'เล-ซี-บอย' ประเทศไทย ต่อยอดแบรนดิ้งหลัก เจาะตลาดคนรักสุขภาพเอเชีย
ณ ร้าน
เฟอร์นิเจอร์ เจียงกี่ อาคารห้องแถว 2 ห้อง บนถนนลงท่า เขตพระนคร คุณปู่พร้อมผู้ช่วย
4-5 คน ช่วยกันเลื่อยไม้แต่ละท่อนตามขนาดที่ต้องการ
บรรจงใช้กบไสไม้ขูดผิวให้ราบเรียบอย่างประณีต ก่อนเจาะรูขนาดต่างๆ ด้วยสิ่วปากแหลม
เพื่อเตรียมรับการเข้าลิ้นไม้ แล้วประกอบไม้แต่ละชิ้นให้เข้ากัน กลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่คงทนสวยงาม
ให้ผู้คนได้เลือกซื้อนำกลับไปใช้ที่บ้านและสำนักงาน
ภาพตราตรึงความทรงจำในวัยเยาว์ที่ คุณธนากร เกษตรสุวรรณ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เล-ซี-บอย ประเทศไทย จำกัด และในเครือ ได้สัมผัสพร้อมเรียนรู้จากธุรกิจของคุณปู่ สู่การพัฒนาเก้าอี้และโซฟาปรับเอนนอนเพื่อสุขภาพแบรนด์ ‘เล-ซี-บอย’ เจาะตลาดเอเชียแปซิฟิก จนเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในต่างประเทศ
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
‘มนุษย์เงินเดือน’
สร้างพื้นฐานธุรกิจ
คุณธนากร เล่าว่า หลังจบปริญญาตรี ได้เข้าทำงานธนาคารประมาณ 3 ปี ได้เห็นได้สัมผัสว่าการทำธุรกิจนั้นมีความน่าหลงใหล สามารถสร้างโอกาส-คุณค่าทางธุรกิจให้เติบโตขึ้นไปเรื่อยๆ
และได้ศึกษาจนเห็นว่าธุรกิจขนาดใหญ่ ดำเนินกิจการอย่างไรจึงประสบผลสำเร็จ ก่อนจะลาออกไปศึกษาต่อจนจบปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ
และมีโอกาสร่วมงานกับ กลุ่มบริษัทพาราวู๊ด ธุรกิจในกลุ่มเฟอร์นิเจอร์ไม้อีกประมาณ
7 ปี
“ด้วยการที่มีโอกาสได้ทำงานหลายตำแหน่งซึ่งมีรูปแบบการทำงานที่แตกต่างแต่สอดประสานกัน
ทำให้วิธีคิดของความเป็นลูกจ้างเริ่มเปลี่ยนไป เป็นความคิดที่ต้องการจะออกไปประกอบธุรกิจเอง
ขณะนั้นอายุ 33 ปี มีความมั่นใจว่าตนมีความพร้อม จึงปรึกษากับครอบครัวเพื่อขอลงมือทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริง
ซึ่งทางครอบครัวตกลงที่จะช่วยสนับสนุน จึงตัดสินใจลาออกจากงานประจำแล้วเริ่มทำธุรกิจ”
ความรู้-ความถนัดที่สั่งสม
บ่มเพาะเป็นธุรกิจ
ธุรกิจแรกที่ คุณธนากร
ทำคือบริษัท
เอ็กซ์เซลเลนซ์ฟอร์ม จำกัด เป็นโรงงานอุตสาหกรรมทำเฟอร์นิเจอร์ออฟฟิศและห้องครัว ต่อมาได้ก่อตั้งบริษัทเทรดดิ้ง เพื่อดำเนินธุรกิจกับคู่ค้าต่างประเทศโดยเฉพาะกับประเทศสหรัฐอเมริกา คุณธนากร ทำ 2 ธุรกิจควบคู่กันเรื่อยมา ก่อนมีโอกาสได้รู้จักกับกลุ่มธุรกิจ ‘เล-ซี-บอย’ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ อยู่ที่รัฐมิชิแกน
