Samsung – Cargrill กรณีศึกษา ธุรกิจครอบครัวระดับโลก ที่ดำเนินงานได้อย่างราบรื่นยั่งยืน

Family Business
28/06/2024
รับชมแล้วทั้งหมด 2424 คน
Samsung – Cargrill กรณีศึกษา ธุรกิจครอบครัวระดับโลก ที่ดำเนินงานได้อย่างราบรื่นยั่งยืน
banner
การอยู่ร่วมกันในสังคมขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วยความหลากหลายทั้งความคิด รูปแบบการดำรงชีวิตที่มีไลฟ์สไตล์แตกต่างกัน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการสร้างกฎ กติกา ที่ผ่านการยอมรับของทุกฝ่าย มาใช้เป็นหลักเกณฑ์ กำหนดกรอบสำหรับปฏิบัติเพื่อให้เกิดความราบรื่นและลดความขัดแย้ง 
 


ขณะที่ สังคมขนาดย่อมอย่าง ‘ครอบครัว’ ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกที่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือด สืบทอดจากตระกูลเดียวกัน และมีสายสัมพันธ์ในฐานะพ่อ แม่ พี่ น้อง เครือญาติ  เมื่อต้องมาบริหารงานในกิจการ ในรูปแบบของ ธุรกิจครอบครัว (Family Business) ยิ่งมีความเสี่ยงจะเกิดการกระทบกระทั่งกันได้ง่าย เพราะความใกล้ชิดสนิทสนม อีกทั้งเมื่อความเห็นไม่ตรงกันในการตัดสินใจเรื่องสำคัญ อาจก่อให้เกิดความขัดแย้ง บานปลายได้ทุกเวลา 


 
ธรรมนูญครอบครัว สำคัญต่อการบรืหารจัดการธุรกิจครอบครัวอย่างไร?

สำหรับ ธรรมนูญครอบครัว  คือ บันทึกข้อตกลงร่วมกันของสมาชิกในครอบครัว ประกอบไปด้วยประเด็นเรื่องการวางแผน และจัดการเรื่องต่าง ๆ ของครอบครัว และธุรกิจครอบครัว (Family Business) เช่น วิสัยทัศน์และพันธกิจ สิทธิและหน้าที่ของสมาชิกในครอบครัว รวมไปถึงการจัดสรรค่าใช้จ่าย การบริหารจัดการบัญชี และนโยบายการทำงานของสมาชิกในธุรกิจครอบครัว ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อความสำเร็จ   และความยั่งยืนของธุรกิจ   ดังนี้

1. ลดความขัดแย้ง 

ช่วยให้สมาชิกในครอบครัวเข้าใจ และรับทราบ บทบาท หน้าที่ สิทธิ และความรับผิดชอบ ที่ชัดเจน ลดความสับสน และป้องกันความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น 

2. เสริมสร้างความผูกพันระหว่างสมาชิกในครอบครัว

โดยกำหนดกรอบความสัมพันธ์ ระหว่างสมาชิกในครอบครัว ทั้งในฐานะเจ้าของธุรกิจ และในฐานะสมาชิกครอบครัว ช่วยให้เกิดความเข้าใจ ไว้วางใจ และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน 

 

3. วางแนวทางสืบทอด

กำหนดแนวทาง กลไก กระบวนการในการสืบทอดธุรกิจจากรุ่นสู่รุ่น อย่างราบรื่น ชัดเจน โปร่งใส ตรวจสอบได้ ลดความเสี่ยง ความขัดแย้ง ที่อาจเกิดขึ้น ส่งเสริมให้ธุรกิจครอบครัวดำเนินต่อไปได้อย่างยั่งยืน 

4. เพื่อให้เกิดการตัดสินใจอย่างมีประสิทธิภาพ   

กำหนดรูปแบบ และ วิธีการในการตัดสินใจที่สำคัญเกี่ยวกับธุรกิจ ทรัพย์สิน และครอบครัว   ช่วยให้เกิดความโปร่งใส   ลดการทุจริต เป็นต้น


บทความนี้ ขอยกตัวอย่างการบริหารจัดการในธุรกิจครอบครัว ของแบรนด์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก เพื่อเป็นตัวอย่างการบริหารทั้งธุรกิจ และครอบครัว ให้เกิดความราบรื่นและไร้ความขัดแย้ง สามารถดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน จนถึงปัจจุบัน 
 

ถอดบทเรียนสู่ความสำเร็จ และความยั่งยืนของ ครอบครัวของ ‘ซัมซุง’

ซัมซุง  (Samsung หรือ 삼성) ก่อตั้งโดย อี บย็อง-ช็อล ชาวเกาหลีใต้ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ กรุงโซล ถือเป็นบริษัทมหาชนยักษ์ใหญ่ ที่ประกอบด้วยบริษัทย่อยจำนวนมาก และขึ้นชื่อเรื่องการดำเนินธุรกิจครอบครัวที่ประสบความสำเร็จในการสืบทอดธุรกิจจากรุ่นสู่รุ่น 
 
