แม้หลายคนจะเคยบอกว่าสิ่งที่ ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ ทำได้ล้วนมาจากบุญเก่าของครอบครัว
ที่มีบิดาเป็น สว.สหรัฐฯ คงได้สัมผัสมือกับนายธนาคารตั้งแต่ไม่จบชั้นประถม ซึ่งก็อาจจะมีส่วนจริงอยู่บ้าง
แต่ก็ต้องยอมรับว่า ชื่อของเขาเปรียบเสมือนเครื่องหมายการค้าที่ผู้คนให้การยอมรับในเรื่องของแนวคิด
และวิสัยทัศน์ของเขาอย่างกว้างขวาง ตำนานนักเล่นหุ้นที่รวยที่สุดในโลก นอกจากนี้เขายังเป็นผู้ถือหุ้น และซีอีโอของบริษัทระดับโลกอย่าง Berkshire Hathaway อีกด้วย ซึ่งวอร์เรน บัฟเฟตต์
นั้นได้รับการยอมรับ และได้รับการจับตามองจากผู้คนทั่วโลก
โดยเฉพาะในเรื่องของเคล็ดลับความสำเร็จ ซึ่งใครจะไปคิดว่าเทคนิคการลงทุนต่างๆ ที่เขาใช้จนพบความสำเร็จอย่างถึงที่สุดในปัจจุบันนี้ มันเกิดจากนิสัยเพียงหนึ่งเดียวของเขา นั่นคือการ “รักการอ่าน” นั่นเอง
วอร์เรน บัฟเฟตต์ ใช้เวลาอ่านหนังสือวันหนึ่งมากกว่า 10 ชั่วโมง ทำให้เค้า ประสบความสำเร็จ
หลายคนอาจจะตั้งคำถามว่าเขาอ่าน ‘ทั้งวัน’ เลยหรือ กล่าวกันว่า
เขาคลั่งไคล้การอ่านหนังสือมาก
ในวันวันหนึ่งเขาจะตื่นเช้ามาเพื่ออ่านหนังสือพิมพ์หลายฉบับ และใช้เวลาไปกว่า 80%
ของวันไปกับการอ่านหนังสือ ซึ่งเขาบอกว่า
เคล็ดลับการเพิ่มความรู้ให้ตัวเองเป็นคนมีวิสัยทัศน์กว้างไกล
มองทุกอย่างที่ควรจะเป็นได้นั้น เกิดจากการอ่านหนังสือมากกว่า 500 หน้าต่อวันของเขานั่นเอง
มีคนเคยสอบถาม วอร์เรน บัฟเฟตต์
เกี่ยวกับเคล็ดลับสู่ความสำเร็จในทุกวันนี้ของเขา ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง
เขาชี้ไปยังชั้นหนังสือที่มีหนังสือมากมายเรียงรายกัน พร้อมบอกว่า “เคล็ดลับการเพิ่มความรู้ของผม
คือการอ่านหนังสือเหล่านั้นวันละ 500 หน้า
ซึ่งความรู้มันจะสะสมไปเรื่อยๆ เหมือนดอกเบี้ยที่ทบต้นทบดอก”
วอร์เรน บัฟเฟตต์
ย้ำถึงความสำเร็จครั้งนี้ว่ามันไม่ใช่ปาฏิหาริย์ หรือเรื่องน่าเหลือเชื่อ
แต่มันเป็นทักษะธรรมดาๆ ที่ใครๆ ก็สามารถทำได้ แต่คนส่วนใหญ่มักจะไม่ทำมัน
อ่านหนังสืออย่างเดียวไม่ช่วยอะไร
หากคุณไม่ได้คิดตามอย่างจริงจัง
แต่หลักในการอ่านหนังสือของ วอร์เรน
บัฟเฟตต์ ไม่ใช่การอ่านเพื่อให้จบ
แต่เป็นการอ่านและจับใจความสำคัญที่หนังสือแต่ละเล่มต้องการจะสื่อ
พร้อมกับนำมันมาคิดวิเคราะห์ให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆ อีกครั้ง เขากล่าวว่า
“ผมอ่าน แล้วก็คิดตาม
