แช่ชชช……
เสียงลูกชิ้นปลาสีขาวนวลน่ารับประทาน กระทบกับความร้อนของน้ำมันในกระทะส่งกลิ่นหอมอบอวลชวนหิว
พานให้น้ำลายไหล เมื่อราดกับน้ำจิ้มสูตรเด็ด ช่างเป็นรสชาติอันแสนกลมกล่อม
จึงไม่น่าแปลกใจที่ ‘ลูกชิ้นปลาทอดราชวัตร’ จะมีคนต่อคิวรอซื้ออย่างเนืองแน่นทุกวัน
โดยในปัจจุบันมีจำนวนกว่า 200 สาขา แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ต้องผ่านอุปสรรคนานัปการ ซึ่งจุดเริ่มต้นเกิดจาก
คุณต้น-อภิเชษฐ์ ทัศนะ เจ้าของแฟรนไชส์ลูกชิ้นปลาทอดราชวัตร
ผู้รักการขายของเป็นชีวิตจิตใจ ผ่านการค้าขายอย่างโชกโชน ก่อนหยุดที่ลูกชิ้นปลาเพราะประทับใจในรสชาติ
และมองเห็นโอกาสเติบโตทางธุรกิจ
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
คุณต้น เล่าว่า ตัวเองมีงานประจำ ปัจจุบันก็ยังทำอยู่
ด้วยนิสัยส่วนตัวเป็นคนชอบขายของ
ช่วงเวลาหลังเลิกงานก็จะหาอะไรมาขายสร้างรายได้เป็นประจำอยู่แล้ว
การขายของช่วยให้มีรายได้เสริม ไม่พึ่งรายได้จากงานประจำเพียงอย่างเดียว
แต่ตอนนั้นยังไม่ได้เป็นธุรกิจเป็นเพียงการซื้อมาขายไป
“ช่วงแรกขายลูกชิ้นได้กำไรเดือนละประมาณ
20,000 บาท ถือได้ว่าเป็นรายได้เสริมที่ดี
จึงเกิดเป็นจุดเริ่มต้นในความชื่นชอบที่อยากจะทำธุรกิจ”
ก่อนจะเจอจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตเมื่อปี 2554 เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ ‘ร้านขายลูกชิ้น’
เสียหาย เนื่องจาก ถูกกระแสน้ำพัดพาไป หลังจากสถานการณ์น้ำท่วมดีขึ้นแล้วจึงได้กลับมาขายอีกครั้ง
โดยทางเจ้าของสูตร
ได้มาเสนอขายกิจการร้านขายลูกชิ้นและสูตรน้ำจิ้มให้
เนื่องจากเกิดปัญหาขาดสภาพคล่องทางด้านการเงิน จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการเป็นเจ้าของกิจการ
และได้พัฒนาต่อยอดจนเป็นธุรกิจเฟรนไชส์ ‘ลูกชิ้นปลาทอดราชวัตร’ ที่ประสบความสำเร็จในปัจจุบัน
แอบตกใจเล็กน้อยตอนเซ้งร้านลูกชิ้นปลาและซื้อสูตรน้ำจิ้มด้วยเงินลงทุน
2 ล้านบาท ซึ่งคุณต้น
บอกว่า ปรึกษาทางบ้าน ซึ่งทางบ้านไม่เห็นด้วยเพราะค่อนข้างเสี่ยงอีกทั้งยังใช้เงินลงทุนสูง
แต่เนื่องจากทางร้านแจ้งว่าเฉพาะร้านที่เจ้าของสูตรเปิดขายเองนั้นมีกำไรถึงเดือนละ
100,000-150,000 บาท ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริงค่าสูตร
2 ล้านบาทก็เป็นการลงทุนที่น่าสนใจ เพราะไม่ถึง 2 ปีก็คืนทุนและยังสามารถทำเป็นธุรกิจในอนาคตได้ด้วย
“หลังจากที่ทดลองขาย 2-3 เดือนปรากฏว่าได้กำไรตามนั้นจริง
ผมจึงตัดสินใจหาทางกู้เงินเพื่อนำมาลงทุนในธุรกิจครั้งนี้ถึงจะยังมีเสียงคัดค้านจากครอบครัวก็ตาม”
ต่อยอดธุรกิจ
พัฒนากิจการให้ประสบความสำเร็จ
หลังจากที่ได้ลงทุนซื้อกิจการและสูตรมา
คุณต้น ได้มีการพัฒนาสูตรต่างๆ เพิ่มเติมให้มีความอร่อยลงตัวยิ่งขึ้น โดยใช้เวลาราว
2 ปี สูตรการทำลูกชิ้นและน้ำจิ้มก็เริ่มลงตัว ลูกค้ามีความชื่นชอบในคุณภาพและรสชาติของสินค้า
เริ่มมีลูกค้าที่สนใจอยากที่จะนำไปขายเป็นจำนวนมาก ขณะนั้นมีจำนวนสาขาประมาณ 20
สาขา จึงเริ่มทำเป็นธุรกิจเฟรนไชส์โดยใช้ชื่อ ‘ลูกชิ้นปลาทอดราชวัตร
(ต้น)’ เป็นชื่อแบรนด์ หลังจากออกรายการทีวี ‘คัมภีร์วิถีรวย’ ยิ่งทำให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น
และได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง จนมีจำนวนกว่า 200 สาขาในปัจจุบัน
แต่ด้วยการเติบโตอย่างรวดเร็ว จึงทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนและได้พัฒนาเพิ่มเครื่องมือและเครื่องจักรที่ได้มาตรฐาน
เพื่อให้สามารถผลิตได้มากขึ้นให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าเฟรนไชส์ซี และมีการควบคุมสินค้าให้ได้รสชาติและได้มาตรฐานอยู่ตลอด
“คุณภาพเนื้อปลา และวัตถุดิบต่างๆ
ล้วนส่งผลต่อรสชาติของลูกชิ้น และสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม คือ การบริหารความเสี่ยง ธุรกิจควรมี
2 OEM เพราะเผื่อว่า OEM
ใดเกิดปัญหาขึ้นมาก็จะไม่เกิดผลกระทบกับธุรกิจของเรา”
สู่ Product Franchising ที่เน้นคุณภาพและรสชาติ
การบริหารProduct Franchise และการตรวจสอบคุณภาพ
(QC) แต่ละสาขาแฟรนไชส์ซี คุณต้น เผยว่า
จะดูจากยอดการสั่งของของลูกค้าให้มีความสมดุลกัน เช่น สั่งซื้อลูกชิ้นปลา แป้ง
และน้ำจิ้มไม่สมดุลกัน ซึ่งทำให้ทราบเบื้องต้นทันทีว่า ทางสาขาแฟรนไชส์ซี อาจนำลูกชิ้นอื่นมาขายปะปนหรืออาจนำน้ำจิ้มไปดัดแปลงเพิ่มปริมาณจนทำให้เสียรสชาติต้นตำรับได้
“ลูกชิ้นปลาที่ดีต้องไม่มีกลิ่นคาว มีความนุ่มเด้ง” เนื้อปลาต้องมีคุณภาพดี สัดส่วนแต่ละอย่างที่คิดออกมาเป็นสูตรต้องเป๊ะ
เพื่อให้ลูกชิ้นปลามีรสชาติกลมกล่อม
สำหรับสูตร ‘น้ำจิ้ม’ คุณต้น เป็นคนควบคุมการผลิตเองทุกขั้นทำให้มั่นใจในคุณภาพ
ที่สำคัญรสชาติต้องจัดจ้าน อร่อยเด็ด เผ็ดแซ่บเวอร์ เมื่อนำรับประทานกับลูกชิ้นปลาจะเข้ากันอย่างลงตัว
ทั้งนี้ สาขาใหม่จะมีการเทรนฝึกสอนวิธีการทอดเพื่อให้ได้ตามสูตร
แต่หากมีลูกค้าคอมเมนต์มาทางเพจหรือทางโทรศัพท์ ทางแฟรนไชส์ก็จะแจ้งทางสาขานั้นทันที
เพื่อจะได้ทำการแก้ไขจุดบกพร่อง พร้อมทั้งให้คำปรึกษากับเฟรนไชน์ซี เพื่อให้ได้รสชาติและคุณภาพตามแบบสูตรต้นตำรับ
ทำให้รสชาติลูกชิ้นปลาได้ใจลูกค้าซึ่งจะเป็นผลดีต่อธุรกิจทั้งแฟรนไชส์และแต่ละสาขาในระยะยาว
“พร้อมทั้งยังมีการถ่ายทำคลิปวิดีโอวิธีการทอดลูกชิ้นปลา
เพื่อให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์ดูเพิ่มเติม เกิดความเข้าใจในวิธีการทอดมากยิ่งขึ้น”
การกำหนดราคาขาย?
ในเรื่องนี้ คุณต้น
ให้ความรู้ว่า มาตรฐานโดยทั่วไปจะพิจารณาจากค่าเช่าที่เป็นหลัก
หากค่าเช่าไม่แพงมากนักราคาขายจะอยู่ที่ 14 ลูก 20 บาท แต่หากค่าเช่ามีราคาสูง เช่น
ในห้างสรรพสินค้าอาจจะขาย 11-12 ลูก 20
บาทตามความเหมาะสมแต่ละพื้นที่
นอกจากรสชาติถูกปากแล้ว การตลาดเพื่อสร้างแบรนด์ก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
ลูกชิ้นปลาทอดราชวัตรจึงได้สร้างเพจผ่านช่องทางโซเชียล มีเดีย
เพื่อให้เป็นที่รู้จักเป็นวงกว้างมากขึ้น
“ธุรกิจแฟรนไชส์ต้องรักษาคุณภาพมาตรฐานแต่ละสาขาให้ได้ต้นตำรับมากที่สุด
เพราะจะทำให้เกิด Word of Mouth หรือการบอกปากต่อปาก อันเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ความสำเร็จของลูกชิ้นปลาทอดราชวัตร”
‘โควิด 19’ กระทบธุรกิจอย่างไร?
โควิดรอบแรกทำยอดขายลดลงประมาณ 50% ขณะที่รอบสองไม่ค่อยได้รับผลกระทบเนื่องจากการติดเชื้ออยู่ในวงจำกัด
ส่วนรอบสามได้รอบผลกระทบใกล้เคียงกับรอบแรก ซึ่ง คุณต้น มองว่า สาเหตุที่รอบหนึ่งและสามได้รับผลกระทบเยอะ
ก็เพราะมีการล็อกดาวน์ ปิดตลาด ห้ามขายสินค้า และลูกค้าไม่กล้าออกมาจับจ่ายใช้สอย
การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในขณะนั้นคือ ปรึกษาหาทางออกกับแฟรนไชส์ซี
โดยการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งแบบทอดสำเร็จและแบบสดให้ลูกค้าทอดรับประทานเองที่บ้าน
ซึ่งตอนนี้แฟรนไชส์ซีปรับตัวมาขายทางออนไลน์ค่อนข้างเยอะ
นอกจากนี้ยังมีการตลาดผ่านโอเพนแชทไลน์กลุ่มตามต่างจังหวัดในหมู่บ้านต่างๆ
เมื่อโพสต์ออเดอร์แล้วแฟรนไชส์ซีจะให้ ‘ไรเดอร์ส่วนตัว’
นำสินค้าไปส่งถึงบ้าน โดยมีราคาขนส่งถูกกว่าแพลตฟอร์มสั่งอาหารทั่วไป
ในอนาคตอันใกล้ จะมีผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้น
เช่น ไส้กรอก ปลาเส้น เพิ่มเติม นอกจากนี้ก็จะมีในส่วนของลูกชิ้นนึ่ง ยำลูกชิ้น
ยำซีฟู้ด และลูกชิ้นโรยผงปรุงรส รสชาติต่างๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายอีกทาง
เน้นการตลาดแบบเข้าถึง ไปเรื่อยๆ ไม่หยุด
บทสรุปเรื่องราวของธุรกิจของแฟรนไชส์
‘ลูกชิ้นปลาทอดราชวัตร (ต้น)’ ที่ทำให้เห็นว่าการจะทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้นั้น
ต้องมีการใส่ใจรายละเอียดปลีกย่อยในทุกๆ ด้าน พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ และไม่ยอมหยุดนิ่งแม้ขณะเผชิญกับ
‘โควิด 19’ ก็ตาม
และบางครั้งความสำเร็จก็อาจไม่ใช่อะไรที่ยากเย็น เพียงแต่ต้องใส่ใจ ไม่หยุดทำ และกำหนดเป้าหมายของความสำเร็จในแต่ละขั้นอย่างชัดเจน
และมีเป้าหมายในการเดินไปข้างหน้าต่อไป