‘หยาง เชี่ยน’ (Yang
Qian) นักกีฬาโอลิมปิกชาวจีน วัย 21 ปี สามารถคว้าแชมป์ในการแข่งขันกีฬายิงปืน
ประเภทปืนยาวอัดลมระยะ 10 เมตรหญิง ด้วยคะแนน 251.8 ได้ทำลายสถิติโอลิมปิก
และเป็นการคว้าเหรียญทองเหรียญแรกของโตเกียวโอลิมปิกเกมส์ 2020 เมื่อวันที่ 24 กรกฏาคม ที่ผ่านมา
อีก 3 วันถัดมา ‘หยางเชี่ยน’ ได้คว้าแชมป์เหรียญทองจากการแข่งขันกีฬายิงปืน ประเภทปืนยาวอัดลมระยะ 10 เมตรทีมชายหญิง ร่วมกับ ‘หยาง ฮ่าวหยาน’ (Yang Haoran) ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกของการเข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกของ ‘หยาง เชี่ยน’ ด้วยการคว้าเหรียญทองได้ถึง 2 เหรียญ ทำให้นักกีฬาอนาคตไกลกลายเป็นหนึ่งในกระแสความนิยมที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดในขณะนี้
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ภาพ : https://news.cgtn.com/
ทำให้แอคเคาต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลฯ Weibo
เจ้าของ 2 เหรียญทองมีจำนวนผู้ติดตามเพิ่มสูงขึ้นถึง
2,000,000 คนในเวลาเพียง 5 วัน ยิ่งไปกว่านั้นความโด่งดังของ
‘หยางเชี่ยน’ ยังทำให้กิ๊ฟติดผมลายลูกเป็ดน้อยและยางมัดผมลายแครอทที่ใส่ขณะรับเหรียญรางวัลแห่งชัยชนะบนเวที
กลายเป็นสินค้ายอดฮิตขึ้นมาทันทีทั้งบนแพลตฟอร์มจำหน่ายสินค้าออนไลน์และออฟไลน์
โดยร้านค้าบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของจีน Taobao (เถาเป่า) มียอดการจำหน่ายกิ๊ฟติดผมลายลูกเป็ดน้อยและยางมัดผมลายแครอทลายที่
‘หยางเชี่ยน’ ใส่พุ่งสูงถึงวันละ 30,000 ออเดอร์ จนส่งผลให้สินค้าขาดตลาด
จากสถิติความถี่ในการค้นหาสินค้าบนแพลตฟอร์ม
Taobao
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างวันก่อนหน้าที่จะคว้าแชมป์เพียง
1 วัน กับวันที่เธอคว้าแชมป์คือ วันที่ 24 กรกฏาคม ที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่ายอดการค้นหาคำว่า ‘กิ๊ฟติดผมลายลูกเป็ดน้อย’
เพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 4,237.37 และ ‘ยางมัดผม
ลายแครอท’ เพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 2,115.67 ซึ่งราคากิ๊ฟติดผมและยางมัดผมลายดังกล่าวก็ไม่ได้มีราคาแพง โดยบนแพลตฟอร์ม
Taobao กิ๊ฟติดผมลายลูกเป็ดน้อยและยางมัดผมลาย แครอทจำหน่ายเพียงราคาราวอันละ
3.5 หยวน บางร้านจำหน่ายรวมทั้ง กิ๊ฟติดผมและยางมัดผมคู่กันสองชิ้นเพียงราคาราวชุดละ
6.5 หยวน การมีของแบบเดียวกับที่ ‘หยางเชี่ยน’
ใช้จึงกลายเป็นความสุขเล็กๆ ที่เรียบง่ายของชาวจีนหลายคน
ขณะที่บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ ของจีน
เช่น TikTok
ได้ออกฟิลเตอร์ลายลูกเป็ดน้อยให้เลือกถ่ายรูปด้วย รวมถึง ‘หยางเชี่ยน’
ยังได้เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า อยากทานกุ้งดองเหล้าเคี่ยว
หลังจากนั้นก็ได้เกิดกระแสการกล่าวถึงการทานกุ้งและกุ้งมังกรน้ำจืดดองเหล้าเคี่ยวสำหรับอาหารมื้อเย็นของชาวเน็ตบนโลกโซเชียลฯ
กันอย่างคึกคัก จากสถิติแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ JD.com เมื่อวันที่ 24 กรกฏาคม ที่ผ่านมา นับจนถึงเวลา 15.00 น. บนแพลตฟอร์มฯ
มียอดขายสินค้ากุ้งขาวเพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 670
โดยตั้งแต่วันที่ 23
กรกฏษคม ที่ผ่านมา การแข่งขันโตเกียวโอลิมปิกเกมส์ 2020 เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ บนโลกโซเชียลฯ ในจีนคึกคักเป็นอย่างมาก
โดยในแต่ละวันกลุ่มชาวเน็ตโดยเฉพาะชาวจีน Gen Z จะมีการกล่าวถึงและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกถึง
1,000,000 ข้อความขึ้นไป
แต่ปรากฏการณ์ที่น่าสนใจและแตกต่างไปจากโอลิมปิกเกมส์ปีก่อนๆ คือ
กระแสความนิยมสินค้าต่างๆ ที่นักกีฬาโอลิมปิกใช้ไม่ว่าจะเป็นของใช้ไปจนกระทั่งของกิน
‘ผู้ประกอบการไทย’ มองทิศทางแนวโน้มให้ออก
โอกาสไปโลดในตลาดจีนมีสูง
ปรากฏการณ์ความนิยมสินค้ารุ่นเดียวหรือแบบเดียวกับที่นักกีฬาโอลิมปิกใช้ของผู้บริโภคชาวจีนในช่วงนี้
ทำให้เห็นถึงการตอบสนองของห่วงโซ่อุปทานที่มีประสิทธิภาพสูงในตลาดจีน ส่งผลให้เกิดการบริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในตลาด
ถือเป็นอีกหนึ่งโมเดลทางตลาดที่น่าสนใจ โมเดลธุรกิจดังกล่าวคือ C2M
(Consumer-to-Manufacturer) เป็นการใช้ข้อมูลทางดิจิทัลต่างๆ ได้แก่ ข้อมูลเชิงลึก ระบบ AI มาวิเคราะห์และเข้าถึงความต้องการของลูกค้าได้โดยตรง
ซึ่งสามารถช่วยให้โรงงานตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างเต็มศักยภาพ
สำหรับการนำสินค้ามาบุกตลาดจีนนั้น
ผู้ประกอบการไทยควรติดตามเทรนด์ในตลาดจีนอย่างสม่ำเสมอ
โดยการเข้าถึงสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ในจีนให้มากขึ้น อาทิ Weibo,
Xiaohongshu, Tik Tok เป็นต้น รวมถึงการศึกษาเทรนด์การบริโภคหรือสินค้ายอดฮิตบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ
Taobao และ JD.com เพื่อให้ทราบถึงแนวโน้มความต้องการทางตลาด
พร้อมทั้งคิดค้นผลิตภัณฑ์หรือสินค้าใหม่ๆ ให้สอดคล้องต่อความต้องการและวิถีชีวิตของผู้บริโภคชาวจีนที่เปลี่ยนแปลงได้ดียิ่งขึ้น
แหล่งอ้างอิง :
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองกวางโจว