AI Search คืออะไร? วิธีปรับคอนเทนต์ให้ AI เอาไปใช้ตอบลูกค้า

SME Series
24/10/2025
รับชมแล้วทั้งหมด 2 คน
AI Search คืออะไร? วิธีปรับคอนเทนต์ให้ AI เอาไปใช้ตอบลูกค้า
banner

ในปี 2025 การทำการตลาดบนหน้าเสิร์ชจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เมื่อผู้คนเริ่มเปลี่ยนจากการพิมพ์ “คีย์เวิร์ด” ไปสู่การถาม “คำถามเต็มรูปแบบ” กับ AI แทนที่จะใช้ Search Engine เหมือนที่ผ่านมา ผู้ใช้งานเริ่มมองหาความรวดเร็วและคาดหวังคำตอบที่ดีที่สุดในทันที นี่คือจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ธุรกิจ โดยเฉพาะ SME ไม่สามารถพึ่งแค่ SEO แบบเดิมได้อีกต่อไป แล้ว SME ควรปรับกลยุทธ์อย่างไร เพื่อให้แบรนด์ยังคงถูกมองเห็นในยุคที่ AI คือผู้คัดเลือกคำตอบ? อยากทำแบรนด์ในยุค AI อ่านได้ที่นี่

Topic 01 : AI Search สิ่งที่ SME ต้องให้ความสำคัญในยุค AI Transformation



การทำ SEO (Search Engine Optimization) คือหัวใจสำคัญของการทำการตลาดดิจิทัล หากธุรกิจของคุณต้องการให้ลูกค้าเห็นเว็บไซต์ของตัวเองบนการค้นหาของ Google ก็ต้องผลิตคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ วิเคราะห์คีย์เวิร์ดที่ตอบโจทย์การค้นหาของกลุ่มเป้าหมาย และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ของแบรนด์ผ่านการทำลิงก์เชื่อมโยงจากเว็บไซต์ภายนอกเพื่อไต่อันดับให้สูงที่สุด

แต่วันนี้ เกมการตลาดได้เปลี่ยนไปแล้ว

การมาถึงของ AI Search เช่น AI Overviews, AI Mode, ChatGPT, Gemini, Perplexity และ Claude AI  ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป แทนที่จะคลิกเข้าเว็บไซต์หลาย ๆ หน้าเหมือนแต่ก่อน คนเริ่ม “ถาม AI” และได้รับคำตอบสรุปครบจบในหน้าเดียว โดยไม่ต้องเข้าไปยังหน้าเว็บไซต์

กระแสการใช้งาน AI ในอเมริกาเติบโตอย่างรวดเร็ว ผู้ใช้งานเริ่มพึ่งพา AI Search มากขึ้น โดยเฉพาะในการหาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า บริการ หรือแม้แต่เลือกร้านอาหาร ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อ Organic Traffic ของเว็บไซต์ ที่เคยพึ่งพา SEO อย่างหนัก

ดังนั้น ใครที่ทำธุรกิจ SME และยังอยากให้เว็บไซต์ของคุณยังอยู่ในสายตาผู้บริโภคยุคใหม่ ธุรกิจต้องเริ่มต้นเรียนรู้และลงสนามในเกมของ AI Search ตั้งแต่วันนี้ ไม่ใช่แค่ทำ SEO ให้ดี แต่ต้องทำให้ AI “รู้จัก” ธุรกิจเรา และแนะนำเราให้กับผู้ถามคำถามผ่าน AI ด้วยเช่นกัน

Topic 02 : AI Search คืออะไร?

AI Search คือหนึ่งในเทคโนโลยีล่าสุดที่กำลังพลิกโฉมโลกของการค้นหาข้อมูลผ่าน Search Engine ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการรวบรวม วิเคราะห์ และสรุปข้อมูลจากหลากหลายแหล่งบนอินเทอร์เน็ตให้เป็นคำตอบที่กระชับ เข้าใจง่าย และตรงกับความต้องการของผู้ใช้งาน 