ผมจะอ่านให้มากขึ้น และจะคิดให้ยิ่งขึ้น เพื่อจะได้ตัดสินเรื่องต่างๆ
ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่านักธุรกิจส่วนใหญ่”
นี่เป็นทักษะพื้นฐานที่เห็นได้ชัดว่าไม่จำเป็นต้องมีพรสวรรค์ใดๆ
ขอแค่คุณได้มีทัศนคติในการมองโลกจากแง่มุม และวิธีคิดที่ต่างไป
คุณจะได้เรียนรู้และทำสิ่งใหม่ๆ ที่มีโอกาสสำเร็จได้แน่นอน ซึ่งหนังสือนี่เองที่เป็นตัวเปิดโลกที่น่าสนใจ
และเป็นสิ่งที่สามารถทำได้โดยไม่ต้องใช้ต้นทุนสูง
คนรวยระดับโลกที่ ประสบความสำเร็จ กว่า 1,200 คน ล้วนมีนิสัยรักการอ่าน
นอกจาก วอร์เรน บัฟเฟตต์
เองที่พิสูจน์แล้วว่าการอ่านหนังสือนั้นเป็นสิ่งช่วยการันตีความสำเร็จให้กับชีวิตได้จริง
ก็ยังมีผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในโลกอีกกว่า 1,200 คนที่การันตีเรื่องนี้เช่นกัน ในหนังสือ How Rich People Think ได้มีการสัมภาษณ์คนเหล่านั้นถึงความชอบ และประวัติส่วนตัวของพวกเขา
ซึ่งสิ่งที่น่าแปลกประหลาดอย่างยิ่ง
และเป็นจุดร่วมที่ทุกคนมีเหมือนกัน จนทำให้พบความสำเร็จได้ขนาดนี้ก็คือ
นิสัยรักการอ่านนั่นเอง ซึ่งคนที่พบความสำเร็จทั้ง 1,200 คนนั้นมีความชอบหนังสือในแต่ละประเภทที่ต่างกันออกไป
แต่มันเป็นเหมือนนิสัยพื้นฐานของผู้ที่ประสบความสำเร็จเลยก็ว่าได้
ถ้าคุณอยาก ประสบความสำเร็จ ไม่เสียเวลาดูทีวี แต่ใส่ใจในหนังสือแทน
นอกจากนี้นักเรียนหนังสือชื่อดังอย่าง ทอม คอร์ลีย์ ยังใช้เวลา 5 ปีในการยืนยันทฤษฎีของวอร์เรน บัฟเฟตต์ ว่าการอ่านหนังสือมันช่วยให้ชีวิตดีขึ้นได้จริงๆ โดยเขาศึกษาชีวิตประจำวันของมหาเศรษฐีกว่า 233 คน และคนยากจนกว่า 128 คน พบว่า 67% ของมหาเศรษฐี จะจำกัดตัวเองให้ดูทีวีแค่วันละ 1 ชั่วโมงเท่านั้น หรืออาจจะน้อยกว่านั้นด้วยซ้ำ แต่กลับกันผู้คนที่ยากจนนั้นใช้เวลาดูทีวีเยอะมาก และใช้เวลาไปกับการอ่านหนังสือน้อยเช่นกัน
และไม่ใช่แค่ความฉลาดในด้านการจัดการชีวิต การบริหาร หรือการลงทุนต่างๆ เท่านั้นที่การอ่านหนังสือจะช่วยพัฒนาคุณได้ แต่แม้แต่ความฉลาดทางอารมณ์เอง หนังสือก็พัฒนาให้คุณได้เช่นกัน ซึ่งการอ่านจะช่วยพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของทุกคนให้ดีขึ้นได้ในระยะยาว ช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ และพัฒนาการสื่อสารให้เลือกใช้คำพูดที่ดี เป็นมิตรกับทุกคนได้ ซึ่งนำไปสู่คอนเนคชั่นชั้นเยี่ยมในการประกอบธุรกิจอีกด้วย