รู้ไว้ แบบไหนเรียก ‘ไม้ด่าง’ หายาก ราคาหลักล้าน

ยังคงไม่หลุดเทรนด์ สำหรับไม้ด่างที่ราคาขยับสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะสีสันที่สวยแปลกตา บวกกับการไปปรากฏอยู่บนอินสตาแกรมของเหล่าดาราดัง จนทำให้เป็นที่หมายปองของนักปลูกทั้งหลาย ซึ่งพันธุ์ไม้ที่กำลังฮอตฮิตติดเทรนด์ช่วงนี้ เช่น มอนสเตอร่าด่าง ฟิโลเดนดรอนด่าง กวักมรกตด่าง ยางอินเดียด่าง และกล้วยด่าง

หลายท่านคงทราบว่ากระแสดังกล่าวแม้จะเป็นช่วงเวลาหนึ่ง แต่ก็เป็นกระแสที่นำมาซึ่งโอกาสทำเงินในช่วงนี้ มาดูกันว่าไม้ด่าง คืออะไร และแบบไหนถึงราคาสูง และหายาก

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

รู้ไว้แบบไหนเรียก ‘ด่างแท้’ ต้นหลักล้าน

ไม้ด่างจะเกิดจากปัจจัยทางธรรมชาติ หรือบางครั้งก็เป็นปัจจัยที่คนทำให้เกิดขึ้นเองได้ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ต้นไม้ใบด่างเกิดจาก 5 สาเหตุหลักๆ ดังนี้

1. ต้นไม้ขาดแสงสว่าง : เพราะตามธรรมชาติ ใบไม้ต้องรับแสงเพื่อนำไปใช้ในการผลิตคลอโรฟิลล์ที่ทำให้ต้นไม้มีใบสีเขียว แต่ถ้าไม่โดนแดดต้นไม้ก็จะซีดขาวได้ แต่เอาจริงๆ แบบนี้เรียกว่า ‘ด่างเทียม’ ไม่นิยมเล่นกัน เพราะเมื่อพืชโดนแสงเพียงพออาการด่างจะหายไป

2. ต้นไม้ขาดสารอาหารบางตัว : ส่งผลต่อการสร้างเม็ดสีของใบ เช่น หากต้นไม้ขาดแมกนีเซียม ใบจะเป็นสีเหลือง ถ้าขาดกำมะถันหรือฟอสฟอรัส ต้นมีจะใบด่างเหลืองทั้งใบ ซึ่งอาการจะหายไปหากได้รับสารอาหารดังกล่าวในดินครบถ้วน ลักษณะนี้เรียกด่างเทียมแบบเดียวกับข้อหนึ่ง ซึ่งทำให้เกิดขึ้นได้ ...แต่เอาแน่เอานอนไม่ได้

3. เนื้อเยื่อใบมีอากาศมาก : อาการดังกล่าวส่งผลให้เมื่อแสงแดดไปตกกระทบใบจะเกิดการหักเหของแสง ทำให้ใบเป็นสีเทาเงิน ซึ่งเป็นลักษณะของด่างเทียมเช่นกัน

4. ความผิดปกติทางพันธุกรรม : เกิดจากปัจจัยภายนอกที่กระทบโครงสร้างทางพันธุกรรมของต้นไม้ เช่น สารเคมีหรือสารกำมันตภาพรังสี ทำให้ต้นไม้ดังกล่าวกลายพันธุ์จากลักษณะเดิม แบบนี้เรียกว่า ‘ด่างแท้’ แม้อาจจะเกิดจากยีนด้อย หรือสารเคมีบางชนิด จนทำให้เกิดความผิดปกติทางพันธุกรรม

ถ้าจะเปรียบเทียบกันก็เป็นทฤษฎีเดียวกันการเกิด ‘คนผิวเผือก’ โรคที่เกิดความผิดปกติขึ้นกับกระบวนการผลิตเม็ดสีในร่างกายที่ทำหน้าที่กำหนดสีผิว สีผม และสีม่านตา แต่ถ้าอาการนี้เกิดในพืช และทำให้ใบที่จะต้องเป็นสีเขียว ก็จะกลายเป็นจุด หรือแถบขาว หรือขาวทั้งต้น ก็เตรียมตัวนับเงินได้เลย