ปัจจุบันเทคโนโลยีนี้ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยบริษัทยักษ์ใหญ่ เช่น Google กับ AI Overviews ที่เริ่มเปิดให้ใช้งานแล้วในหลายประเทศ ไปจนถึงแพลตฟอร์มอย่าง Perplexity AI, Gemini, Claude AI และ ChatGPT ที่สามารถให้คำตอบพร้อมแหล่งอ้างอิงที่ชัดเจน ความก้าวหน้าทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นว่า AI Search ไม่ใช่แค่กระแสชั่วคราว แต่คืออนาคตของการค้นหาข้อมูลที่ผู้ใช้ทั่วโลกจะค่อยๆ คุ้นเคย และอาจกลายเป็นรูปแบบหลักของการใช้งาน Search Engine ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน สมมติคุณพิมพ์ค้นหาว่า “โน้ตบุ๊กรุ่นไหนเหมาะกับงานตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ” ระบบ AI Search จะไม่เพียงแค่แสดงรายชื่อเว็บไซต์รีวิวหรือร้านค้า แต่จะขึ้นข้อความสรุปทันที เช่น “โน้ตบุ๊กที่เหมาะสำหรับงานตัดต่อวิดีโอที่มีชิปประมวลผลระดับสูง เช่น 

“MacBook Pro รุ่น 16 นิ้ว ชิป M4 Pro มาพร้อมชิป M4 Pro (CPU 14-core, GPU 20-core, Neural Engine 16-core) บนจอภาพ Liquid Retina XDR ขนาด 16 นิ้ว, หน่วยความจำ 24GB หรือ 48GB, SSD 512GB, พอร์ต Thunderbolt 5 จำนวน 3 พอร์ต, HDMI, ช่องเสียบ SDXC, ช่องต่อหูฟัง, MagSafe 3, Magic Keyboard พร้อม Touch ID, และอะแดปเตอร์แปลงไฟ 140W...” พร้อมใส่แหล่งอ้างอิงจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือไว้ด้านข้างตามตัวอย่างด้านล่าง


Topic 03 : หลักการทำงานของ AI Search คืออะไร?



หลักการทำงานของ AI Search คืออะไร ทำไม AI Search ถึงตอบได้ตรงกว่า SEO แบบเดิม? คำตอบง่าย ๆ คือ AI Search ไม่ได้พิจารณาคำตอบจากคีย์เวิร์ดแค่คำเดียว แต่มีการวิเคราะห์จาก Query ซึ่งเป็นคำหรือประโยคที่ผู้ใช้พิมพ์ลงในช่องค้นหา แล้ว AI จะนำ Query ดังกล่าว มาแตกเป็น Sub Query ก่อนเข้าไปหาข้อมูลใน Internet แล้วมา Summarize ให้ User เพื่อให้ข้อมูลสุดท้ายที่ User ได้รับเป็น Best Answer จากการเข้าไปหาข้อมูลได้อย่างลึกขึ้น จากหลักการ Query Fan-Out

ซึ่งถ้าอยากรู้ว่าในแต่ละ Query ถูกแตกย่อยออกมาเป็น Sub Query อะไรบ้าง สามารถมาเล่นได้ที่ Query Fanout Analysis Tool: https://nerdoptimize.com/query-fan-out-tool/



โดยเมื่อพิมพ์ Keyword ไปแล้ว Tools จะจำลองการทำงาน Query Fan-Out เพื่อเอาไปใช้ในการเขียน Content ที่มี Topic ที่ครอบคลุมมากขึ้นได้ ทำให้มีโอกาสสูงขึ้นที่ AI จะเข้ามาเจอเราผ่าน Sub-Query ต่าง ๆ ช่วยให้เพิ่มโอกาสติด AI Search มากขึ้น




Topic 04 : 3 Steps for AI Search เริ่มต้นได้ง่าย ๆ จาก “NerdOptimize”



ตัวอย่างการทำเว็บไซต์ให้ติด AI Search ที่ได้รับคำแนะนำมาจากบริษัทรับทำ SEO ชั้นนำของประเทศไทย NerdOptimize เริ่มต้นได้ด้วย 3 Steps ง่าย ๆ ต่อไปนี้

