“เทวาศรม เขาหลัก” มอบสุนทรียะแห่งการพักผ่อน ด้วยกลยุทธ์ Experience-Driven Hospitality ที่สร้างเอกลักษณ์เหนือระดับ
เป็นที่รู้กันว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการโรงแรมในประเทศไทยมีการแข่งขันสูงเพียงใด ทว่า “เทวาศรม เขาหลัก” ก็ได้กลายเป็นหนึ่งในรีสอร์ตหรูที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ไม่ใช่แค่เพียงเพราะทัศนียภาพอันงดงามของชายฝั่งทะเล หรือสถาปัตยกรรมที่สะท้อนความเป็นไทยร่วมสมัยเท่านั้น แต่เพราะแนวคิดทางธุรกิจที่แตกต่าง และกลยุทธ์ที่วางไว้อย่างแยบยล ทำให้เทวาศรม เขาหลัก สามารถเติบโตและสร้างชื่อเสียงในอุตสาหกรรมได้อย่างมั่นคง
บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกถึงแนวคิดของ “คุณอิศร์ อติรักษ์” ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของรีสอร์ตแห่งนี้ รวมถึงวิเคราะห์กลยุทธ์ทางธุรกิจที่ทำให้เทวาศรม เขาหลัก กลายเป็นแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์และสร้างความแตกต่างในตลาดการท่องเที่ยวและการโรงแรมในไทยได้อย่างน่าสนใจ
รู้จักเทวาศรม เขาหลัก จุดหมายปลายทางที่ครองใจนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศ
เทวาศรม เขาหลัก เป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการโรงแรมระดับพรีเมียมของประเทศไทย ด้วยแนวคิดที่มุ่งเน้นการนำเสนอประสบการณ์การพักผ่อนสุดหรู ที่สอดประสานระหว่างวัฒนธรรมไทยและความเป็นส่วนตัวของแขกผู้เข้าพัก โดยสถานที่ตั้งของโรงแรมอยู่ที่อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่มองหาประสบการณ์การพักผ่อนที่แตกต่างและเหนือระดับ
เปิดวิสัยทัศน์และแนวคิดของผู้บริหาร “คุณอิศร์ อติรักษ์” ผู้อยู่เบื้องหลังการเติบโตของรีสอร์ต
Experience-Driven Marketing นำเสนอประสบการณ์มากกว่าการเน้นขายแค่ห้องพัก
สำหรับคุณอิศร์ การจะพาเทวาศรม เขาหลัก ให้ไปได้ไกลนั้น ไม่ใช่แค่ต้องมีการบริการที่ดี แต่ยังต้อง “สร้างประสบการณ์” ที่จะทำให้ลูกค้าจดจำด้วย
“เราดูแลเอาใจใส่ลูกค้าด้วยมาตรฐานที่สูง ถึงจะเป็นโรงแรมเล็ก แต่เราก็ย้ำเตือนตัวเองเสมอว่าเราต้องมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งกว่าการเป็นแค่โรงแรม 5 ดาวทั่วไปให้ได้” คุณอิศร์กล่าว
นอกจากนี้ เทวาศรม เขาหลัก ยังนำเสนอสิ่งที่เรียกว่า Devasom’s Experience ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ลูกค้าจะได้รับทั้งภายในและภายนอกโรงแรม โดยมีกิจกรรมที่เป็นไฮไลต์ เช่น การล่องเรือไม้แบบส่วนตัว, การดำน้ำแบบ Free Dive, กิจกรรม Kayak Adventure & Forest Bathing ที่นำศาสตร์การอาบป่าแบบญี่ปุ่น (Shinrin-yoku) มาใช้ในการผ่อนคลายจิตใจ รวมถึงกิจกรรม Aqua Sound Bath ที่ใช้ Himalayan Singing Bowls เพื่อสร้างเสียงที่ช่วยให้รู้สึกสงบและเป็นอิสระมากยิ่งขึ้น และยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย
Customer-Centric Approach เข้าใจและตอบโจทย์ลูกค้าอย่างแท้จริง
“เราเข้าใจดีว่านักท่องเที่ยวยุคใหม่ต้องการหาความสงบ เพราะสิ่งต่าง ๆ ในโลกปัจจุบันค่อนข้างที่จะเป็นไปอย่างเร่งรีบ เราจึงเลือกที่จะพาพวกเขามาสู่ประสบการณ์อันแสนผ่อนคลายที่เทวาศรม” เมื่อมองเช่นนี้แล้ว คุณอิศร์จึงได้นำเสนอแนวคิด “Wellness Retreat” ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญ ที่ช่วยยกระดับประสบการณ์ของแขกผู้เข้าพัก โดยมุ่งเน้นไปที่การผ่อนคลาย ฟื้นฟูร่างกาย และดูแลสุขภาพจิตใจผ่านบริการต่าง ๆ เช่น สปา โยคะ การทำสมาธิ ซึ่งตอบโจทย์กลุ่มนักท่องเที่ยวยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี
รวมถึงมีการจัดเทศกาล “Devasom Sol Festival” ซึ่งเป็น Luxury Wellness Festival แห่งแรกในประเทศไทย ที่ให้ผู้ร่วมงานได้เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการดูแลสุขภาวะใจและกาย ในสถานที่ที่โอบล้อมด้วยพลังธรรมชาติ ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
Brand Positioning ที่แตกต่างและชัดเจน
