‘ไร่พระจันทร์’ ธุรกิจเกษตร ด้วยแนวคิดคนรุ่นใหม่

เกษตรอินทรีย์ จะคุ้มกับต้นทุนผลิตได้อย่างไร ด้วย Pain Point ดังกล่าวจึงต้องมีกลไกเพื่อขับเคลื่อนให้เกิดเป็นเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ ที่มีการผสานผลประโยชน์ให้เกิดความเหมาะสม ยุติธรรม ทั้งเกษตรกร ภาคธุรกิจ และผู้บริโภค จึงเกิดเป็น ‘ไร่พระจันทร์’ Passion ของคนรุ่นใหม่ กับแนวคิดเกษตรและการตลาดสมัยใหม่

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

นางสาวธมลวรรณ สิทธิธนาสุทธิ์ หรือ ป๊อป ผู้ก่อตั้ง บริษัท ธนไรซ์ อกริเทรด จำกัด บอกว่า ไร่พระจันทร์ ตั้งอยู่ที่จังหวัดพิจิตร ทุกอย่างของไร่พระจันทร์เริ่มต้นจากความเชื่อมั่น เชื่อมั่นว่าเราสามารถเพิ่มคุณค่าให้แก่ข้าวไทยได้ เชื่อมั่นว่าข้าวไทยจะช่วยสร้างโอกาสทางอาชีพให้แก่ชาวนา และเชื่อมั่นว่าหากผู้บริโภคได้รับประทานข้าวที่ดีจะก็มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุข จากความเชื่อเหล่านี้ผลักดันเป็นพลังในการดำเนินธุรกิจด้วย 3 กลยุทธ์ โดยให้ความสำคัญตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตจนถึงการส่งผลิตภัณฑ์ถึงมือผู้บริโภค

1. ต้นน้ำ: คุณค่าการผลิต - กระบวนการการผลิตของไร่พระจันทร์จะควบคุมด้วยวิธีธรรมชาติทั้งหมด การวางแผนปลูกข้าวแบบนาปี-นาปรังรวมกว่า 1,000 ไร่ ให้มีผลผลิตเพียงพอตลอดทั้งปี การเริ่มฟื้นฟูที่ดินด้วยการใช้ปุ๋ยหมักและปุ๋ยพืชสดไถกลบหน้าดินจนได้ผืนดินที่มีคุณภาพ การปลูกข้าวด้วยวิธีธรรมชาติ ไม่ใช้สารเคมีและสารกันมอด เกี่ยวข้าวและสีใหม่ทุกเดือนเพื่อความสดใหม่และเพื่อความปลอดภัยสูงสุดต่อผู้บริโภค

2. กลางน้ำ: คุณค่าการต่อยอดผลผลิต - จากผลผลิตทางการเกษตรไทยของไร่พระจันทร์สู่การต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพจากธรรมชาติด้วยการสร้างสรรค์นวัตกรรมการแปรรูปและการเพิ่มมูลค่าให้แก่ผลผลิต เช่น แป้งข้าวไรซ์เบอร์รี่ แป้งที่ผลิตจากข้าวของไทย ไม่มีกลูเตน ( Gluten Free ) สำหรับคนรักสุขภาพ หรือคนที่แพ้แป้งสาลี

3. ปลายน้ำ: คุณค่าการสื่อสารและการส่งมอบ - ไร่พระจันทร์ส่งมอบเรื่องราวในแบบฉบับของไร่พระจันทร์ (Brand Storytelling) การถ่ายถอดเรื่องราวความตั่งใจของผู้ผลิตส่งมอบคุณค่าเหล่านี้ถึงมือผู้บริโภค ไร่พระจันทร์เราเน้นการทำการตลาดมาจากใจ “จริงใจ+ใส่ใจ” เน้นความยั่งยืน การตลาดของไร่พระจันทร์ที่เน้นให้เราและลูกค้ามีความสุข และเป็นสิ่งที่เราพูดกับลูกค้า เสมอว่า “ขอให้สุขภาพแข็งแรงและมีความสุขในทุกๆวัน”