H3 : 1. Website

หากต้องการให้เว็บไซต์ของคุณมีโอกาสติด AI Search และถูก AI หยิบไปใช้อ้างอิง สิ่งสำคัญคือการปรับเว็บไซต์ให้ “โหลดไว เข้าถึงง่าย และอ่านได้ชัดเจน” ทั้งสำหรับผู้ใช้และ AI Bot เช่น การบีบอัดภาพเป็น WebP, ใช้ lazy load และลดโค้ด JavaScript ที่ไม่จำเป็นหากต้องการให้เว็บไซต์ของคุณมีโอกาสติด AI Search และถูก AI หยิบไปใช้อ้างอิงมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ การติดตั้ง LLMs.txt และ robots.txt ก็เป็นอีกขั้นตอนที่จำเป็น เพราะเป็นการระบุให้ระบบ AI ทราบว่าอนุญาตให้เข้าถึงส่วนไหนของเว็บไซต์ เพื่อเปิดทางให้ AI เข้าถึงเนื้อหาได้ถูกจุด




โดย LLMs.txt จะเปรียบเสมือนแผนผังเว็บไซต์ให้ AI สามารถเข้ามาหาข้อมูลในเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น โดยในไฟล์ LLMs.txt จะมีการอธิบายเนื้อหาด้านใน ในแต่ละ URL ว่า URL เหล่านั้นมีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร เป็นเหมือน Context เบื้องต้น ให้ LLMs สามารถเข้าใจเนื้อหาคร่าว ๆ ก่อนเข้าไปดึงข้อมูลจริง



ส่วน robots.txt จะเป็นไฟล์ที่คอยบอกให้ Crawler รู้ว่าอนุญาต หรือไม่อนุญาตให้ Crawler สามารถเข้ามาเก็บข้อมูลในหน้าไหนบ้าง โดยหากเรา Disallow AI Crawler ไปแล้ว AI ก็จะไม่สามารถเข้ามาเก็บข้อมูลในเว็บไซต์ของเราได้นั่นเอง




รวมไปถึงการเพิ่ม Structured Data หรือพัฒนา Web API ภายในเว็บไซต์ ที่เป็นชุดโค้ด JSON ซึ่งจะช่วยให้ AI เข้าใจข้อมูลได้ง่ายขึ้น และเพิ่มโอกาสที่เนื้อหาของคุณจะถูกเลือกไปแสดงในผลลัพธ์ AI Search

H3 : 2. Content

อีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญคือการทำ Hyper-Personalized Content หรือคอนเทนต์ที่ตอบความต้องการเฉพาะของแต่ละกลุ่มผู้ใช้ ไม่ใช่แค่การเขียนบทความทั่วไป แต่ต้องเข้าใจ “บริบท (Context)” และ “ความตั้งใจ (Search Intent)” ของผู้ค้นหาว่าเขาต้องการอะไร เช่น วิเคราะห์ว่าเนื้อหานั้นตรงกับ query ของผู้ใช้งานหรือไม่ และตอบคำถามได้ดีแค่ไหน เพื่อนำไปพัฒนาให้เนื้อหามีคุณภาพมากยิ่งขึ้น

อีกสิ่งที่จำเป็นควบคู่กันคือการทำ Content Structured Data เพื่อช่วยให้ AI Bot เข้าใจและประมวลผลข้อมูลของคุณได้ง่ายขึ้น ทั้งการจัดโครงสร้างบทความให้ถูกหลัก SEO การทำ Schema Markup การสร้าง Content Hub เพื่อเชื่อมโยงลิงก์ภายในและภายนอก รวมไปถึงการเขียนตามหลัก E-E-A-T Factor ทั้งหมดนี้จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีโอกาสปรากฏใน AI Search และยังส่งผลดีต่อ Brand Mention โดยรวมอีกด้วย




H3 : 3. Brand Mention

การมีตัวตนเฉพาะบนเว็บไซต์ของตัวเองไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะ AI ไม่ได้ดึงข้อมูลจากเว็บไซต์เราเพียงแหล่งเดียว แต่ยังอ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม (3rd Party) รวมถึงแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เช่น Facebook, TikTok, Lemon8 และอื่นๆ โดยเฉพาะในคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวกับการรีวิว การเปรียบเทียบ หรือความคิดเห็นของผู้ใช้งาน