เทวาศรม เขาหลัก วางตำแหน่งแบรนด์เป็นรีสอร์ตที่โดดเด่นด้าน “Luxury Hospitality & Wellness” โดยให้ความสำคัญกับความสงบ ความเป็นส่วนตัว โอบล้อมด้วยทัศนียภาพของธรรมชาติที่สวยงาม รวมถึงสร้างเอกลักษณ์ความเป็นไทยแบบร่วมสมัย กล่าวคือ มีการออกแบบสถาปัตยกรรมและรายละเอียดของรีสอร์ต โดยการนำเอาเสน่ห์แบบอารยธรรมโบราณภาคใต้มาเป็นจุดเด่นของดีไซน์ ซึ่งแตกต่างจากโรงแรมหรือรีสอร์ตหรูที่เน้นความหรูหราและโมเดิร์นเป็นหลัก
การให้ความสำคัญกับความยั่งยืน (Sustainability)
คุณอิศร์มองว่าความยั่งยืนเป็นเรื่องพื้นฐานในการทำธุรกิจ จึงให้ความสำคัญกับทั้งด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมและพลังงาน “เรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและลดการใช้พลังงาน เราทำกันเป็นปกติเลยครับ โดยเรามีการจัดตั้ง Green Team ในองค์กรเพื่อมาประชุมกัน และหาสิ่งที่เราจะสามารถทำได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลดการใช้ Single-use plastic หรือลดการใช้พลังงาน ซึ่งปัจจุบัน เรากำลังอยู่ในกระบวนการเพื่อรับรองมาตรฐาน Green Hotel ทั้งในระดับประเทศและระดับสากลด้วยครับ” คุณอิศร์เล่าด้วยความภาคภูมิใจ
ธุรกิจท่องเที่ยวจะยั่งยืนได้ก็ต่อเมื่อสิ่งแวดล้อมไม่ถูกทำลาย หากทำธุรกิจท่องเที่ยวแต่ไม่ใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อม ก็เหมือนการ “ทุบหม้อข้าวตัวเอง” นอกจากการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแล้ว สิ่งที่ธุรกิจต้องให้ความสำคัญ คือทำอย่างไรที่จะฟื้นฟูธรรมชาติที่ถูกทำลาย ให้กลับมาสวยงาม
นอกจากนี้ ทางรีสอร์ตยังสนับสนุนการศึกษาของคนในชุมชน โดยมีการจัดตั้งทุนเทวาศรม เป็นทุนการศึกษาที่ส่งให้นักเรียนจากโรงเรียนประจำอำเภอตะกั่วป่า ที่มีผลการเรียนดี ให้ได้เรียนจนจบปริญญาตรี ทั้งยังมีการนำเอาภูมิปัญญาชาวบ้าน ชาวประมง และศิลปินในพื้นที่เข้ามาในรีสอร์ต ในรูปแบบของกิจกรรม ศิลปะ เวิร์กช็อป สินค้า ไปจนถึงอาหารและเครื่องดื่ม
ก้าวต่อไปของเทวาศรม เขาหลัก สู่การเติบโตที่ยั่งยืน
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เทวาศรม เขาหลัก ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่เหนือระดับแก่นักเดินทางทุกคน ด้วยการยึดมั่นในแนวคิดการทำธุรกิจที่ไม่ได้มองเพียงมิติเดียว แต่ให้ความสำคัญกับความสุขที่ยั่งยืน ทั้งของลูกค้าและชุมชนโดยรอบ
อย่างไรก็ดี ในวันที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีการแข่งขันสูงเรื่อย ๆ เช่นนี้ เทวาศรม เขาหลัก ยังคงเดินหน้าพัฒนาและปรับตัวอย่างไม่หยุดนิ่ง โดยมีเป้าหมายที่จะขยายแบรนด์และส่งมอบประสบการณ์อันเป็นเอกลักษณ์ของเทวาศรมไปยังสถานที่ใหม่ ๆ ในประเทศ โดยการเติบโตนี้ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงการขยายสาขา แต่เป็นการสานต่อความตั้งใจที่จะนำเสนอจุดเด่นด้าน “Luxury Hospitality & Wellness” และการใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อตอบสนองความต้องการของนักเดินทางยุคใหม่ที่มองหาสถานที่ที่เป็นมากกว่าการพักผ่อน
“ในการทำธุรกิจ นอกจากจะต้องคิดให้แตกต่างแล้ว ยังต้องคิดให้จบด้วย
เพราะแม้การใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุดจะสร้างความโดดเด่นได้
แต่ในขณะเดียวกัน การให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของลูกค้าอย่างรอบด้าน
รวมถึงการใส่ใจในรายละเอียด ก็เป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้เช่นกัน”
แนวคิดข้างต้นของคุณอิศร์สะท้อนถึงแนวทางของเทวาศรมในการสร้างความแตกต่างอย่างสร้างสรรค์ ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญสูงสุดกับประสบการณ์ของลูกค้า ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้เทวาศรมสามารถยืนหยัดและเติบโตต่อไปในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้อย่างยั่งยืน
ติดตาม บริษัท เทวาศรม เขาหลัก จำกัด เพิ่มเติมได้ที่
Website: devasom.com/khaolak
Instagram: instagram.com/devasom_resorts
Facebook: facebook.com/devasomkhaolak