หลายคนอาจจะเริ่มได้ยินคำว่า
“โพรไบโอติกส์” หรือ Probiotic
มากขึ้นในช่วงนี้ แต่อาจจะยังไม่เคยรู้ว่าธุรกิจสุขภาพนี้กำลังเป็นดาวรุ่งอย่างมากในตลาดจีน
โดยที่ผ่านมาจีนถือเป็นตลาดส่งออกเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์เบอร์ 2 ของไทย รองจากตลาดกัมพูชา
ย้อนมาเริ่มทำความรู้จักกับ “โพรไบโอติกส์” ก่อนว่า มันคือเชื้อจุลินทรีย์ที่ดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันและช่วยเรื่องการย่อยอาหาร
นั่นจึงไม่แปลกเลยที่เหตุใดสินค้านี้จึงได้รับความนิยมในจีน นั่นเพราะผู้บริโภคชาวจีนหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงหลังจากการแพร่ระบาดของโควิ 19 จึงเป็นแรงหนุนทำให้สินค้ากลุ่มนี้เติบโตขึ้นตามไปด้วย
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ข้อมูลจากบริษัท GFK บริษัทวิจัยด้านการตลาดชั้นนำระดับโลกได้ทำการสำรวจตลาดจีนเมื่อเร็วๆนี้ พบว่า
ผู้บริโภคชาวจีนมากกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรให้ความสำคัญกับโพรไบโอติกส์อย่างมาก สอดรับกับคาดการณ์ของนักวิจัยชาวจีนที่ระบุว่า
ปี 2565 ตลาดของผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของโพรไบโอติกส์ในจีนจะมีมูลค่าสูงถึง
89,600 ล้านหยวนหรือ 4.4 แสนล้านบาท นับเป็นขาขึ้นของธุรกิจสุขภาพ
เนื่องจากปัจจุบันผู้ผลิตสินค้าอาหารและเครื่องดื่มในจีน นิยมนำโพรไบโอติกส์มาเป็นส่วนผสมในเครื่องดื่มสุขภาพประเภทฟังก์ชั่นนอลดริงค์ เพราะมีคุณสมบัติทีมีประโยชน์ต่อลำไส้ ทำให้ได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้บริโภคโดยเฉพาะหนุ่มสาวที่รักสุขภาพ ยิ่งตอกย้ำให้ธุรกิจสุขภาพกระแสแรงยิ่งขึ้นในตลาดจีน
ทั้งนี้ ธุรกิจสุขภาพแบรนด์ดังที่เป็นที่นิยมได้เพิ่มส่วนผสมของโพรไบโอติกส์ คือเครื่องดื่มชาผลไม้โพรไบโอติกส์แบรนด์ ‘น่ายเสี่ยเต๋อฉา’ ที่มีส่วนผสมของโพรไบโอติกส์ 2 ชนิด มีคุณสมบัติช่วยลดลไขมันและบำรุงลำไส้, เมนูกาแฟลาเต้ผสมพีชและโพรไบโอติกส์ของแบรนด์ ‘COSTA’ ซึ่งเป็นแบรนด์กาแฟรายแรกในจีนที่เปิดตัวเมนูกาแฟโพรไบโอติกส์ และและยังมีเมนูชามะนาวโพรไบโอติกส์จากแบรนด์ ‘Heytea’ ที่ได้รับความนิยมมียอดขายเปิดตัวถล่มทลายในวันแรกถึง 4 แสนแก้ว
นอกจากนี้ยังมีผู้ผลิตอีกนับ 10 แบรนด์ที่แตกไลน์สินค้าที่มีส่วนผสมโพรไบโอติกส์ลงในเครื่องดื่ม เพื่อทำการตลาดในช่วงฤดูใบไม้ผลิตและฤดูร้อนของจีน อาทิ เครื่องดื่มนมเปรี้ยวผสมส้มแบรนด์ ‘Honey Snow City’, เครื่องดื่มโยเกิร์ตฝรั่งไส้แดง แบรนด์ ‘Happy Lemon’, เครื่องดื่มโยเกิร์ตชาเขียวเสาวรสปั่น แบรนด์ ‘ALittle Tea’, เครื่องดื่มโยเกิร์ตบับเบิ้ลพีชปั่น แบรนด์ ‘Shu Yi’, หรือโยเกิร์ตชาเขียวเมล่อนปั่น โยเกิร์ตลิ้นจี่ปั่น และโยเกิร์ตวุ่นปั่น แบรนด์ ‘Yi He Tang’ เป็นต้น
เป็นที่น่าสังเกตุว่า ตลาดโพรไบโอติกส์ยังมีการต่อยอดไปอีกระดับ โดยมีผู้ผลิตแบรนด์จุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ชื่อ ‘Bioflag’ ได้ออกผลิตภัณฑ์โพรไบโอติกส์สูตร 3D ซึ่งประกอบด้วยโพรไบโอติกส์ พรีไบโอติกส์ และโพสไบโอติกส์
โดยใช้จุลินทรีย์โพรไบโอติกส์สายพันธุ์ ‘GenedenBC 30’ ที่มีส่วนช่วยย่อยอาหาร บำรุงลำไส้ เพิ่มภูมิต้านทาน ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีความทนทานสูงและมีความสามารถในการอยู่รอดมากกว่าปกติถึง 8 เท่ามาใช้ ส่วนจุลินทรีย์พรีไบโอติกส์ในผลิตภัณฑ์ของบริษัทตัวนี้ ใช้กาแลคโตโอลิโกแซคคาไรด์ เป็นน้ำตาลโอลิโกแซคคาไรซด์ชนิดหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ มีประโยชน์ต่อร่างการ และโพลีเด็กซ์โตรส เป็นไฟเบอร์ชนิดหนึ่งที่ช่วยในการปรับสมดุลของลำไส้
ขณะที่จุลินทรีย์โพสไบโอติกส์
ของแบรนด์นี้จะใช้ชื่อเรียกกว่า ‘Totipro’ ใช้เทคนิคที่ใช้ระดับความร้อนที่เหมาะสมในการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์
เพื่อให้สามารถเก็บสารที่มีประโยชน์จากการหมักของแบคทีเรีย ซึ่งจุลินทรีย์โพสไบโอติกส์นี้จะช่วยปรับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
ปรับสมดุลของลำไส้ และต่อต้านอนุมูลอิสระ
ด้วยความที่สูตรโพรไบโอติกส์ 3D มีการผสมผสานระหว่างจุลินทรีย์ 3 แบบเป็นครั้งแรก และเป็นจุลินทรีย์ที่ทนทานต่อแรงดัน อุณหภูมิความร้อนสูง ความเย็น ความเป็นกรดเป็นด่าง จึงทำให้สามารถผสมลงในสินค้าเครื่องดื่มที่หลากหลาย ทั้งแบบร้อนและเย็น อาทิ น้ำผัก ผลไม้ เครื่องดื่มชากาแฟ และโยเกิร์ต เป็นต้น นั่นจึงเป็นจุดเปลี่ยนสำหรับธุรกิจสุขภาพด้านเครื่องดื่มโพรไบโอติกส์ ทำให้เกิดมูลค่าเพิ่มมากยิ่งขึ้น
จะเห็นว่าเทรนด์ความนิยมเรื่อง “โพรไบโอติกส์” กำลังมาแรงมากในตลาดจีน หากผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องในด้านธุรกิจสุขภาพของไทยสามารถพัฒนาการผลิตสินค้าตอบโจทย์ผู้บริโภคจีนในเรื่องนี้ ก็จะสามารถต่อยอดขยายโอกาสทำการตลาดไปยังตลาดจีนได้มากขึ้น