ดังนั้น หากแบรนด์ของคุณถูกกล่าวถึงหรือ “Mention” บ่อยครั้งในหลายๆ แพลตฟอร์ม โดยเฉพาะจากแหล่งที่ AI มองว่าน่าเชื่อถือ โอกาสที่แบรนด์จะถูก AI เลือกนำเสนอในคำตอบ ก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย ยิ่งมีการพูดถึงแบรนด์ในเชิงบวก กระจายอยู่ในหลายช่องทางมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นการส่งสัญญาณให้ AI เห็นว่า “นี่คือแบรนด์ที่มีตัวตนจริงและมีคุณค่าเพียงพอ” ที่จะถูกหยิบไปใช้ในคำตอบของ AI Search ได้นั่นเอง

Topic 05 : AI Search Engine ที่น่าจับตามองในปี 2025 มีอะไรบ้าง?

H3 : 1. AI Overviews

AI Overviews คือ ฟีเจอร์ของ Google Search ที่จะสร้างคำตอบสรุปแบบย่อหน้าที่ปรากฏอยู่ด้านบนสุดของหน้าผลการค้นหาคล้าย SEO Featured snippet เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับคำตอบที่เข้าใจง่าย รวดเร็ว และตรงประเด็น พร้อมแนบอ้างอิงเป็นเว็บไซต์ที่ AI ใช้อ้างอิงข้อมูลเป็นทางเลือกให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูลได้

จุดเด่น

  • สรุปคำตอบจากหลายเว็บไซต์มาให้ทันทีบนหน้าผลการค้นหา

  • ไม่ต้องคลิกเข้าเว็บไซต์ก็เข้าใจเนื้อหาหลักได้

  • ใช้ฐานข้อมูลจาก Google ซึ่งมีความน่าเชื่อถือสูง

  • ผู้ใช้คุ้นเคยอยู่แล้วเพราะอยู่บนหน้า Google Search

  • เหมาะกับการค้นหาแบบรวดเร็ว ตรงประเด็น

H3 : 2. AI Mode

AI Mode คือระบบค้นหาด้วย AI ขั้นสูงของ Google ที่ใช้โมเดล AI อย่าง Gemini ในการประมวลผล เป็นฟีเจอร์ที่สามารถถาม-ตอบเป็นบทสนทนาได้คล้ายกับ ChatGPT หรือ Gemini และสามารถรับ Input ข้อมูลต่าง ๆ ได้หลากหลายรูปแบบทั้งข้อความ เสียง และภาพ เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับข้อมูลที่ตรงประเด็นและมีประโยชน์มากขึ้นอย่างรวดเร็ว

จุดเด่น

  • ตอบคำถามในรูปแบบบทสนทนา (Conversational Search)

  • ใช้เทคโนโลยีจาก OpenAI ช่วยให้เข้าใจบริบทได้ดี

  • แสดงแหล่งที่มา (citation) ของคำตอบชัดเจน

  • เชื่อมโยงกับเครื่องมือ Microsoft เช่น Word, Excel ได้ง่าย

  • เหมาะกับผู้ใช้งานทั่วไปและระดับองค์กร

H3 : 3. ChatGPT

อีกหนึ่งเครื่องมือ AI ที่หลาย ๆ คนน่าจะคุ้นเคยกันดีอย่าง ChatGPT พัฒนาโดยบริษัท OpenAI มีความสามารถในการสื่อสารและตอบคำถามด้วยภาษาธรรมชาติอย่างเป็นธรรมชาติและแม่นยำ โดยอาศัยโมเดลภาษาอัจฉริยะที่ชื่อว่า Generative Pre-trained Transformer (GPT) ซึ่งผ่านการฝึกฝนจากคลังข้อมูลขนาดใหญ่ระดับมหาศาล สามารถตอบคำถามทั่วไป แปลภาษา เขียนโค้ด หรือช่วยเหลืองานด้านต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จุดเด่น