สหรัฐฯ เป็นธุรกิจผลิตเฟอร์นิเจอร์จำพวกโซฟาและเก้าอี้ปรับเอนนอน
ภายใต้แบรนด์ เล-ซี-บอย ซึ่งมีความประสงค์จะเข้ามาทำธุรกิจในตลาดเอเชียแปซิฟิก
แต่ไม่มีฐานโรงงานการผลิตในเอเชีย
“บริษัทของผมกับ เล-ซี-บอย อเมริกา จึงมีแนวคิดร่วมมือกันจัดตั้งโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศไทย
เริ่มต้นจากการเช่าอาคารโรงงานผลิตเก้าอี้ เล-ซี-บอย เพื่อจำหน่ายสินค้าทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ
พร้อมขยายการผลิตเรื่อยมา ปัจจุบันมีอาคารโรงงานขนาดใหญ่ 3 อาคาร บนพื้นที่กว่า 50 ไร่”
เลือก ‘แบรนด์นอก’ มาผลิตในไทยอย่างไร
ให้ Success
เรื่องนี้ คุณธนากร เปิดเผยว่า นอกจากที่ เล-ซี-บอย จะสนใจเราแล้ว เราก็ต้องทำการบ้านว่าจะเลือกแบรนด์ไหนมาร่วมทำธุรกิจด้วยเช่นกัน เพราะหากเลือกแบรนด์ผิดก็มีโอกาสสูงที่ธุรกิจจะล้มเหลว ด้วยเหตุนี้จึงต้องศึกษา ทำเซอร์เวย์ และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทั้งเมืองไทยและต่างประเทศ
ก่อนมีการสรุปว่า แบรนด์ เล-ซี-บอย เป็นแบรนด์ที่น่าสนใจ น่าร่วมลงทุน โดยเราต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ในการนำแบรนด์มาทำธุรกิจในตลาดเอเชียแปซิฟิก นอกจากนี้ยังต้องทุ่มเทสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางด้วย
เพราะแม้ว่า เล-ซี-บอย จะเป็นแบรนด์ดังแต่ก็ดังในสหรัฐฯ ในต่างประเทศยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก
โดยเฉพาะตลาดเอเชียแปซิฟิก ดังนั้นจึงต้องสร้างแบรนด์ให้เรฟโวลูชัน ทำให้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักให้ได้
การพัฒนา ‘สินค้า’ ให้เหมาะกับผู้บริโภค
คุณธนากร กล่าวว่าแม้เรื่องนี้จะเป็นเรื่องรองจากการเลือกแบรนด์ แต่ก็เป็นเรื่องที่สำคัญ
โดยปกติสินค้า เล-ซี-บอย จะมีขนาดใหญ่ แต่เมื่อเราทำตลาดในเอเชียซึ่งผู้คนมีรูปร่างเล็กกว่าคนตะวันตก จึงต้องมีการปรับกลยุทธ์รูปแบบสินค้าให้เหมาะสมกับผู้คนเอเชีย
จากนั้นมีการขอสิทธิ์จาก เล-ซี-บอย อเมริกา ในการนำเข้ารูปแบบผลิตภัณฑ์เพื่อพัฒนาสินค้าเองได้ เพื่อให้เกิดโปรดักส์ไลน์คู่กัน โดย เล-ซี-บอย ประเทศไทย นำสินค้าของอเมริกามาพัฒนาต่อยอด
สร้างดีไซน์ใหม่โดยทีมงานคนไทย และมีดีไซเนอร์จากยุโรปช่วยคิดค้นพัฒนาสินค้า
นอกจากนี้ยังมีการพูดคุยกับลูกค้าถึงความต้องการ จนเกิดการพัฒนาเรื่อยมา ส่งผลให้แบรนด์ ‘เล-ซี-บอย’ ประเทศไทย
มีชื่อเสียงในตลาดเอเชียแปซิฟิกในที่สุด
จุดเด่น เล-ซี-บอย ในประเทศไทย
อยู่ตรงไหน?
