Kam’s Roast Goose ห่านย่างระดับมิชลิน 5 ปีซ้อน

 ห่านย่างฮ่องกงจะมีขายตั้งแต่ street food  ไปจนขึ้นเหลาหรือภัตตาคารโรงแรมระดับห้าดาว โดยเฉพาะร้านริมทางจะแขวนห่านย่างตัวใหญ่หนังเกรียมมันเยิ้มเรียงแถวในตู้กระจก ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนเชิญชวนลูกค้าที่ผ่านไปมา Kam’s Roast Goose เป็นร้านห่านย่างดาวรุ่งระดับเทพที่มาแรงแซงทุกร้านในเกาะฮ่องกง ในตอนนี้  เปิดครั้งแรกเมื่อปี 2014  ขายมาได้ 5 เดือน มิชลินก็รีบมาให้ 1 ดาว จากนั้นก็รักษาดาวต่อเนื่องมาถึง 5 ปีซ้อน จนถึงปีล่าสุดคือ 2019 การันตีได้จากคิวของลูกค้าที่ยาวมาก ๆ เรียกว่ากว่าจะได้ลิ้มลองห่านย่าง  มิชลินดาวรุ่งเจ้านี้ต้องรอไม่ต่ำกว่า 30-45 นาที  แต่อาซิ่มที่จัดระเบียบคิวหน้าร้านถือว่ามืออาชีพมาก ๆ เพราะแม้คิวจะยาวขนาดไหนเธอก็สามารถระบายลูกค้าทั้งหน้าร้าน ในร้านและที่ take away กลับบ้านได้อย่างลงตัว [caption id="attachment_28520" align="alignnone" width="600"] Kam’s Roast Goose กับโลโก้เป็ดย่าง สังเกตุได้อย่างชัดเจน[/caption] เรื่องสูตรความอร่อยของร้านนี้ต้องบอกว่าได้มรดกมาจากร้าน Yong Kee ผู้เปิดหน้าประวัติศาสตร์ห่านย่างในตำนานให้กับเกาะฮ่องกงเมื่อปี 1942 ยาวนานมาหลายทศวรรษ  แต่ในช่วงหลังเริ่มมีปัญหาเรื่องศึกสายเลือดเกิดขึ้นเมื่อ Kam Shui Kee ผู้เป็นพ่อและเป็นผู้ก่อตั้งเสียชีวิตเมื่อปี 2004  ทิ้งมรดกร้านห่านย่าง 4 คูหาใจกลางย่านธุรกิจอย่างเซ็นทรัลพร้อมสูตรลับให้กับลูก 4 คนและภรรยา จากนั้นเป็นต้นมาก็เกิดศึกชิงหุ้นมรดกกันยาวนานจนกลายเป็นมหากาพย์ที่จบไม่ลงและจบไม่สวย ในไม่ช้า Yong Kee อาจจะปิดตัวลงเพราะลูก ๆ ทะเลาะกันจนไม่เป็นอันทำมาค้าขาย รสชาติห่านย่างขั้นเทพในยุทธภพกลับมาจืดชืดไร้รสชาติจนมิชลินต้องปลดดาว  แต่ทายาทรุ่นที่ 3 คือ Hardy Kam ซึ่งเป็นลูกชายของ Mr. Kam Kinsen Kwan ลูกชายคนโตของ Kam Shui Kee ไม่เสียเวลามาทะเลาะกับญาติ ๆ สู้เอาสูตรย่างห่านซึ่งเป็นมรดกตกทอดมาทำมาหากินดีกว่า [caption id="attachment_28523" align="alignnone" width="800"] การันตีความอร่อยจากการรับรองของ MICHELIN 5 ปีซ้อน[/caption] ความสำเร็จของร้าน Kam’s Roast Goose เกิดจากความตั้งใจในการทำห่านย่างตามสูตรของปู่ Kam Shui Kee  อย่างเคร่งครัด  ตั้งแต่การเลือกห่านสายพันธุ์หัวดำที่ส่งตรงจากประเทศจีน ต้องเป็นห่านขนาดปานกลางน้ำหนักตัวละ 2.9 กิโลกรัม ซึ่งจะทำให้ห่านไม่อ้วนจนมีไขมันมากเกินไป  และเนื้อของห่านจะนุ่ม นอกจากห่านที่สดใหม่แล้ว  เครื่องปรุงอื่น ๆ ก็ต้องสดใหม่ด้วย และที่สำคัญคือการย่างด้วยมือตามสูตรดั้งเดิมของร้าน Yong Kee ทุก ๆ วันห่านย่างหนังกรอบเกรียม 100 ตัวจะส่งตรงจากที่บ้านมาสู่ร้าน Kam’s Roast Goose ที่ย่านหว่านไจ๋ ซึ่งเป็นร้านขนาดเล็ก 1 คูหา 30 ที่นั่งเท่านั้น แต่จะมีลูกค้าทั้งคนฮ่องกงและนักท่องเที่ยวมายืนรอคิวตั้งแต่ร้านยังไม่เปิด (ร้านเปิด 11.30 น) [caption id="attachment_28526" align="alignnone" width="800"] ภาพที่เคยชินกับความเข้าแถวเฝ้ารอความอร่อยจากผู้มาลิ้มลอง[/caption] มาร้าน Kam’s Roast Goose ต้องสั่งห่านย่างมาเป็นจานแรก  ถ้ามา 2 คนแนะนำให้สั่งมากินครึ่งตัว ซึ่งมีให้เลือกว่าจะกินครึ่งตัวบนส่วนอกหรือครึ่งล่างส่วนน่องสะโพก ซึ่งราคาก็แตกต่างกันตามความอร่อยด้วย แต่ถ้ามา 4 คนสั่งมาลุย 1 ตัวให้สมกับที่ยืนรอคิวนานเป็นชาติ  ถ้ามาคนเดียวแนะนำให้สั่งห่านย่างน่องสะโพกสับโป๊ะบนข้าวมา 1 จาน สนนราคาประมาณ 500 บาท [caption id="attachment_28530" align="alignnone" width="800"] หนึ่งในไฮไลน์สำคัญที่นักชิมจะพลาดไม่ได้ ห่านย่างตัวใหญ่หนังเกรียมมันเยิ้ม[/caption] รสชาติห่านย่างอร่อยขั้นเทพสมศักดิ์ศรีมิชลิน 5 ปีซ้อนจริง ๆ เพราะหนังห่านที่ค่อนข้างหนากว่าหนังเป็ดจึงกรอบเคี้ยวได้รสชาติที่มีกลิ่นหอมของการย่างแบบรมควันสไตล์บาร์บีคิวกวางตุ้ง ขอแนะนำให้ไปกินตอนเช้าจะดีที่สุดเพราะห่านเพิ่งจะลงจากเตาใหม่ ๆ ร้อน ๆ จะสัมผัสได้ถึงหนังมันสีสวยสม่ำเสมอกัดไปเจอความกรอบเกรียมอร่อยสุด ๆ แล้วควรสั่งบะหมี่ของร้านมากินคู่กับห่านย่างด้วยจะperfect สุด ๆ ชิมแค่หนังห่านก็อร่อยแล้ว ลองกัดไปถึงเนื้อห่านที่มีความแน่น เหนียวนุ่มและหอมเครื่องเทศที่หมัก ย่างแบบมืออาชีพที่น้ำเนื้อยังฉ่ำหวานอยู่  ใครไม่กินเนื้อห่านเพราะกลัวว่าจะเหม็นสาบนั้นต้องบอกว่าคุณพลาดของอร่อยแล้ว  ห่านย่างเมืองไทยมีพริกชี้ฟ้าใส่น้ำส้มกับซีอิ๊วดำมาเป็นน้ำจิ้มเปรี้ยวๆ เผ็ดนิด ๆ แก้เลี่ยน  แต่ร้านนี้ใช้น้ำจิ้มบ๊วยเจี่ยที่มีกลิ่นหอมของบ๊วยขึ้นจมูกทีเดียว รสชาติเปรี้ยวหอมของบ๊วยกลับช่วยแก้ความเลี่ยนมันของเนื้อห่านย่างได้อย่างลงตัว [caption id="attachment_28532" align="alignnone" width="800"] ตับห่านย่าง หอมหวานน่าชวนชิม[/caption] เมนูอื่น ๆ ที่แนะนำลองสั่งมาลิ้มลอง คือ ตับห่านที่หอมหวานมันแบบครีมมี่มาก ๆ บอกได้คำเดียวว่าใครได้กินตับห่านร้านนี้แล้วจะลืมฟัวร์กาของฝรั่งเศสไปเลย [caption id="attachment_28537" align="alignnone" width="800"] หมูย่าง หมูแดง กับความฉ่ำของน้ำซอส[/caption] หมูย่าง หมูแดงก็เป็นอีกจานที่ลูกค้านิยมสั่งมาลิ้มลอง  หมูย่างมันน้อย ๆ หนังบางเฉียบกรุบกรอบหอมอร่อย ส่วนหมูแดงดูความฉ่ำก็รู้ว่าต้องอร่อยแน่ ๆ  รสชาติออกเค็มอมหวานกลิ่นหอม ๆ ตามสไตล์หมูแดง  อีกเมนูที่ใครไปก็ต้องสั่งคือ ไข่เยี่ยวม้า  แต่เสียดายที่ไปชิมวันนั้นหมดเสียก่อน  เลยบรรยายไม่ถูกว่าอร่อยอย่างไร  ส่วนเมนูอื่น ๆ ที่ลูกค้านิยมอาทิ ผักน้ำมันหอย ซุป เป็นต้น ไปฮ่องกงคราวหน้า อย่าลืมแวะไปทักทายความอร่อยของห่านย่างที่ร้าน Kam’s Roast Goose ที่ย่านหว่านไจ๋ เปิดบริการเวลา 11.30 -21.30 น.  

เที่ยวรับบรรยากาศกับ “ฟาร์มเกษตร” รอบกรุงเทพฯ

แบกเป้เที่ยวไปสัมผัสธรรมชาติ 7 แห่งที่จังหวัดราชบุรี