  • ใช้โมเดล GPT จาก OpenAI ที่มีความสามารถรอบด้าน

  • เข้าใจคำถามซับซ้อนได้ดี ตอบได้เป็นธรรมชาติ

  • สร้างข้อความ แปลภาษา เขียนโค้ด และทำงานเชิงสร้างสรรค์ได้

  • เหมาะสำหรับทั้งการค้นหาข้อมูล และงานเฉพาะทาง

H3 : 4. Perplexity

Perplexity ถูกออกแบบมาเป็น “AI Search Engine” โดยเฉพาะ เน้นการให้คำตอบพร้อมแหล่งอ้างอิงจากหลายเว็บไซต์ มีโหมดค้นหาเชิงลึก สามารถคุยโต้ตอบได้เพื่อลงลึกในสิ่งที่ผู้ใช้งานต้องการจริงๆ จุดเด่นอีกอย่างคือ UI ที่เรียบง่าย ใช้งานง่าย และข้อมูลอัปเดตแบบเรียลไทม์ เหมาะกับคนที่ต้องการข้อมูลที่น่าเชื่อถือและตรวจสอบได้

จุดเด่น

  • เริ่มต้นถูกพัฒนาให้เป็น AI Search Engine โดยตรง ไม่ใช่แค่ AI Chatbot

  • ข้อมูลอัปเดตตลอดเวลา ใช้สำหรับค้นคว้าจริงจัง

  • เหมาะกับนักวิจัย นักเรียน นักการตลาด และผู้วิเคราะห์ข้อมูล

H3 : 5. Claude AI

Claude AI เป็น AI จากบริษัท Anthropic ที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในแวดวงนักพัฒนาและธุรกิจ จุดแข็งคือ “การใช้ภาษาที่เป็นธรรมชาติ” และให้ข้อมูลในการตอบคำถาม Claude จากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เหมาะกับการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก และกำลังถูกพัฒนาให้กลายเป็น AI Assistant เชิงกลยุทธ์ในองค์กร

จุดเด่น

  • ใช้ภาษาโต้ตอบได้อย่างเป็นธรรมชาติ และเข้าใจโครงสร้างภาษาที่ซับซ้อนได้อย่างดี

  • จัดการกับไฟล์หรือข้อความขนาดใหญ่ได้ดี (context ยาว)

  • เหมาะกับงานวิเคราะห์เชิงลึก หรือเอกสารเชิงกลยุทธ์

  • ได้รับความนิยมในแวดวงนักพัฒนาและหลายองค์กรใหญ่

Topic 06 : ติด AI Search แล้วได้อะไร? โอกาสใหม่ที่ SME ไม่ควรมองข้าม

การติด AI Search เป็นโอกาสใหม่สำหรับธุรกิจ SME เพราะ AI Search ไม่ได้เลือกเฉพาะแบรนด์ใหญ่หรือเว็บไซต์ที่มีงบโฆษณาหนัก ๆ แต่จะเลือกแหล่งข้อมูลที่ “ตอบตรงคำถาม มีคุณภาพ และเข้าใจง่าย” เพื่อสรุปให้ผู้ใช้เห็นทันที ซึ่งหมายความว่า ถ้าเว็บไซต์หรือคอนเทนต์ของคุณตอบโจทย์ได้จริง คุณก็มีสิทธิ์ถูกหยิบไปแสดงในคำตอบของ AI ได้ทันที

หลายคนอาจยังสงสัยว่า แล้วถ้าติด AI Search ได้จริง ธุรกิจจะได้อะไรกลับมา?

คำตอบคือ “ได้มากกว่าที่คิด” เพราะนี่คือการเปิดโอกาสให้แบรนด์ของคุณเข้าไปอยู่ในจังหวะที่ลูกค้ากำลังหาคำตอบอยู่พอดี และนั่นคือช่วงเวลาที่พลังของการตลาดทำงานได้ดีที่สุด

ผลลัพธ์จากการติด AI Search ที่ธุรกิจ SME ไม่ควรมองข้าม มีดังนี้

  • เพิ่มโอกาสให้ลูกค้าเจอแบรนด์ โดยไม่ต้องพึ่งโฆษณาแพง
    ลูกค้าเห็นแบรนด์จากคำตอบของ AI โดยตรง แม้ไม่ได้ซื้อ Ads

  • แข่งขันกับแบรนด์ใหญ่ได้แบบแฟร์ ๆ
    AI เลือกข้อมูลจากคุณภาพของคอนเทนต์ ไม่ใช่จากชื่อเสียงหรือขนาดธุรกิจ