สำหรับเรื่องนี้ คุณธนากร เล่าว่า
ในฐานะที่ ‘เล-ซี-บอย’ ในประเทศไทย ทำการตลาดในเอเชียแปซิฟิก
จึงมีการคิดค้นพัฒนา จนนำผลิตภัณฑ์ไปสู่ ‘Greatest Feature’ นั่นคือ
Comfort หรือความสบายในการนั่ง
อันเป็นคุณสมบัติหลักของสินค้า ‘เล-ซี-บอย’ ทุกชิ้น โดยมีวิศวกรและนักออกแบบวางโครงสร้างอย่างถูกต้องตามหลักสรีระศาสตร์
Comfort คือ คุณสมบัติหลักที่ ‘เล-ซี-บอย’ ประเทศไทย ตั้งใจตอบโจทย์ผู้บริโภค นอกจากนี้ยังมี Mechanism กลไกสำคัญซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ
เล-ซี-บอย ทำให้การออกแบบโครงสร้างสินค้าสมบูรณ์ รองรับสรีระมนุษย์ดีที่สุด ทำให้หมดปัญหาการนั่งหรือนอนนานแล้วมีอาการปวดเมื่อย
เนื่องจากการออกแบบด้วยระบบโครงสร้างดังกล่าวจะช่วยกระจายน้ำหนักแรงรับจากการนั่ง
การพิง และการเอนนอน มีการเฉลี่ยกระจายน้ำหนัก ทำให้นั่งนอนสบาย ไม่ปวดเมื่อยร่างกาย
ส่งผลให้สุขภาพดีไปด้วย
ตอบโจทย์อย่างไรกับเทรนด์ปัจจุบัน ที่ผู้บริโภคนิยมซื้อสินค้าให้มีความเหมาะกับบ้าน
คุณธนากร เล่าว่าบ้านหนึ่งหลังสำหรับคนที่มีความพร้อม จะมีห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น
ห้องพักผ่อน ซึ่งอย่างน้อย 2-3 ห้องที่ต้องตกแต่ง โดยการตลาดต่างประเทศที่ ‘เล-ซี-บอย’ ทำอยู่ กลุ่มเป้าหมายจะเป็นบ้านขนาดใหญ่ มีโอกาสซื้อเฟอร์นิเจอร์หลากหลายไปตกแต่งบ้าน
ขณะเดียวกัน ‘เล-ซี-บอย’ ประเทศไทย ก็มีสินค้าขนาดกลางและขนาดเล็กที่สามารถตอบโจทย์บ้านขนาดเล็กลง
และการอยู่อาศัยแบบทันสมัยในคอนโดมีเนียม
ด้วยฟีเจอร์ของความเป็น Comfort ที่นั่งสบาย เพื่อการพักผ่อน
ทำให้สินค้าของ ‘เล-ซี-บอย’ ถูกเลือกเป็นอันดับแรกๆ จากความเชื่อมั่นในแบรนด์ที่ไว้วางใจได้
และด้วยความที่คนยุคใหม่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ต้อนรับแขก การอยู่กันเองในครอบครัวมีมากขึ้น
จึงทำให้คุณสมบัติความสบายของ Relaxation
Chair หรือการเป็นเก้าอี้ปรับเอนนอนได้ ของ ‘เล-ซี-บอย’ กลายเป็นสิ่งจำเป็นที่ควรมีไว้ในบ้าน
“ดีเอ็นเอของ เล-ซี-บอย สำคัญมาก เราจึงเน้นออกแบบเก้าอี้นั่งนอนสบาย เพื่อการผ่อนคลาย แต่ก็ปรับดีไซน์ให้เข้ากับเทรนด์ที่ลูกค้าต้องการในปัจจุบันเช่นเดียวกัน”
ทำ ‘การตลาด’ อย่างไรให้ได้ผล?
