ครบเครื่องเรื่อง Intralogistics ‘เจนบรรเจิด’ Specialist อุปกรณ์และระบบคลังสินค้าอัจฉริยะ

ธุรกิจที่ดำเนินกิจการเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ใช้ในคลังสินค้าในเมืองไทยมีจำนวนไม่น้อย กลายเป็นคำถามที่น่าศึกษาว่า คุณประเสริฐ เจนศิริวานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจนบรรเจิด จำกัด บริหารองค์กรอย่างไร จึงสามารถยกระดับจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายลังพลาสติกไปสู่ผู้นำด้าน Intralogistics (การบริหารจัดการเคลื่อนย้ายวัตถุดิบและสินค้าภายในอาคารสถานที่) ชั้นนำของบ้านเรา

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

จากแนวคิดเล็กๆ จุดประกายโอกาสสู่ Big Business

คุณประเสริฐ กล่าวว่า ธุรกิจของบริษัท เจนบรรเจิด จำกัด เริ่มต้นจากการเห็น Pain Point ของผู้ประกอบการผลไม้ที่การใช้ภาชนะในยุคนั้น มีการเกิดความเสียหายกับผลไม้ - ขนส่งลำบาก นำมาสู่แนวคิดอยากจัดจำหน่ายภาชนะพลาสติกสำหรับขนส่งผลไม้

ในปี 2527 จึงได้ร่วมทุนกับโรงงานผลิตสินค้าพลาสติกแห่งหนึ่ง สร้างแม่พิมพ์เพื่อผลิตลังพลาสติก จำหน่ายในวงการเกษตร ซึ่งได้รับผลตอบรับดี จึงขยายการผลิตภาชนะพลาสติกขนาดอื่นๆ จำหน่ายให้กับภาคประมง ภาคอุตสาหกรรม หลังจากที่บริษัททำการตลาดในวงการอุตสาหกรรม ทำให้เรียนรู้ว่าลังพลาสติกที่จำหน่าย เป็นส่วนหนึ่งในระบบอุปกรณ์เคลื่อนย้ายสินค้าในโรงงาน - คลังสินค้า (Materials Handling) ซึ่งก็คือ อุปกรณ์จัดเก็บ ยก ย้าย

เจนบรรเจิดจึงขยายธุรกิจจากการจัดจำหน่ายภาชนะพลาสติกสำหรับใช้ในโรงงานและคลังสินค้า ไปสู่การนำเข้ารถเข็นอเนกประสงค์จากญี่ปุ่น - ไต้หวัน ส่วนรถยกนำเข้าจากเยอรมนีและอิตาลี จากนั้นบริษัทฯ จึงได้พลิกบทบาทมาเป็นผู้ผลิตรถเข็น ส่งออกไปยัง 30 ประเทศใน 4 ทวีป

Jenbunjerd Catalogue ดันธุรกิจเติบโต

อีกจุดเปลี่ยนที่ทำให้บริษัทเติบโตมาจนถึงปัจจุบัน คุณประเสริฐ เผยว่า เกิดขึ้นในปี 2553 ขณะนั้นเจนบรรเจิดมีแนวคิดขยายธุรกิจอีกครั้ง จากความเข้าใจในความต้องการลูกค้า จึงได้รวบรวมอุปกรณ์จัดเก็บ ยก ย้าย ที่จำหน่ายอยู่แล้ว เช่น รถลากจูงระบบไฟฟ้า รถยกสูงชนิดต่างๆ ชั้นวางสินค้า พาเลท ภาชนะพลาสติก มารวมกับสินค้าเครื่องมือเครื่องใช้ในภาคอุตสาหกรรม จัดทำเป็นแคตตาล็อกเล่มใหญ่ในชื่อ Jenbunjerd Catalogue แล้วจัดส่งไปยังกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งการเปิดเว็บไซต์ Jenbunjerd.com ในปี 2553

“บริษัทเป็นเจ้าแรกในเมืองไทยที่ทำแคตตาล็อกและเว็บไซต์นำเสนอสินค้ากลุ่ม Intralogistics รวมทั้งอุปกรณ์สำหรับคลังสินค้าและโรงงานอุตสาหกรรมแบบครบวงจร เพื่อสร้างความสะดวก -  คล่องตัว ส่งผลให้ลูกค้าจาก 2,000 - 3,000 ราย กลายเป็น 15,000 รายในปัจจุบัน"