อี บย็อง-ช็อล (Lee Byung-chul) ก่อตั้งบริษัทซัมซุงขึ้น ในปี พ.ศ. 2481 ในเมืองแทกู หลังจากนั้น เขาก่อตั้งบริษัทซัมซุงโปรดักส์ บริษัทสิ่งทอ และ บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้า ขยายกิจการอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นต้นแบบทีมีอิทธิพลอย่างยิ่งต่อแวดวงธุรกิจยุคนั้น 

ความโดดเด่นด้านการบริหาร คือการใช้กลยุทธ์ที่เฉียบแหลม วางรางรากฐานธุรกิจด้วยวิสัยทัศน์อันกว้างไกล มุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจให้เติบโต ขยายสาขา ก่อตั้งบริษัทลูกจำนวนมาก จนหล่อหลอมแบรนด์ซัมซุง ให้กลายเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ ผ่านการวางโครงสร้างภายใต้ Samsung Group ที่บริษัทในเครือจะเป็นผู้ถือหุ้น โดยสมาชิกหลายคนในตระกูลเข้าไปลงทุนเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ของครอบครัวและคงอำนาจการควบคุม

 

หลักการดำเนินธุรกิจ 5 ประการของ Samsung คือ 1. การปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐานทางจริยธรรมเคารพในศักดิ์ศรีและความหลากหลายของแต่ละบุคคล รวมถึงมีระบบบัญชีที่โปร่งใส จัดการธุรกรรมทั้งหมดอย่างถูกต้อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย  2. แยกชีวิตส่วนตัว ออกจากกิจกรรมทางธุรกิจทั้งหมดอย่างเคร่งครัด 3. เคารพลูกค้า ผู้ถือหุ้น และพนักงาน 4. ดำเนินการจัดการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ 5. สร้างความเชื่อมั่นในความรับผิดชอบ 

ปัจจุบัน ซัมซุง ก้าวเข้าสู่การบริหารของทายาทรุ่นที่ 3 ที่ยังคงเชื่อว่า การจัดการอย่างมีจริยธรรม ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลง แต่ยังเป็นเครื่องมือในการสร้างความไว้วางใจกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงลูกค้า ผู้ถือหุ้น พนักงาน คู่ค้าทางธุรกิจ และชุมชนท้องถิ่น นำพาธุรกิจครอบครัวให้ก้าวข้ามผ่านอุปสรรคสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน   

รากฐานแห่งความสำเร็จ มรดกของ ‘วิลเลียม วอลเลซ คาร์กิล’ ผู้ก่อตั้ง คาร์กิลล์ (Cargill)

คาร์กิลล์ (Cargill) บริษัทเอกชนรายใหญ่ที่สุด ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์และบริการ ด้านอาหาร เกษตรกรรม การเงิน และอุตสาหกรรมระดับโลกจากประเทศอเมริกา มีพนักงานประมาณ 155,000 คน ใน 70 ประเทศ ซึ่งมุ่งเน้นธุรกิจที่เป็นห่วงโซ่อุปทานด้านอาหาร ครอบคลุมตั้งแต่การเกษตร การแปรรูป การขนส่ง ไปจนถึงการค้าปลีก ขยายการลงทุนธุรกิจไปยังตลาดใหม่ ๆ ทั่วโลก

วิลเลียม วอลเลซ คาร์กิล (William Wallace Cargill)  คือ ผู้ริเริ่มธุรกิจอาหารที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง ด้วยวิสัยทัศน์ และกลยุทธ์อันชาญฉลาดในการวางรากฐานให้บริษัท Cargill เติบโตกลายเป็นผู้นำในธุรกิจอาหารโลก และปฏิเสธไม่ได้ว่า มรดกของเขา ยังคงส่งผลต่อระบบอาหารโลกในปัจจุบันอย่างมหาศาล
 


Cargill ก่อตั้งธุรกิจขึ้นในปี 2008 เริ่มจากการจัดเก็บเมล็ดพืชเล็ก ๆ ในเมืองโคโนเวอร์ รัฐไอโอวา ต่อมาในปี 1867 น้องชายสองคนของเขา คือแซมและซิลเวสเตอร์ เข้ามาร่วมงานกับบริษัท ทำให้ บริษัท Cargill เริ่มขยายธุรกิจ และกลายเป็นผู้ครอบครองคลังเก็บเมล็ดพืชในเมืองคอนโอเวอร์ รัฐไอโอวา 