คุณธนพร เกษตรสุวรรณ (ลูกสาวคนโต) Assistant
General Manager บริษัท โกลบิซ เวนเจอร์ จำกัด ได้กล่าวถึงการตลาด ‘เล-ซี-บอย’ ในประเทศไทย ว่า การโฆษณาสินค้ามีสองแบบคือ การสร้างสินค้าให้ตอบสนอง
Need ของลูกค้า และการมีสินค้าแล้วสร้าง Want ให้กับผู้บริโภค
“สินค้า
เล-ซี-บอย ในประเทศไทย จัดอยู่ในประเภทหลัง ด้วยเหตุนี้เมื่อประมาณ
2 ปีที่ผ่านมาเราจึงมีการเน้นเจาะกลุ่มตลาด 2 กลุ่มคือ 1. ผู้สูงวัย 2. คุณแม่ตั้งครรภ์ เนื่องจากยังไม่มีแบรนด์ใดที่นำความสำคัญของผลิตภัณฑ์เก้าอี้ปรับเอนนอนมาพูดถึงในแง่ของสุขภาพ
เราจึงเน้นเรื่องการให้ความรู้เกี่ยวกับคุณประโยชน์ของสินค้าที่มีต่อคนกลุ่มนี้
โดยนำเสนอสินค้าที่ตอบโจทย์ทั้งคุณภาพ ฟังก์ชั่นการทำงาน และอายุการใช้งานที่ยาวนาน
ในราคาที่เหมาะสม”
อนาคต เล-ซี-บอย จะไปในทิศทางใด?
ด้วยความที่ เล-ซี-บอย เป็นแบรนด์ที่ทั่วโลกให้การยอมรับ คุณธนากรเผยว่า บริษัทฯ
จึงมีความตั้งใจที่จะขยายตลาดไปในประเทศต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
เพื่อสร้างและต่อยอดการยอมรับของแบรนด์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
“ผมทำงานใกล้ชิดกับธุรกิจ
เล-ซี-บอย ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ในตลาดหลักทรัพย์ที่นิวยอร์ก สหรัฐฯ
โดยมีการมองภาพธุรกิจที่ชัดเจน และยังให้ความสำคัญกับเรื่องของแบรนดิ้งเป็นอย่างมาก”
สำหรับ ‘เล-ซี-บอย’ ประเทศไทย ด้วยความที่เป็นฐานผลิตและยังเป็นฐานส่งออกด้วย
จึงก่อตั้งบริษัท เล-ซี-บอย เอเชีย จำกัด เพื่อดำเนินกิจการด้านการส่งออก ส่วนในประเทศจะมีบริษัทตัวแทนจำหน่ายภายใต้ชื่อ บริษัท โกลบิซ เวนเจอร์ จำกัด เป็นผู้ดูแล
ปั้น ‘เอ็กซ์เซลเลนซ์ฟอร์ม’ เป็นอีกแบรนด์ในกลุ่มธุรกิจ
บริษัท
เอ็กซ์เซลเลนซ์ฟอร์ม จำกัด คือโรงงานอุตสาหกรรมแรกที่เริ่มทำธุรกิจ
คุณธนากรจึงให้ความสำคัญในการต่อยอด และขยายธุรกิจนี้ด้วยการทำการสื่อสารด้านดิจิทัลเพิ่มขึ้น เพื่อให้เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคทั่วประเทศ
นอกเหนือจากลูกค้าโครงการ โดย ‘เอ็กซ์เซลเลนซ์ฟอร์ม’ ถือเป็น OEM ที่มีความพร้อมในการผลิต ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างเป็นอีกแบรนด์ในกลุ่มธุรกิจได้
จึงมีการวางแผนการขายสินค้าสำหรับลูกค้าทั่วไปในแพลตฟอร์มออนไลน์ในอนาคตอันใกล้
แบรนด์ ‘เอ็กซ์เซลเลนซ์ฟอร์ม’ จะเติบโตด้วยลูกค้าที่ต้องการตกแต่งบ้าน ห้องนอน ห้องครัว ห้องรับแขก และห้องอื่นๆ โดยสามารถปรึกษารายละเอียดความเหมาะสมรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่การออกแบบตลอดจนการติดตั้งได้อย่างรอบด้าน
คุณอรวรา
