ความอร่อย 100 ปี เปา เหล่า กง ต่อยอดธุรกิจแฟรนไชส์จากรุ่นสู่รุ่น

ซาลาเปาอายุ 100 ปี ...หากนับตั้งแต่ปี 2464 ตอนที่บรรดาเหล่ากง (คุณปู่) ย้ายถิ่นฐานจากจีนแผ่นดินใหญ่มาตั้งรกรากที่ชลบุรี และเริ่มนำสูตรซาลาเปาและขนมจีนสูตรจีนดั้งเดิมมาทำขายเลี้ยงชีพ ส่งต่อเป็น Family Business จากรุ่นสู่รุ่น จนถึงรุ่นของ คุณชูชาติ ทัศนศร ทายาทเจน 3 ซึ่งต่อมาได้พัฒนาธุรกิจสู่ระบบเฟรนไชส์ ในนาม บริษัท พี แอล เค ฟู้ด จำกัด ภายใต้แบรนด์ ‘เปา เหล่า กง’ จนได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน 

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme  

คุณชูชาติ เล่าว่า จุดเด่นของซาลาเปา เหล่า กง เป็นสูตรที่มีเอกลักษณ์ เนื้อแป้งนุ่ม มีรสชาติที่อร่อยกลมกล่อมอย่างลงตัว และมีไส้หลากสไตล์ให้เลือก อาทิ หมูสับ, หมูแดง, ถั่วดำ, เผือกแปะก๊วย, ครีม, ลาวาแฮมชีส, ลาวาคัสตาร์ดไข่เค็ม, ลาวาช็อกโกแลต ซึ่งปัจจุบันยังมีการพัฒนาเมนูที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคอีกหนึ่งช่องทาง

นอกจากสูตรที่เป็นเอกลักษณ์ ‘เปา เหล่า กง’ ใส่ใจในการคัดสรรเป็นพิเศษ เพราะเชื่อว่าการมีวัตถุดิบที่ดี นำมาซึ่งการต่อยอดการผลิตสินค้าที่ดีได้ เช่น คัดสรรเนื้อหมูคุณภาพดีอกไก่เกรด A หรือพริกไทยที่ใช้ต้องมาจากจังหวัดจันทบุรีเท่านั้น เนื่องจากพริกไทยจันทบุรีมีความเผ็ดและหอมโดดเด่นมากกว่าในท้องตลาดทั่วไป ไข่เค็มก็ต้องมาจากฟาร์มที่มีมาตรฐาน ไม่เพียงเท่านี้สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์สำคัญของ ‘เปา เหล่า กง’ มาตั้งแต่ยุคเริ่มต้น คือแป้งสาลีที่นำมาทำซาลาเปาต้องเน้นทำออกมาให้มีความนุ่ม กินแล้วไม่ติดฟัน เรียกได้ว่าใส่ใจทุกกระบวนการผลิตทุกขั้นตอน

จากปั้นมือ สู่เครื่องจักรที่ผสานความใส่ใจ

จากยุคที่ทุกอย่างต้องปั้นด้วยมือ พลิกธุรกิจเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรมใช้เครื่องจักรในการช่วยทำซาลาเปา ซึ่ง คุณชูชาติบอกว่า เป็นสิ่งใหม่ที่แบรนด์ ‘เปา เหล่า กง’ ค่อยๆ เรียนรู้ สั่งสมประสบการณ์มาเรื่อยๆ อาทิ สมัยก่อนใช้เวลาหมักแป้งประมาณ 7-8 ชั่วโมง ซึ่งใช้แรงงานคนทั้งหมด และเมื่อปี 2558 มีการเปิดสาขาแรกที่กรุงเทพฯ ก็เริ่มนำเครื่องจักรเข้ามาช่วยในการผลิต ซึ่งสามรถผลิตได้วันละ 20,000 ลูกต่อวัน ขณะเดียวกันแม้จะใช้วัตถุดิบดีมีคุณภาพสูง แต่เมื่อมีเครื่องจักรช่วยทุ่นแรง ก็สามารถบริหารกระบวนการผลิตให้มีต้นทุนต่ำลงได้