“ไร่พระจันทร์ มุ่งส่งเสริมคุณค่าตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ จุดมุ่งหมายคือการยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวนาให้ดียิ่งขึ้น”

5 ปัจจัยการผลิตและการบริหารหลังเก็บเกี่ยว

คุณป๊อป บอกว่า การผลิตเกษตรอินทรีย์ของไร่พระจันทร์ โดยให้ความสำคัญใน 5 ปัจจัย คือ  

1. การปลูกข้าวอินทรีย์ โดยข้าวของไร่พระจันทร์จะไม่ใช้เคมี  เป็นการผลิตด้วยวิถีธรรมชาติแบบยั่งยืน ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
2. การเก็บเกี่ยว โดยจะไม่นำข้าวที่เก็บเกี่ยวแล้วไปสีทั้งหมด แต่จะกระจายเก็บเป็นข้าวเปลือกไว้ในยุ้งฉาง แล้วทยอยสีตามออเดอร์เพื่อความสดใหม่
3. ข้าวไม่ขัดสี ปลอดสารกันมอด ซึ่งถ้าเป็นการสีข้าวทั่วไปจะมีการขัดสี การสี หรือแม้แต่การแต่งกลิ่น และใช้สารรมข้าวเพื่อป้องกันมอดเพื่ออายุการเก็บที่นานขึ้น
4. ให้ความสำคัญเรื่องบรรจุภัณฑ์ ซึ่งเป็น package แบบสุญญากาศ น้ำหนัก 1 กก. ปลอดจากมอดรบกวน
5. ช่องทางการขาย ข้าวอินทรีย์ของเรานำเสนอของคุณค่าทั้ง 3 ด้าน ดังที่กล่าวในข้างต้น และซื้อข้าวจากไร่พระจันทร์เหมือนอุดหนุนเหลือชาวนาโดยตรง 

ไร่พระจันทร์ บริหารเครือข่ายเกษตรฯ อย่างไร

คุณป๊อป บอกว่า ขึ้นอยู่กับความต้องการและปัญหาของเกษตรเกษตรแต่ละราย ดังนั้นในการช่วยเหลือสิ่งต่างๆ ให้เครือข่ายเกษตรฯ จึงต้องแล้วแต่กรณี อาทิ หากเป็นเกษตรกรที่มีที่ดินแต่ไม่มีเมล็ดพันธุ์ เครือข่ายฯ ก็จะแนะนำแหล่งซื้อเมล็ดพันธุ์ของเกษตรกรด้วยกันในราคาสมาชิก แต่ถ้าเกษตรกรรายนั้น ไม่มีองค์ความรู้ด้านเกษตรอินทรีย์เลย ทางเครือข่ายฯ ก็มีทีม support ให้ ทั้งในด้านองค์ความรู้ และเรื่องการจัดการ

ไร่พระจันทร์ เป็นโมเดลใหม่ ต่างจากแนวคิดเดิมที่เครือข่าย Supply ให้แล้วถึงเวลาเก็บเกี่ยวก็นำมาขายคืนแล้วหักค่าบริหารจัดการเป็นข้าวเปลือก แต่ของไร่พระจันทร์ จริงๆ แล้วไม่ได้บังคับ ตอนส่งเสริมช่วงแรกจะทำให้ก่อน ทั้งเครือข่ายจะมีพันธมิตรที่คอยดำเนินการในส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการผลิต การถ่ายทอดองค์ความรู้ การบริการจัดการและการขนส่ง รวมทั้งตัวแทนจำหน่าย นี่จึงเป็นโมเดลความร่วมมือภาคเกษตรแนวใหม่ จากการริเริ่มจากแปลงนาทดลองของตัวเองประมาณ 2-3 ไร่ ก่อนขยายเป็นเครือข่ายกว่าพันไร่ในปัจจุบัน