  • เสริมความน่าเชื่อถือของแบรนด์
    เมื่อ AI เลือกอ้างอิงเนื้อหาของคุณ แบรนด์จะดูน่าเชื่อถือมากขึ้นในสายตาผู้ใช้งาน

  • เข้าถึงผู้ค้นหาทันทีในช่วงเวลาที่มีเจตนาซื้อ (High Intent)
    ตอบคำถามได้ถูกจังหวะ ช่วยเปลี่ยนคนค้นหาเป็นลูกค้าได้จริง

  • ลดการพึ่งพา SEO แบบเดิม
    ไม่ต้องแย่งอันดับหน้าแรกเสมอ เพราะ AI ดึงข้อมูลจากแหล่งที่มีคุณภาพ ไม่ใช่แค่ตำแหน่งในผลลัพธ์ 

  • ขยายช่องทางการมองเห็นแบรนด์ในยุคใหม่
    นอกจาก Google Search แบบเดิม ยังปรากฏใน AI Search, Chatbot, และระบบ AI Assistant ต่าง ๆ

เมื่อมองในภาพรวม นี่ไม่ใช่แค่โอกาสในการ “ถูกค้นพบ” เท่านั้น แต่คือโอกาสในการ “ถูกเลือกให้ตอบ” ซึ่งในยุคที่ AI กลายเป็นผู้แนะนำหลักของผู้บริโภค นี่อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่สุดของ SME ก็ได้

Topic 07 : ในยุค AI Search ธุรกิจ SME ต้องปรับตัวอย่างไร?



เมื่อพฤติกรรมผู้ใช้งานเริ่มเปลี่ยนไป คนทำธุรกิจ SME เองก็ต้องปรับกลยุทธ์และเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของเครื่องมือการตลาดสมัยใหม่อยู่เสมอ โดย 3 สิ่งที่ต้องเตรียมให้พร้อมในยุค AI Search มีดังนี้

H3 : 1. Technology

เทคโนโลยีมีการพัฒนาและอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา จากเดิมที่ผู้ใช้งานจะค้นหาข้อมูลต่าง ๆ จาก Google หรือ Search Engine โดยตรง ซึ่งทำให้ธุรกิจต่าง ๆ ต้องแข่งขันกันทำ SEO ให้เว็บไซต์ติดอันดับ เพื่อให้คนคลิกเข้ามาดู แต่วันนี้ พฤติกรรมผู้ใช้เปลี่ยนไป หลายคนเริ่มหันไปถาม AI มากขึ้น ดังนั้น ธุรกิจก็ต้องพัฒนาเช่นกัน

นั่นหมายความว่า การจะเข้าถึงลูกค้าในยุคนี้ ธุรกิจ SME ต้องไม่เพียงแค่ทำ SEO ให้ดี แต่ยังต้องทำให้เว็บไซต์ของตัวเอง “พร้อมสำหรับ AI” ด้วย

ดังนั้น การมีเว็บไซต์ที่พร้อมให้ AI อ่านและเข้าใจข้อมูลได้ จึงกลายเป็นพื้นฐานใหม่ของการตลาดในยุคนี้ เว็บไซต์ที่ “เข้าใจ AI” ย่อมถูก “AI เข้าใจและเลือกให้พูดแทนแบรนด์” ก่อนใคร


H3 : 2. People

User Behavior เปลี่ยนไปจากการค้นหาผ่าน Keyword จะกลายเป็น Super Long-Tail Keyword มากขึ้น เพราะคนเริ่มใช้ภาษาที่เป็นธรรมชาติขึ้น ยาวขึ้น และเฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น…

 “ขอสินเชื่อกับธนาคารไหนดี?”

