คนบางคน มีกำลังใจในการหล่อเลี้ยงชีวิต เพราะไม่ว่าจะเป็นการเรียน
การทำธุรกิจ การใช้ชีวิต หรือการเดินตามเป้าหมายที่ต้องการ ถ้าเราหมดไฟ
ไม่มีกำลังใจ ไม่มีแรงบันดาลใจ สุดท้ายเราก็จะเหนื่อยและท้อจนล้มเลิกความตั้งใจนั้นไปในที่สุด
โดยเฉพาะกับทุกวันนี้ที่ผู้คนเสพติดความสะดวกสบายจนอ่อนแอต่อความล้มเหลวและปัญหา
ทำให้เมื่อเจออุปสรรคก็พร้อมจะสละความฝันตรงหน้าและเริ่มทำสิ่งใหม่ทันที
อาการหมดไฟนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน และกับคนทุกวัย เด็กๆ ก็อาจจะหมดไฟในการเรียน ผู้ใหญ่ก็อาจจะหมดไฟในการทำงาน เพราะฉะนั้นเพื่อให้เชื้อไฟดวงเล็กๆ ในใจเราไม่มอดดับไป วันนี้เรามาเรียนรู้เทคนิคง่ายๆ ในการเติมความฝันสร้างแรงบันดาลใจ หรือการ ‘เติมไฟ’ ให้การใช้ชีวิตกันดีกว่า
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
มองทางที่เราเดินผ่านมา
เทคนิคง่ายๆ
ในการเติมเชื้อไฟข้อแรกเลยก็คือ ไม่ต้องไปทำอะไรให้ยุ่งยาก
แค่เราหันหลังกลับไปมองสักนิดว่าชีวิตที่ผ่านมาเราทำอะไรมาแล้วบ้าง
เส้นทางที่เราเดินอยู่ เราเดินมาไกลแค่ไหน เช่น ถ้าคุณทำธุรกิจมาได้ 5
เดือนแล้วมีปัญหา คุณอาจจะหันกลับไปมองว่าก่อนหน้าวันที่คุณจะตั้งธุรกิจคุณเป็นยังไง
ทุกวันนี้ธุรกิจจากศูนย์ มันเดินมาไกลได้เท่านี้แล้ว ตรงนี้แหละที่จะทำให้คุณมีแรงบันดาลใจอยากเดินต่อไป
เพราะเห็นถึงความสำเร็จ(หรืออาจจะความยากลำบาก)ที่ผ่านมา
ตั้งเป้าให้ถึงเป้าหมายที่สูงกว่าเดิม
เมื่อมองจุดที่เดินผ่านมาแล้ว
ทีนี้ก็มองจุดที่สูงขึ้นไปกว่าปัจจุบัน
การมองแล้วอยากเป็นในสิ่งที่อยู่สูงกว่าจะทำให้คุณมีกำลังใจและอยากพัฒนาตัวเองให้ประสบความสำเร็จในระดับที่เกินกว่าที่คาดไว้
หรืออาจจะมองความสำเร็จของคนที่เหนือกว่าเรา และตั้งเป้าทำแบบนั้น(บ้าง)ให้ได้ การมองคนที่สูงกว่าไม่ใช่มองเพื่อเปรียบเทียบกับตัวเองให้รู้สึกหดหู่
รู้สึกแตกต่าง แต่เป็นการมองถึงสถานะของเขา
และนำมันเป็นแรงผลักดันให้คุณเดินไปว่าความสำเร็จของเขาอยู่ตรงไหน
ความสำเร็จของคุณอยู่ตรงไหน และทำยังไงถึงไปยังจุดนั้นได้
ลาพักจากจุดที่อยู่
การทำงานหรือการกดดันตัวเองมากจนเกินไป
อาจทำให้เราเข้าถึงความสำเร็จได้ช้ากว่าเดิมด้วยซ้ำ
เพราะร่างกายและจิตใจของคนเราไม่ใช่หุ่นยนต์
ต้องมีเวลาพักผ่อนเพื่อเติมพลังงานด้วย เช่น ถ้าอ่อนแรงก็ต้องนอนพัก
แต่เมื่อคุณหมดไฟ คุณอาจจะต้องลาหยุดจากงานที่ทำบ้าง ออกไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ
พักผ่อนในวันที่เหน็ดเหนื่อยเต็มที บางครั้งการทำอะไรที่ดูไร้สาระและไม่ได้ประโยชน์ก็สามารถเติมเชื้อไฟได้เป็นอย่างดี
และการกลับมาอีกครั้งของคุณจะมีพลังมากกว่าเดิม
ทำแต่พอดี
ไม่หักโหมจนเกินไป
การวิ่งตามความสำเร็จอย่างรีบร้อนมีแต่จะทำให้ความเหน็ดเหนื่อยเข้ามาทักทาย และสุดท้ายคุณเองนั่นแหละที่จะเป็นคนหยุดวิ่ง เพราะฉะนั้นอย่าทำตัวเองให้ตึงจนเกินไป จัดตารางงานให้ตัวเองอย่างพอดี อย่าไปคิดว่าตัวเองจะทำได้ทุกอย่าง ยิ่งคุณกดดัน งานที่ต้องทำก็จะยิ่งไม่สนุก และเมื่อนั้นคุณจะหมดไฟเร็วกว่าเดิม ลองหาจุดกึ่งกลางระหว่างการพักผ่อน และการทำงาน นำทั้งสองสิ่งมาเจอกันครึ่งทาง เมื่อไหร่ที่ชีวิตคุณลงตัว คุณจะประสบความสำเร็จกับสิ่งที่ตั้งใจได้แบบไม่ต้องเหนื่อยเลย
อ่าน สร้างแรงบันดาลใจไว้บ้าง
การอ่านนอกเหนือจากการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งปัญญา ประโยชน์ของการเป็นคนรักการอ่านยังเป็นประตูที่จะสามารถนำคุณไปโลดแล่นในทุกที่ ที่จินตนาการคุณไปถึง แต่สำหรับคนกำลังหมดไป การเลือกอ่านหนังสือแนวสร้างกำลังใจ แนวชีวิตจริงของคนอื่น หรือแม้แต่นิยายแนวต่อสู้ ดิ้นรน ให้ข้อคิด ยังช่วยจุดไฟที่เริ่มมอดของคุณให้ลุกโชนขึ้นมาใหม่ได้ แถมอาจทรงพลังมากกว่าเดิม
สุดท้ายอย่าลืมดูแลตัวเองกินของที่มีประโยชน์
และออกกำลังกาย และเรียนการรู้จัก ‘รักตัวเอง’ ให้รางวัลกับตัวเองบ้าง
เมื่อไหร่ที่เหนื่อยก็มอบรางวัลเล็กๆ น้อยๆ
ให้ตัวเองเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้อยากที่จะทำสิ่งตรงหน้าต่อไป
แล้วคุณจะเดินได้ไกลขึ้น