สร้าง Story ข้าว ขยายช่องทางการตลาดออนไลน์

สินค้าไร่พระจันทร์ เริ่มจากการขายออนไลน์ใน Shopee ก่อนขยายไป Lazada รวมทั้งช่องทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งช่วงที่ผ่านมาเติบโตอย่างมาก ส่วนออฟไลน์มีวางขายที่โลตัสจำนวน 200 สาขาทั่วประเทศ อีกทั้งมีระบบตัวแทนจำหน่าย ที่เปิดโอกาสให้ผู้ขายที่สนใจและมีหน้าร้านออฟไลน์นำผลิตภัณฑ์ไปจำหน่าย จึงเป็นการขายทั้งลักษณะแบบ B2C และ B2B โดยขายเป็นข้าวสุขภาพไซส์ใหญ่เพื่อไปติดแบรนด์และแบ่งขาย

โดยตลาด B2B ตอนนี้ คุณป๊อบ บอกว่า เริ่มขยายมากขึ้น ถือเป็นการกระจายความเสี่ยงที่ต้องพึ่งพาตลาดออนไลน์เพียงอย่างเดียว เพราะแม้ผู้บริโภคซื้อออนไลน์เพิ่มขึ้น ตลาดขยายใหญ่ขึ้น แต่ก็เกิดคู่แข่งใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน   

สร้างระบบ ‘ผูกปิ่นโต’ อุดหนุนข้าวจากชาวนา

ไร่พระจันทร์ยังมีการนำระบบ ‘ผูกปิ่นโต’ โดยผู้บริโภคสามารถสมัครสั่งชื้อสินค้าที่ต้องการ และระบบจะส่งสินค้าเหล่านั้นไปให้แบบอัตโนมัติทุกเดือน เป็นแนวทางในการแก้ปัญหาเรื่องตลาดออนไลน์ที่เกิดคู่แข่งหน้าใหม่เพิ่มขึ้นทุกวัน ดังนั้นการทำระบบผูกปิ่นโต คือการสร้างเครือข่ายสมาชิกกลุ่มผู้ที่บริโภคข้าวจากไร่พระจันทร์โดยตรง เป็นโครงการที่สำคัญพัฒนาและต่อยอด

ต่อมาได้ทำเว็บไซต์ moonricefarm.com ทำให้สามารถเก็บข้อมูลลูกค้าที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ จึงสร้างระบบสมาชิก และพัฒนาสินค้าให้ตรงกลุ่มตรงความต้องการของผู้บริโภคที่เป็นลูกค้าประจำ จะต่างจะระบบปิ่นโตแบบเดิมๆ อาทิ จะชุดข้อมูลคำถามสำหรับให้ลูกค้าสมาชิกกรอกเบื้องต้น เพื่อจะได้นำข้อมูลดังกล่าวไปแนะนำลูกค้าว่าควรจะกินข้าวสุขภาพแบบไหนดี สั่งในปริมาณเท่าไรจึงเหมาะสม นับเป็นการ Repeat order และยังสร้าง Loyalty ให้แบรนด์ไร่พระจันทร์ผ่านการทำการตลาดแบบเฉพาะบุคคล หรือที่เรียกว่า Personalized Marketing

“ระบบผูกปิ่นโต ตามแนวคิดของป็อป คือ เรื่องข้าวให้ผู้บริโภคไว้ใจเรา ให้เราดูแล เพื่อจะได้เอาเวลาอันมีค่าไปทำอย่างอื่น เลยเกิดมาเป็นระบบผูกปิ่นโตในเว็บไซต์ โดยข้าวจะส่งตรงจากของเราไปถึงคุณในทุกๆ เดือน โดยที่คุณไม่ต้องมาเสียเวลาในการกดสั่งอีกรอบหนึ่ง”