ต่อมา เอ็ดนา คลาร่า บุตรสาวของ  สมรสกับ จอห์น เอช แมคมิลลาน ซึ่งเป็นการรวมสองครอบครัวอย่างเป็นทางการ จอห์น แมคมิลลาน จูเนียร์ บุตรชายของพวกเขาถือกำเนิดในเดือนธันวาคมปี 1912 หลังจากการเสียชีวิตของ ดับเบิลยู ดับเบิลยู คาร์กิลล์ ในปี 1909 จอห์น เอช แมคมิลลาน ซีเนียร์ เข้ารับหน้าที่ผู้นำบริษัทต่อจากบิดาของภรรยา โดยกิจการของบริษัท ถูกนำมาควบรวมกันภายใต้ชื่อใหม่ บริษัท Cargill Elevator Company
 


Cargill ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หุ้นของบริษัทจึงไม่มีการซื้อขายในตลาดทั่วไป โดยการบริหารจัดการเป็นการกระจายหุ้นของบริษัทไปยังสมาชิกครอบครัวคาร์กิล พนักงานเกษียณอายุ และมูลนิธิ และควบคุมการดำเนินธุรกิจของบริษัท คณะกรรมการบริหารมาจากสมาชิกครอบครัวคาร์กิล และบุคคลภายนอกที่ได้รับการคัดเลือก

Cargill ยังคงเป็นธุรกิจครอบครัวที่แข็งแกร่ง เนื่องจากลูกหลานของผู้ก่อตั้ง (จากตระกูล Cargill และ MacMillan ) เป็นเจ้าของธุรกิจมากกว่า 90% ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2566 กระทั่ง ไบรอัน ไซค์ส์ (Brian Sikes) ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานและซีอีโอ โดยเขาเป็นซีอีโอคนที่ 10 ในประวัติศาสตร์ 158 ปีของคาร์กิลล์
 

เหล่านี้ คือตัวอย่างการบริหารธุรกิจอันเป็นปัจจัยความสำเร็จธุรกิจครอบครัว ที่ดำเนินธุรกิจยาวนาน ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสิ่งที่สะท้อนว่า การมี “ธรรมนูญครอบครัว” ที่แข็งแกร่ง โปร่งใส เป็นธรรมและเป็นที่ยอมรับของผู้มีส่วนร่วมทุกคน จึงสำคัญอย่างยิ่ง ในการบริหารจัดการธุรกิจครอบครัวให้เกิดความราบรื่น ยั่งยืน

ติดตามซีรีส์ Family Business และความรู้เรื่องการทำธุรกิจครอบครัวให้สำเร็จ ในบทความหน้า 

ข้อมูลอ้างอิง :  หนังสือวางแผนสืบทอดธุรกิจครอบครัวอย่างยั่งยืน เขียนโดย คุณกิติพงศ์  อุรพีพัฒนพงศ์, วารสารปรัชญาปริทรรศน์, Family Business Asia



Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

ธุรกิจครอบครัวที่ขับเคลื่อนด้วยความเชื่อมั่นของตระกูล "Mars" และพลังแห่งการสืบทอดยาวนานกว่า 113 ปี

ธุรกิจครอบครัวที่ขับเคลื่อนด้วยความเชื่อมั่นของตระกูล "Mars" และพลังแห่งการสืบทอดยาวนานกว่า 113 ปี

ในโลกของธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงและการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การดำรงอยู่ของธุรกิจครอบครัวที่สามารถสืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน นับเป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจยิ่ง…
pin
22 | 24/12/2024
ปูทางสู่ความยั่งยืน เจาะลึกระบบหลังบ้านธุรกิจครอบครัว ให้เติบโตแบบบริษัทมหาชน

ปูทางสู่ความยั่งยืน เจาะลึกระบบหลังบ้านธุรกิจครอบครัว ให้เติบโตแบบบริษัทมหาชน

11ธุรกิจครอบครัว (Family Business) มักเผชิญความท้าทายที่ซับซ้อนในการจัดการระบบหลังบ้าน โดยเริ่มจากวัฒนธรรมองค์กรแบบดั้งเดิมที่ยังยึดติดกับวิธีการทำงานแบบเก่า…
pin
24 | 19/12/2024
5 คำถามสำคัญ ก่อนการ  Transition ธุรกิจครอบครัว

5 คำถามสำคัญ ก่อนการ Transition ธุรกิจครอบครัว

แม้ผู้นำธุรกิจครอบครัว (Family Business) จะต้องการส่งต่อธุรกิจของตนเองจากรุ่นสู่รุ่นให้ยาวนานและยั่งยืน ทว่า ในความเป็นจริงแล้ว ต้องยอมรับว่า…
pin
30 | 14/12/2024
Samsung – Cargrill กรณีศึกษา ธุรกิจครอบครัวระดับโลก ที่ดำเนินงานได้อย่างราบรื่นยั่งยืน