสงค์ที่จะปลูกขนุน 42 ราย พื้นที่กว่า 200 ไร่
โดยนำต้นแบบการเพาะปลูกขนุนวนขนุนพันธุ์ทองประเสริฐของ นายบุญเลิศ อินทะกะ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 145/1 หมู่
1 บ้านบึงโพธิ์ อ.โพธิ์ประทับช้าง อดีตเป็นเกษตรกรผู้ปลูกส้มโอแต่ตัดสินใจปรับเปลี่ยนพื้นที่เป็นพื้นที่ปลูกขนุน
8 ไร่ ขายได้เกือบ 4 แสนบาทต่อปี แถมต้นทุนต่ำดูแลง่าย
การปลูกขนุนพันธุ์ทองประเสริฐจำนวน 8
ไร่ นายบุญเลิศ บอกว่า ไม่ยุงยากแถมใช้ต้นทุนต่ำ ดูแลง่าย
รายรับจากการขายผลผลิตได้ 4 แสนบาทต่อปี
ซึ่งการดูแลนั้นจะมีรายจ่ายค่าสูบน้ำ-ค่าปุ๋ย-ค่ายาและอื่นๆ รวมแล้วประมาณ 4
หมื่นบาท หักลบกลบหนี้แล้วมีรายรับดีกว่าทำนาปลูกข้าวหรือปลูกส้มโอ
ในส่วนของเรื่องการตลาดก็มีผู้มารับซื้อถึงที่ได้ราคาดังนี้
เกรด A คัดพิเศษ ขนาด 13 กิโลกรัม/ผล ขายได้ 30-50 บาท/กิโลกรัม, เกรด
A ขนาด 10 กิโลกรัม/ผล ขายได้ 15 บาท/กิโลกรัม, กรด B ขนาด 8-10 กิโลกรัม/ผล ขายได้ 12 บาท/กิโลกรัม,
เกรด C ขนาด 7-8 กิโลกรัม/ผล ขายได้ 10 บาท/กิโลกรัม,
เกรด D คือผลเล็กกว่า 5 กิโลกรัม/ผล ส่งขายต่างประเทศไม่ได้
ก็สามารถขายตลาดภายในประเทศได้กิโลกรัมละ 10 บาท เรียกได้ว่าขายได้ทุกขนาดทุกไซส์
(ราคามีปรับขึ้น-ลงตามสภาวะการตลาดและฤดูกาล) แต่ถ้าเป็นตลาดส่งออกก็ขายไปยังประเทศจีน
ซึ่งจะได้ราคาสูงกว่าขายในประเทศ
กลุ่มผู้บริโภคจีนชื่นชอบรับประทานขนุนไม่แพ้ทุเรียน
ขณะที่เกษตรกรชาวไทยมัวแต่ไปตื่นเต้นกับการปลูกทุเรียนส่งออกตลาดจีน
แต่นางนางยุพา เรืองโรจน์ เกษตรกรผู้ปลูกขนุนบนพื้นที่ 10 ไร่
บ้านหนองนกน้อย ต.หิน-เหล็กไฟ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ บอกว่า
กลุ่มผู้บริโภคชาวจีนชื่นชอบรับประทาน “ขนุน” ไม่แพ้ “ทุเรียน” อีกทั้งยังขายได้ราคาแพงไม่แพ้กัน
ซึ่งข้อดีของการทำสวนขนุนนั้นไม่ต้องดูแลมาก แค่หมั่นตัดแต่งกิ่งไม่ให้รกเกินไป
ใส่ปุ๋ยคอกไร่ละ 3 กระสอบ ปีละ 2 ครั้งก็เพียงพอ
ที่สำคัญโรคยังน้อยไม่ค่อยมีแมลงรบกวนจะมีก็แค่ลำต้นมักเกิดเชื้อรา
จึงต้องฉีดยาป้องกันเชื้อราที่โคนต้นเดือนละครั้งเท่านั้น โดยต้นขนุน 1
ต้นออกลูกเฉลี่ยครั้งละ 100-200 ลูก สามารถตัดลูกลูกอ่อนขายได้ทั้งปี
ซึ่งแต่ละต้นจะเหลือลูกไว้ทำขนุนใหญ่ต้นละ 10-20 ลูกเพื่อส่งขายตลาดในประเทศและต่างประเทศ
“ปกติขนุน 1 ไร่ ปลูกได้ประมาณ 35-40
