เทคโนโลยี 5G เป็นที่จับตามองของคนทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ในประเทศไทย
นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของมวลมนุษยชาติ
ที่เราจะสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง
พร้อมทั้งเชื่อมต่อทุกสิ่งอย่างของการใช้ชีวิตเข้าด้วยกัน ซึ่งอย่างที่เคยกล่าวถึงประโยชน์ของ
5G ไปบ้างแล้วว่า จะมีความเร็วสูงกว่า 4G ถึง 1,000 เท่า
อีกทั้งยังสามารถรองรับการเชื่อมต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมแบบชนิดที่ว่าเทียบไม่ติด
ด้วยเหตุนี้ ทำให้การมาถึงของ 5G จะเปลี่ยนไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนทั้งโลกไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เพราะอินเทอร์เน็ตจะไม่ได้เชื่อมโยงแค่กับในโทรศัพท์มือถือเท่านั้น แต่เป็นอินเตอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่ง หรือเทคโนโลยี IoT ที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งอินเทอร์เน็ตจะเป็นทุกสิ่งในชีวิตประจำวันรอบตัวคุณ และทำให้สิ่งเหล่านั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
บางคนอาจนึกภาพไม่ออกว่าการมาถึงของ 5G นั้นเป็นยังไง ลองจินตนาการถึงเครื่องมือ ยานพาหนะ
หรืออาคารสิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่มีวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ซอฟต์แวร์ และเซ็นเซอร์
ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะสามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต และส่งข้อมูลถึงกันได้อย่างรวดเร็ว
สามารถตรวจสอบได้ว่าของในตู้เย็นเหลือมากน้อยแค่ไหน และยังสามารถสั่งซื้อของผ่านออนไลน์เติมของในตู้เย็นได้ทันที
หรือสามารถรับการผ่าตัดทางไกลได้ด้วยเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัย ให้หมอผ่าตัด วินิจฉัยโรคผ่านออนไลน์
และรักษาโรคได้แม้จะอยู่ห่างไกลคนละประเทศ และยังมีอีกหลายด้านที่ 5G จะเปลี่ยนชีวิตคุณ เปลี่ยนพฤติกรรมเดิมๆ
หรือแม้แต่บางอาชีพอาจได้รับผลกระทบด้วย เช่น
1. คนหันมาใช้ธุรกรรมออนไลน์
เมื่อ 5G มา นั่นหมายถึงความสะดวก ปลอดภัย และการแข่งขันของการค้าออนไลน์
ซึ่งจะเปลี่ยนพฤติกรรมคนส่วนใหญ่ให้หันมาจับจ่ายผ่านออนไลน์มากขึ้น แพลตฟอร์มรูปแบบใหม่ๆ
จะมีมากขึ้น รวมทั้งรูปแบบการซื้อของออนไลน์จะมีการนำระบบการสั่งงานด้วยเสียง หรือ
Voice Commerce ที่จะได้รับความนิยมมากขึ้น
2. หุ่นยนต์ทำงานแทนคน
เรื่องนี้คงได้ยินบ่อย
แต่จะเกิดขึ้นจริงอย่างแน่นอน หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติต่างๆ
จะเข้ามาทำงานแทนคนมากขึ้น เพราะ 5G
เป็นพื้นฐานที่จะช่วยลดต้นทุนให้อุตสาหกรรมต่างๆ ผลิตได้มากขึ้นแบบไม่มีพัก
ในราคาค่าแรงที่ถูกกว่า และหมดปัญหาคนงานลาออก แบบนี้นายทุนทุกคนต้องชอบ
แต่คนก็ยังเป็นปัจจัยสำคัญต่อธุรกิจอยู่ดี แต่ต้องปรับตัวตามเทคโนโลยีให้ทัน
3. การขนส่งที่รวดเร็ว
การขนส่งสำหรับอนาคต
คือการวางแผนการขนส่งที่ยังไม่เกิดคำสั่งซื้อ หมายความว่า AI จะประมวลผลการสั่งซื้อสินค้าโดยการทำนายความต้องการของผู้บริโภค
ซึ่งจะแม่นยำมากขึ้นจากฐานข้อมูลใน Big Data ดังนั้นทำให้การขนส่งจะมีการวางแผนการจัดส่งสินค้าล่วงหน้าก่อนที่ผู้บริโภคจะตัดสินใจซื้อด้วยซ้ำ
ทำให้ ลดเวลาในการจัดส่งสินค้าลงได้มาก
4. การเดินทางท่องเที่ยวและเดินทางสะดวกสบาย
เราสามารถหาข้อมูลบนโลกออนไลน์ได้ทันที
จองที่พัก ตั๋วเครื่องบิน และหาบริการของต่างประเทศอย่างรวดเร็ว มีเทคโนโลยี VR เข้ามาช่วยให้เห็นภาพก่อนการตัดสินใจ
และช่วยเพิ่มประสบการณ์ให้นักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น ที่สำคัญ
5. มนุษย์เงินเดือนไม่ต้องมาทำงาน
เป็นความฝันของมนุษย์เงินเดือนทั้งหลายที่เมื่อ
5G เข้ามา คุณจะสามารถทำงานได้ทุกที่แม้แต่ที่บ้าน
ไม่จำเป็นต้องเดินทางมาทำงาน เพราะอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงช่วยให้ส่งงาน
ทำงานได้ราบรื่น ผู้ประกอบการไม่ต้องใช้สำนักงาน ลดต้นทุนในการมีออฟฟิศ
และพนักงานเองก็ประหยัดค่าเดินทาง ค่าน้ำมัน ค่าเสียเวลาเดินทางมาทำงาน
สุขภาพจิตดี ชีวิตก็แฮปปี้มากขึ้น
6. เงินดิจิทัลและสังคมไร้เงินสด
ธุรกรรมทุกอย่างจะเกิดขึ้นผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกรรมการเงินที่โลกจะเข้าสู่สังคมไร้เงินสดอย่างก้าวกระโดด ทุกธุรกรรมไม่ว่าจะเป็นการเดินทางโดยการแสกนใบหน้าซื้อตั๋วรถไฟฟ้า การใช้จ่ายด้านอาหาร ของใช้ จะถูกแลกเปลี่ยนด้วยธุรกรรมออนไลน์จนแทบจะไม่มีใครอยากพกพาเงินสด ธุรกิจ ห้างร้านก็รับชำระด้วย e wallet เราคงเห็นปรากฏการณ์นี้มาบ้างแล้วในประเทศจีนปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม เราเคยตื่นเต้นกับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต การรับ-ส่งอีเมล การติดต่อผ่านการแชทแบบเรียลไทม์ เคยตื้นเต้นกับ 3G ต่อมาเป็น 4G เข้าสู่ยุคดิจิทัลที่สมบูรณ์ ทำให้เรารู้จักเทคโนโลยีใหม่ๆที่มนุษย์คิดค้นขึ้นมากมาย และตอนนี้ก็กำลังตื่นเต้นและตื่นตัวกับเทคโนโลยี 5G และแน่นอนว่าในอนาคตอันใกล้ คงมีอะไรให้เราได้ตื่นเต้นและต้องปรับตัวอีกมากมาย เพราะนี่คือยุคที่ดิจิทัลกำลังปฏิวัติทุกอย่างในโลกอย่างแท้จริง