คุณชูชาติ ยังเล่าถึงการปรับตัวจากสูตรทำมือกับเครื่องจักร ซึ่งเขายอมรับว่ายังมีข้อจำกัดในรายละเอียดอยู่บ้าง เนื่องจากการนวดแป้งด้วยมือยังมีข้อดี คือเป็นการสัมผัสโดยตรงสามารถคำนวณความพอดีของแป้งได้ด้วยตัวเอง แต่การต้องใช้เครื่องจักรต้องคอยตรวจสอบตลอดเวลา จึงต้องค่อยๆ พยายามเรียนรู้ปรับตัวไปเรื่อยๆ

นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญในทุกขั้นตอนการผลิต ด้วยการลงไปควบคุมการผลิตเองทุกขั้นตอน แม้จะมีเครื่องจักรเข้ามาช่วยทุ่นแรงงานคนก็ยังต้องเข้าไปดูเพื่อความแม่นยำถูกต้อง ลดความเสียหายต่อผลิตภัณฑ์อีกด้วย อาทิ การเข้าโรงงานไปชิมซาลาเปาและขนมจีบทุกวัน เป็นต้น

เจาะกลุ่มตลาดใหม่ให้คนยอมรับ

แม้ว่าตลาดเกี่ยวกับธุรกิจซาลาเปาจะยังเปิดกว้างและมีฐานลูกค้ามากขึ้นต่อเนื่อง แต่ธุรกิจที่จะประสบความสำเร็จนั้นสังเกตได้ว่า ต้องมีจุดขายที่น่าสนใจทั้งในเรื่องรสชาติ ราคา การบริการ

‘เปา เหล่า กง’ จึงมีกลยุทธ์การทำตลาดอย่างเป็นขั้นตอน โดยเริ่มจากนำซาลาเปาสูตรโบราณจากจีนแผ่นดินใหญ่ของเหล่ากงมาปัดฝุ่น เจาะกลุ่มตลาดใหม่ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ แพคเกจจิ้ง การตลาด ให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในวงกว้าง จากนั้นค่อยๆ เพิ่มศักยภาพสินค้าด้วยมาตรฐาน OTOP จนประสบความสำเร็จ โดยได้รับเลือกให้เป็นสินค้า OTOP ของบางละมุง จังหวัดชลบุรี ก่อนจะพัฒนาธุรกิจเป็นระบบแฟรนไชส์ ปัจจุบันมีกว่า 30 สาขา และมีเป้าขยายเป็น 40 สาขาในปีนี้

คุณชูชาติ บอกว่า การจะทำแฟรนไชส์ด่านแรกเลยต้องทำให้คนรู้จัก จึงไปเปิดร้านในกรุงเทพฯ 2 สาขา ก็ถือว่าประสบผลสำเร็จ เพราะโดยธรรมชาติของคนไทยอยากลองอะไรใหม่ๆ และเชื่อว่าผลิตภัณฑ์ของเรามันดีอยู่แล้ว ตอนนี้นอกจากเปิดสาขาในเมืองหลวง ยังเน้นขยายสาขาไปโซนภาคตะวันออกและอีสานอีกด้วย เพราะเชื่อว่าต่อไปจะสามารถเจาะกลุ่มตลาดใหม่ๆ ได้อีกแน่นอน

แฟรนไชส์ซาลาเปา คุ้มค่า น่าลงทุน

จากความรู้ด้านอาหารที่ถูกสะสมมาจากหลายเจนเนอเรชั่น ทำให้เกิดความชำนาญ ต่อมา คุณชูชาติ ยังมีกำลังเสริมมาช่วยคือ ลูกชายและลูกสาวมาช่วยกิจการของที่โรงงานด้วย จึงทำให้แฟรนช์ไชส์ ‘เปา เหล่า กง’ ขยายสาขาได้อย่างต่อเนื่อง จนได้ลูกชายและลูกสาวทั้งสองคนเข้ามาช่วยพัฒนาจนเกิดแฟรนไชส์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

สำหรับกลยุทธ์การทำแฟรนไชส์ของ ‘เปา เหล่า กง’ มีหัวใจหลักสำคัญคือเน้นเรื่อง ‘การบริการ’ เท่ากับเรื่อง ‘ผลิตภัณฑ์’ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการเดินไปด้วยกันให้ประสบผลสำเร็จ

สำหรับราคาแฟรนไชส์ ‘เปา เหล่า กง’ ลงทุนประมาณ 800,000-1,000,000 บาท พื้นที่ต้องไม่น้อยกว่า 30 ตารางเมตร เน้นปั๊มน้ำมันเป็นหลัก ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบ คือผู้คนจะแวะเวียนเข้ามาเยอะส่งผลให้ ‘เปา เหล่า กง’ ขายดีไปด้วย ตั้งเป้าไว้ว่าอยากขยายแฟรนไชส์ให้ไม่เกิน 200 สาขาทั่วประเทศ พร้อมส่งต่อไปขายยังต่างประเทศอีกด้วย

ในส่วนของราคาแฟรนไชส์ที่หลายคนอาจมองว่าลงทุนสูง คุณชูชาติ ชี้แจงว่า เมื่อมองดูผลตอบแทนที่ได้รับ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลทั้งในเรื่องอุปกรณ์การขายที่มีคุณภาพ ที่ตั้งร้าน วัตถุดิบที่มีคุณภาพ วิธีการทำที่เป็นสูตรลับเฉพาะให้ผู้ลงทุนนำไปต่อยอดการทำได้ทันที 

โควิดไม่กระทบ..ยอดขายโตต่อเนื่อง

ในขณะที่ทั่วโลกกำลังพยายามรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด 19 ผู้ประกอบการธุรกิจต่างก็กำลังคิดหาวิธีการทำการตลาดที่มีประสิทธิภาพ เพื่อกระตุ้นยอดขาย พยุงธุรกิจยืนหยัดฝ่าวิกฤตในครั้งนี้ไปให้ได้

แต่สำหรับ ‘เปา เหล่า กง’ แม้จะเจอวิกฤตก็ยังสร้างยอดขายเติบโตไปอย่างต่อเนื่อง นำพาธุรกิจอยู่ได้อย่างโดดเด่นท้าทาย ซึ่ง คุณชูชาติ วิเคราะห์ว่า จากที่ ‘เปา เหล่า กง’ ยอดขายไม่ลดลงแม้เจอโควิดหลายระลอก นั่นเพราะยอดขายโดยรวมก็เป็นแบบ Take Away ซื้อกลับบ้านเป็นหลักอยู่แล้ว และถือเป็นโอกาสโชคดีของ ‘เปา เหล่า กง’ ที่ร้านค้าส่วนใหญ่ขายอยู่ตามปั๊มน้ำมัน ซึ่งไม่โดนสั่งปิดตอนโควิดระบาด แต่สำหรับแฟรนไชส์ที่ขายในห้างแน่นอนว่ามีผลกระทบจากห้างโดนล็อกดาวน์ จึงแนะนำว่าขายตามปั๊มดีที่สุด

ท้ายนี้คุณสุชาติ ยังเชื่ออีกว่า ตลาดซาลาเปายังไปได้ไกลอีกมาก โดยเฉพาะหากธุรกิจใดที่สามารถอยู่ในวงการนี้ได้อย่างยาวนาน อย่าง ‘เปา เหล่า กง’ ที่เป็นสูตรความอร่อยมายาวนานถึง 100 ปี ยิ่งเป็นการการันตีคุณภาพที่ทำให้ทั้งผู้ลงทุนและผู้บริโภคเชื่อใจมากขึ้น บวกกับการพัฒนาธุรกิจไม่หยุดนิ่ง ยิ่งสะท้อนถึงโอกาสการเติบโตของธุรกิจได้ในระยะยาว

รู้จัก ‘เปา เหล่า กง’ ได้ที่ : Facebook : PAOLHAOKONG