ต้น เมื่อปลูกครบ 3 ปี หากต้นสมบูรณ์จะเริ่มเห็นดอก 3 เดือนต่อมาเริ่มได้ลูกอ่อนขนาดที่ล้งต้องการ
ให้เลือกไว้ลูกที่ทรงกลมสวยสมบูรณ์แค่ต้นละ 2-5 ลูกเท่านั้น เพราะต้นอายุ 3 ปี
ยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ เมื่อตัดลูกเสร็จแล้วให้ใส่ปุ๋ยสูตรเสมอ 16-16-16
เพื่อบำรุงต้นให้สมบูรณ์ทุกครั้ง จนกว่าจะตัดครั้งใหม่
เมื่อต้นมีอายุมากขึ้นสามารถเก็บลูกไว้เพิ่มขึ้นตามลำดับ แต่อย่าให้เกินต้นละ 20
ลูก"
นางยุพา บอกว่า
แม้ขนุนจะออกลูกได้ตลอด แต่ปกติจะไว้ลูกแก่เก็บ 2 ช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. และ
ม.ค.-ก.พ. เพราะเป็นช่วงที่ราคาดี แต่หากกรณีครบอายุแล้วต้นยังไม่มีดอกให้เปิดตาดอก
โดยการหว่านปุ๋ยสูตร 8-24-24 ต้นละ 4-7 กรัม แล้วฉีดฮอร์โมนเสริมที่กิ่ง 20-30 วัน
จะเริ่มเห็นดอก สำหรับเคล็ดลับในการทำขนุนเกรด A ลูกกลมไม่เบี้ยว ขนาด 10 กิโลกรัมขึ้นไป ให้เลือกลูกที่สวยสมบูรณ์
ไว้กิ่งละ 2-3 ลูก ต้นละไม่เกิน 10-15 ลูก ที่เหลือตัดเป็นขนุนอ่อนขาย ฉีดฮอร์โมน
ธาตุอาหารเสริม อาทิตย์ละครั้ง เมื่อลูกยังเล็ก พอโตแล้วฉีด 3 อาทิตย์ครั้ง
จนกว่าจะเก็บเกี่ยวผลผลิต ในหนึ่งปีต้องเว้นช่วงไม่ให้ออกดอก 2 เดือน
เพื่อให้ต้นขนุนได้เก็บสะสมอาหารอย่างเต็มที่
แนะเคล็ดลับเกษตรกรมือใหม่ อยากลงทุน
ต้นทุนการปลูกขนุนมีไม่มาก 1 ไร่
ปลูกได้ 40 กว่าต้น ราคาต้นพันธุ์ ต้นละ 50-60 บาท สำคัญคือต้องมีแหล่งน้ำ
ถ้าไม่มีน้ำปลูกพืชสร้างสวนไม่ได้ ปุ๋ยใช้ไม่มาก ใช้เคมีสลับกับขี้วัวบ้าง 1
กิโลกรัม ใส่ได้ตั้งหลายต้น ต้นทุนคนงานทำคนเดียวยังไหว เพราะสมัยนี้ข้าราชการวัยเกษียณออกมาทำเกษตรกันเยอะพวกเขายังทำกันได้
ปลูกขนุนทำคนเดียวได้ไม่ยุ่งยากอะไร ถึงเวลาตัดขายยกไม่ไหวก็จ้างคนยกมาสัก 1 คน
ขนุนลูกใหญ่ 1 ต้น ตัดแป๊บเดียวก็เสร็จ
ตัดไม่กี่ลูกก็ตันหนึ่งแล้วและสามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำต่อปี
ขนุนราคาดีมาโดยตลอด ยิ่งตอนนี้ตลาดจีนสั่งซื้อสินค้าจากไทยไม่อั้น จึงกลายเป็นโอกาสทองของเกษตรกรชาวสวนขนุนและเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่ให้ผลตอบแทนดี ปลูกดูแลง่ายกว่าทุเรียนเยอะ ที่สำคัญขนุนถ้าติดดอกก็ติดลูกทั้งหมด แต่ทุเรียนติดดอกแล้วยังมีโอกาสร่วง หรือบางครั้งร่วงหมดต้นก็ได้ถ้าใบอ่อนทุเรียนไม่ดี