5. เกิดจากโรค : เช่นโรคใบด่างในต้นไม้ ที่เกิดจากเชื้อไวรัสเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อและสารคลอโรฟิลล์จนส่วนต่างๆ ของต้นไม้มีการเจริญเติบโตผิดปกติ ส่วนอาหารแบบนี้ไม่เป็นผลดีต่อต้นไม้จึงนับเป็นด่างเทียมเช่นกัน

ทั้งนี้ การเกิดไม้ด่างโดยพึ่งพาวิธีการทางธรรมชาติหรือรอให้ต้นไม่ด่างเองจึงเป็นไปได้ยาก ดังนั้นการจะทำไม้ด่างต้องใช้การขยายพันธุ์โดยมนุษย์ เพื่อให้มีปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ซึ่งปัจจุบันมีการใช้วิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ปักชำ เพาะเมล็ด (สุ่มด่าง) จากต้นแม่ที่มีกรรมพันธุ์ด่าง

โดยการปักชำเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด และเป็นที่นิยมอย่างมาก เนื่องจากใช้เวลาไม่นานต้นไม้ก็ใหญ่พร้อมขาย และได้ไม้ที่ได้มีลักษณะด่างเหมือนต้นแม่ แต่ข้อเสียคือไม่สามารถทำจำนวนได้มากเท่าการขยายพันธุ์โดยวิธีเพาะเนื้อเยื่อ ขณะที่การเพาะเมล็ดเป็นวิธีที่มีต้นทุนต่ำที่สุด แต่ไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะได้ไม้ด่างหรือไม่เพราะแม้ด่างจะเป็นยีนด้อย แต่ก็ใช่ว่าจะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ นานๆ ถึงจะมีโอกาสเจอสักต้น

ทำไมไม้ด่างถึงราคาแพง?

แม้ตลาดแบบนี้จะไปจริงจังมากไม่ได้ เพราะไปเร็วมาเร็ว ราคาของไม้ด่างจึงอยู่ที่ ‘คุณค่าทางจิตใจ’ มากกว่าราคาที่แท้จริง ดังนั้นอย่าไปยึดมั่นมาก

ส่วนที่ว่าทำไมถึงแพง จริงแล้วสำหรับคนที่อยู่ในวงการต้นไม้จะทราบว่า ไม้ด่างมักจะเป็น ‘สีสัน’ ที่ผ่านมา และผ่านไปเรื่อยๆ เปรียบเป็นวงจรที่หมุนวนซ้ำกลับมา เพราะทั้งหมดขึ้นอยู่กับคำว่า ‘กระแส’ บวกกับความฮิตในหมู่ดาราจนเป็นกระแสไม้ด่างฟีเวอร์ และในหลายๆ ประเทศก็ให้การยอมรับในราคา จึงทำให้ราคาไม้ด่างสูงขึ้นเรื่อยๆ

ดังนั้น สำหรับคนที่กำลังมองหาการลงทุนที่มีผลตอบแทนสูง ก็อาจจะต้องมีหูตาที่รวดเร็ว และรู้จักฉกฉวยโอกาส ซึ่งต้องบอกเลยว่าตอนราคาดีๆ ตลาดไม้ด่างทั่วๆ ไปเล่นกันที่ต้นหลักหมื่นไปถึงหลายล้าน ซึ่งขึ้นอยู่กับความหายากและกระแสนิยม เช่น ฟิโลเดนดรอนด่าง ยางอินเดียด่าง มอนสเตอร่าด่าง กล้วยด่าง ที่นิยมกันอยู่ในตอนนี้

ขณะที่หากมองถึงการหางานอดิเรกทำ หรือโอกาสในการทำธุรกิจ ก็ยังคงทำได้ง่ายๆ อาทิ ลงทุนซื้อต้นพันธุ์ด่างแท้ๆ มาขยายพันธุ์ หรือซื้อต้นเล็กราคาจับต้องได้มาเลี้ยงต่อเพื่อเพิ่มมูลค่า แต่ก็ต้องระวัง ตลาดนี้มาเร็ว ไปเร็ว

อ้างอิง :

https://www.thairath.co.th/  

https://www.baanlaesuan.com/

https://www.pptvhd36.com/