เกษตรสุวรรณ (ลูกสาวคนเล็ก) Brand and Marketing Communications Executive บริษัท เอ็กซ์เซลเลนซ์ฟอร์ม จำกัด กล่าวว่า การทำสื่อออนไลน์ของ ‘เอ็กซ์เซลเลนซ์ฟอร์ม’ มีแรงบันดาลใจจากการที่ได้เข้าไปมีส่วนในการออกแบบผลิตเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว
และ Built in ใน La-Z-Boy
Furniture Flagship Gallery ที่ลาดพร้าว ซึ่งมีการสร้างโซน Lazy Condo-Fit
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจำลองโชว์รูมส่วนหนึ่งเป็นห้องคอนโดฯ เพื่อทำให้เห็นว่าเก้าอี้และโซฟา
‘เล-ซี-บอย’ สามารถเข้าไปอยู่ในคอนโดฯ ได้อย่างลงตัวแม้ในพื้นที่จำกัด
“La-Z-Boy
Furniture Flagship Gallery ทำให้เราเห็นช่องทางที่ทำให้ ‘เอ็กซ์เซลเลนซ์ฟอร์ม’ เป็นมากกว่าธุรกิจ B2B แต่สามารถเป็นธุรกิจ B2C ได้ จึงเกิดความสนใจในการทำการตลาด นอกจากนี้ยังถือเป็นการเปิดตลาดใหม่ให้กับบริษัทอีกด้วย”
ธุรกิจและผลกระทบที่เกิดจาก ‘โควิด 19’
คุณธนากร เล่าว่าสถานการณ์โควิดช่วงแรกๆ เกิดผลกระทบพอสมควร
เพราะเป็นการช็อกทั้งตลาดเมืองไทยและทั่วโลก ช้อปปิ้งมอลล์ทั้งหมดถูกสั่งปิด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส รวมถึงโชว์รูมของลูกค้าในต่างประเทศ ช่วงนั้นจึงเป็นช่วงที่ค่อนข้างน่าวิตกเพราะไม่รู้ว่าจะดำเนินธุรกิจอย่างไรต่อไป
‘เล-ซี-บอย’ ประเทศไทย จึงเรียกประชุมหัวหน้างานเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์
ก่อนได้ข้อสรุปว่าต้องมีการปรับลดค่าใช้จ่ายชั่วคราวเพื่อพยุงธุรกิจ
พนักงานทุกคนให้ความร่วมมือเต็มที่ด้วยความเต็มใจ และด้วยความที่บริษัทมีผลประกอบการค่อนข้างดีมาอย่างต่อเนื่อง จึงสามารถประคองธุรกิจต่อไปได้
สร้างความมั่นใจให้กับพนักงานได้ว่าบริษัทจะสามารถสู้วิกฤตไปพร้อมกับพนักงานทุกคนได้
โดยบริษัทสามารถปรับระดับรายได้ของพนักงานให้กลับมาเป็นปกติภายในเวลา
3 เดือนเท่านั้น
ถึงแม้ตอนนี้จะอยู่ในช่วงโควิดระบาดแต่ธุรกิจตกแต่งบ้านก็ยังสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ เนื่องจากผู้คนอยู่บ้านมากขึ้น มีการเดินทางน้อยลง ไม่เกิดการใช้จ่ายเหมือนเช่นช่วงปกติ แต่กลับมีการใช้จ่ายเพื่อคนในครอบครัวมากขึ้น ทำให้สินค้าเกี่ยวกับของตกแต่งบ้าน สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ กลับมามียอดขายเติบโตสวนกระแสวิกฤตโควิด
จากแนวคิดการทำธุรกิจที่ซึมซับมาตั้งแต่เด็กๆ
ก่อนขวนขวายหาความรู้เพิ่มเติม
ที่มาพร้อมวิสัยทัศน์ในการเลือกร่วมทำธุรกิจกับต่างชาติของ คุณธนากร
เกษตรสุวรรณ ส่งผลให้ ‘เล-ซี-บอย’ ประเทศไทย ประสบความสำเร็จในการเข้าไปเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่คนเอเชียในประเทศต่างๆ
ให้ความสนใจ