Scale up ไปสู่การทำวิจัย by-product จากข้าว

ทั้งนี้การที่จะบริหารจัดการเครือข่ายเกษตรกรกว่าพันไร่ในปัจจุบัน นับเป็นงานที่จะต้องมีทีมและฝ่ายสนับสนุนที่มีประสิทธิภาพ ด้วยเหตุนี้ทางไร่พระจันทร์ จึงมีการสร้างผู้นำเครือข่ายเกษตรในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้การดูแลเกษตรกรในเครือข่ายให้เป็นไปอย่างมีคุณภาพ โดยผู้นำเครือข่ายฯ ก็จะไปติดต่อกับเกษตรกรโดยตรง

และด้วยการเติบโตในตอนนี้ ทำให้คุณป๊อบไม่หยุดที่ ‘ข้าว’ เพียงอย่างเดียว แต่ขยายไปในเกษตรกลุ่มสมุนไพร รวมทั้ง by-product ของข้าว อาทิ รำ แกรบ ปลายข้าว จมูกข้าว ที่สามารถไปใช้ในอุตสาหกรรมหลากหลายได้ เช่น เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยา ถ้าทำได้ก็จะเป็นการเพิ่มมูลค่าสินค้าให้ข้าวได้อีก ดังนั้น ไร่พระจันทร์ จะไม่หยุดแค่การขายข้าวอย่างเดียว แต่จะไปให้ถึงสินค้าเกษตรอื่นๆที่ดีแต่คนยังไม่ค่อยรู้จัก ทำให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ตอนนี้เราก็จะเริ่มเป็น Project เครื่องดื่มด้วยเหมือนกัน อยู่ในช่วงการทำ R&D

Precision Farming เกษตรแม่นยำตอบโจทย์ยุคใหม่

คุณป๊อป มองการทำเกษตรในรูปแบบสมัยใหม่ที่มีนวัตกรรม จะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพด้านผลผลิต และพัฒนาในด้านของโครงสร้างปัจจัยการผลิต ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดพันธุ์ แรงงาน น้ำ ดิน และปุ๋ย จะเป็นชีวภาพแทนเคมี และจะขยายในวงกว้างมากขึ้น จากเดิมคนที่ทำเกษตรอินทรีย์กลุ่มเล็กๆ เราจะเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผล ให้เข้าถึงผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น

รวมทั้งมองว่าในอนาคต Precision Farming หรือการทำเกษตรแม่นยำ โดยนำเทคโนโลยีมาผสานเสริมกับการทำเกษตรยุคดิจิทัล เพื่อพัฒนาคุณภาพและเพิ่มผลผลิต ขณะเดียวกันยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนการผลิตได้อย่างแม่นยำ อาทิ การใช้น้ำและปุ๋ย ถ้าเกษตรกรมีข้อมูลเพียงพอ มีองค์ความรู้ มีเทคโนโลยี ก็จะสามารถทราบได้ว่าพืชแต่ละชนิดต้องการน้ำเท่าไร ปุ๋ยในปริมาณเท่าไร และเมื่อบริหารจัดการต้นทุนให้ต่ำลงได้ ขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้าก็เพิ่มขึ้นไปด้วย

สุดท้ายคือการสร้างเครือข่ายเกษตรกรให้มีความเข้มแข็ง ซึ่งที่ผ่านมาเกษตรกรมีการรวมกลุ่มเพื่อสร้างอำนาจการต่อรองในตลาด และยังเป็นการรวบรวมวัตถุดิบ ผลผลิต และผลพลอยได้จากการเกษตร ตลอดจนการแบ่งปันข้อมูล ความรู้ นวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อปูทางไปสู่รูปแบบการทำเกษตรที่มีความมั่นคงทางรายได้ และและสร้างความมั่นคงทางด้านการเป็นประเทศผู้ผลิตอาหารได้อย่างแท้จริง

รู้จัก ‘ไร่พระจันทร์’ ได้เพิ่มเติมที่

https://moonricefarm.com/

https://www.facebook.com/moonricefarm/

https://www.instagram.com/moonricefarm/