หลายท่านคงทราบแล้วว่าในการเลือกตั้งของอินเดียจัดการเลือกตั้งเสร็จสิ้นแล้วระหว่างวันที่ 11 เมษายน – 19 พฤษภาคม 2562 และได้ประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2562 พรรค Bharatiya Janata Party (BJP) ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลายเป็นสมัยที่ 2 และได้เข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้วเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลค์ Facebook bangkokbanksme
ท่ามกลางชัยชนะอย่างท่วมท้นของ ‘โมดี’ ที่ได้จำนวนที่นั่ง
ส.ส. ในพรรคถึง 282 ที่นั่งจากจำนวน ส.ส. ทั้งหมดประมาณ 545 ที่นั่ง
ในการเลือกตั้งครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีโมดีได้ทำลายสถิติเดิมโดยได้ที่นั่ง ส.ส.
ในพรรคถึง 303 ที่นั่ง และเมื่อรวมกับจำนวน ส.ส. พรรคพันธมิตรอื่น ๆ ด้วยแล้ว จะมี
ส.ส. สำหรับจัดตั้งรัฐบาลถึง 345 ที่นั่ง
ทำให้รัฐบาลชุดใหม่นี้มีเสถียรภาพเป็นอย่างยิ่ง
เหตุผลเดียวของเหตุการณ์นี้คือ ‘โมดี’
ยังคงครองใจประชาชนส่วนใหญ่ในอินเดีย ภาพพจน์ของนายกรัฐมนตรีที่เข้มแข็ง
ปราศจากการคอรัปชั่น
การดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจและสังคมที่คืบหน้าเป็นรูปธรรมนำความเจริญมาสู่อินเดียแบบก้าวกระโดด
และการสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในกลุ่มประชากรศาสนาฮินดูซึ่งถือเป็นประชากรกลุ่มหลักของประเทศ
แน่นอนว่าชัยชนะครั้งนี้คือเสียงของประชาชนส่วนใหญ่...แต่ไม่ใช่ทั้งหมด
กระแสความไม่พึงพอใจผลงานของนายกรัฐมนตรีโมดีในช่วงก่อนการเลือกตั้ง
โดยเฉพาะประเด็นการว่างงาน ราคาผลิตผลทางการเกษตรตกต่ำ
และความสุดโต่งในการส่งเสริมศาสนาฮินดู
น่าจับตาว่า ‘โมดี’จะเดินหน้าอินเดียอย่างไร
และนโยบายที่ออกมาจะส่งผลต่อไทยอย่างไรบ้าง
ทั้งนี้ สื่อมวลชนและนักวิชาการอินเดียต่างคาดการณ์ว่ารัฐบาลของนายกรัฐมนตรีโมดีจะสานต่อนโยบายการเปิดประเทศ การดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ และการพัฒนาอินเดียให้เป็น New India ภายในปี 2565 ซึ่งเป็นปีที่อินเดียจะครบรอบ 75 ปีการประกาศเอกราช
นโยบายของ ‘โมดี’ ที่คาดว่าจะส่งผลต่อประเทศไทย
ประเด็นแรก
วันที่ 31 พฤษภาคม ที่ผ่านมา อินเดียเลือกเชิญประมุขและผู้นำประเทศจาก 8
ประเทศเข้าร่วม รวมทั้งไทย ซึ่ง 6 ใน 8 ประเทศ
(นอกเหนือจากคีร์กีซสถานและมอริเชียส) อย่างบังกลาเทศ ภูฏาน เมียนมาร์ เนปาล
ศรีลังกา และไทย ต่างเป็นสมาชิก BIMSTEC หรือ
Bay of Bengal Initiative for Multi-Sectoral Technical
and Economic Cooperation (ความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจ)
การเลือกเชิญผู้นำจากประเทศเหล่านี้
สะท้อนให้เห็นเจตจำนงของอินเดียที่จะผลักดันความร่วมมือในระดับภูมิภาคผ่านกรอบความร่วมมือ
BIMSTEC ซึ่งมีไทยร่วมเป็นประเทศสมาชิกด้วย
ไทยในฐานะประธานอาเซียนในปีนี้จึงย่อมมีบทบาทสำคัญและโดดเด่นอย่างยิ่งในการเชื่อมโยงอินเดียกับอาเซียนผ่านกรอบความร่วมมือต่าง
ๆ เพื่อสร้างผลประโยชน์ระหว่างภูมิภาคร่วมกัน
ประเด็นที่สอง ความต่อเนื่องของนโยบายด้านเศรษฐกิจและการพัฒนา
นโยบายการเปิดเสรีด้านการลงทุนเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติจะยังคงได้รับการสานต่อจากรัฐบาลโมดี
การดำเนินธุรกิจในอินเดียของภาคธุรกิจไทยจึงจะยังคงได้รับการสนับสนุน Ease of Doing Business ของอินเดียจะยังคงได้รับกาพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ทำให้ภาคธุรกิจรายใหม่ ๆ
ของไทยที่สนใจจะดำเนินธุรกิจในอินเดียมั่นใจได้ว่าจะได้รับการส่งเสริมจากรัฐบาลอินเดียเป็นอย่างดี
ด้วยรัฐบาลที่เข้มแข็งและมีเสถียรภาพ จะทำให้เศรษฐกิจและศักยภาพในทุก
ๆ ด้านของอินเดียพัฒนาอย่างต่อเนื่องรวดเร็วไปอีก 5
ปีภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีโมดี
ถึงเวลาที่คนไทยต้องมองอินเดียเป็นโอกาสและเป็นตลาดใหม่ที่สำคัญ
เพราะโอกาสในอินเดียวิ่งไปข้างหน้าอยู่ทุกวัน อยู่ที่ไทยว่าจะรีบวิ่งไปช่วงชิง
หรือปล่อยให้โอกาสวิ่งหนีไป
อ้างอิง : สถานเอกอัครราชทูต
ณ กรุงนิวเดลี