Jenbunjerd Catalogue สู่ One Stop Service

สำหรับเรื่องนี้ คุณประเสริฐ อธิบายว่า เนื่องจากแคตตาล็อกที่บริษัทจัดทำขึ้น ครอบคลุมความต้องการใช้งานของลูกค้า ปัจจุบันผลิตออกมาเป็นเล่มที่ 9 มีสินค้าทั้งหมดประมาณ 11,000 รายการ และยังมีการบริการ - อำนวยความสะดวก รวมถึงการส่งฟรี 16 จังหวัดใกล้เคียงกรุงเทพมหานคร ซึ่งช่วยให้ลูกค้าประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย

สิ่งสำคัญของ Intralogistics ก็คือการยกระดับอุตสาหกรรมการจัดเก็บ ยก ย้าย ซึ่งสินค้าของเจนบรรเจิดต้องมีการให้คำแนะนำ เนื่องจากลูกค้าแต่ละรายมีความต้องการใช้งานในแต่ละธุรกิจที่ต่างกัน โดยบริษัทสามารถให้คำปรึกษาต่างๆ รวมถึงการ After-Sales Service จนทำให้เกิด Word of Mouth แนะนำปากต่อปากให้มาใช้บริการของบริษัท ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ทุกธุรกิจต้องใส่ใจ

จาก One Stop Service สู่ Total Solutions

คุณประเสริฐ เล่าว่า จากการเล็งเห็นเทรนด์การใช้ระบบออโตเมชั่น เนื่องจากปัญหาค่าแรง การขาดแคลนแรงงาน รูปแบบการทำธุรกิจที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงเทคโนโลยีพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ในปี 2557 เจนบรรเจิดจึงได้ขยายธุรกิจโดยรุกตลาดสินค้านวัตกรรมด้าน Intralogistics ที่ทำงานด้วยระบบออโตเมชั่น เช่น การใช้รถลากจูงสินค้าไร้คนขับ (AGVs), หุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ (Shuttle Rack) และระบบเบิกจ่าย-จัดเก็บสินค้าอัตโนมัติ (AS/RS)

“ปัจจุบัน ‘เจนบรรเจิด’ บริการให้คำปรึกษา ออกแบบ รวมถึงการติดตั้งระบบ AS/RS ทั้งระบบ นำมาสู่การเป็น Total Solutions ด้าน Intralogistics”

‘นวัตกรรม Automation’ ก้าวต่อไปของ เจนบรรเจิด

กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจนบรรเจิด จำกัด กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์โควิด 19 ทำให้ธุรกิจส่วนใหญ่ชะลอตัว บริษัทจึงใช้โอกาสนี้เตรียมตัว พัฒนาสินค้า ระบบงานภายใน และบริการใหม่ๆ ในระดับนวัตกรรม โดยบริษัทได้จัดตั้งศูนย์นวัตกรรม (Product Innovation Center) เพื่อผลิตสินค้า เช่น หุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ

ออโตเมชั่นกำลังจะเป็นกระแสหลักของโลกปัจจุบัน การขาดแคนแรงงาน การเกิดวิกฤตเช่นโควิด รวมถึงสถานการณ์ต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เป็นเรื่องที่ทุกองค์กรไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ต้องเผชิญและต้องปรับตัวให้ก้าวทันกับความเปลี่ยนแปลงให้ได้ หลายคนอาจมองว่าระบบออโตเมชั่นเหมาะสำหรับองค์กรใหญ่เท่านั้น แต่จริงๆ องค์กรขนาดเล็กและ SME ก็สามารถนำมาช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพได้เช่นกัน

นอกจากการพัฒนาสินค้า ยังมีอะไรที่ภาคธุรกิจควรให้ความสำคัญ

ในเรื่องนี้ คุณประเสริฐ ให้ความเห็นว่า การเข้าใจลูกค้าคือสิ่งสำคัญที่สุด เพราะทำให้สามารถผลิตสินค้าและบริการที่ตอบสนองความต้องการได้อย่างตรงจุด ตั้งแต่เริ่มต้นทำธุรกิจจากจำหน่ายลังพลาสติกไปสู่ผู้นำด้าน Intralogistics ‘เจนบรรเจิด’ ได้มีการพัฒนาสินค้า - เพิ่มผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จ ซึ่งนอกเหนือจากเรื่องสินค้าแล้ว การพัฒนาระบบงาน ระบบ IT และบุคลากร ก็ควรให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน เพราะเป็นองค์ประกอบที่จะทำให้ภาคธุรกิจเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ

รู้จัก ‘บริษัท เจนบรรเจิด จำกัด’ เพิ่มเติมได้ที่

https://www.jenbunjerd.com/

https://www.jenbunjerdstore.com/

https://www.facebook.com/Jenbunjerd/