 “มีคาเฟไหนบรรยากาศดี ๆ แถวลาดพร้าว ที่มีปลั๊กไฟให้นั่งทำงานบ้าง”

 “อยากลดพุงแต่ไม่อยากเข้าฟิตเนส ทำยังไงดี”

 “โน้ตบุ๊ครุ่นไหนเหมาะกับตัดต่อวิดีโอ 4K ที่ราคาไม่เกิน 50,000 บาท”

ดังนั้น ธุรกิจจึงไม่ควรโฟกัสแค่คำค้นหาทั่วไปหรือ Keyword กว้าง ๆ อีกต่อไป แต่ต้องเริ่มปรับกลยุทธ์การสร้างคอนเทนต์ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมใหม่นี้ ด้วยการเจาะลึกไปยังคำถามหรือปัญหาที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น เพื่อให้คอนเทนต์สามารถตอบโจทย์ได้แบบ “ตรงจุด ตรงใจ และตรงความต้องการ” ของผู้ค้นหา

นั่นหมายความว่า คอนเทนต์ของธุรกิจควรเริ่มต้นจาก “คำถามของลูกค้า” ไม่ใช่แค่ “สิ่งที่อยากเล่า” อีกต่อไป เพราะในยุคที่ AI เป็นผู้คัดคำตอบ แบรนด์ที่เข้าใจคำถามก่อน คือแบรนด์ที่ถูกเลือกให้ตอบก่อน

H3 : 3. Marketers Adapt

แทนที่จะมุ่งหวังเพียงแค่ติดอันดับ Google ด้วย SEO แบบเดิม นักการตลาดในยุค AI ต้องเริ่มคิดในมุมของ "AI-first Content" และต้องติดตามความเคลื่อนไหวของวงการเสิร์ชอย่างใกล้ชิด เพราะในปัจจุบันไม่ได้มีแค่ SEO เท่านั้น แต่ยังมี AEO, GEO และ SXO ให้ได้ศึกษาเพื่อหาโอกาสในการทำการตลาดนำหน้าคู่แข่งอยู่อีกเยอะ ใครที่ปรับตัวไว เข้าใจเกมใหม่ก่อน ย่อมมีโอกาสชนะใจผู้บริโภคก่อนใครเสมอ

Topic 08 : คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ AI Search

H3 : เครื่องมือ AI Search ที่ดีที่สุดคืออะไร?

ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ในการใช้งาน เพราะเครื่องมือ AI Search แต่ละตัวมีจุดเด่นต่างกัน เช่น บางตัวเหมาะกับการค้นหาข้อมูลเชิงลึก บางตัวเน้นความเร็วหรือความเป็นส่วนตัว บางตัวมีแหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือ ดังนั้นควรเลือกให้ตรงกับความต้องการของคุณ

H3 : คนหันมาใช้ AI Search แล้ว SEO ยังจำเป็นอยู่ไหม?

ยังจำเป็นอยู่ แต่ต้องปรับตัว เพราะ SEO แบบเดิมอาจไม่เพียงพอ ธุรกิจควรโฟกัสกับการสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ ตอบคำถามได้ตรงจุดและเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ เพราะ AI จะเลือกแสดงคำตอบที่ดีที่สุด ไม่ใช่แค่ลำดับในหน้าเว็บบน Search Engine อีกต่อไป

H3 : ธุรกิจไหนที่ควรทำการตลาดบน AI Search บ้าง?

แทบทุกธุรกิจ โดยเฉพาะ SME ที่ต้องการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้า AI Search ช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กแข่งขันในตลาดได้ง่ายขึ้น หากมีข้อมูลที่ตอบโจทย์และตรงกับความต้องการของผู้ค้นหา

Topic 09 : ก้าวสู่อนาคต AI Search: กลยุทธ์สำคัญที่ SME ต้องปรับเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

ข้อมูลเกี่ยวกับ AI Search ทั้งหมดนี้คือเกร็ดความรู้และกลยุทธ์ที่ได้รับคำแนะนำมาจาก NerdOptimize บริษัทรับทำ SEO, AEO แนวหน้าของเมืองไทย ที่ตอนนี้ได้เห็นความสำคัญและโอกาสเติบโตของทุกธุรกิจ โดยเฉพาะในกลุ่ม SME จึงเริ่มเดินหน้าให้บริการทำการตลาดบนแพลตฟอร์มการค้นหาของเครื่องมือ AI พร้อมแชร์ความรู้เกี่ยวกับการทำ SEO ยังไงให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานและติด AI Search เพื่อให้ธุรกิจ SME พร้อมปรับกลยุทธ์ ไม่หวังพึ่งพาเฉพาะการทำ SEO แบบเดิมเพียงอย่างเดียว แต่ต้องพัฒนาเว็บไซต์และคอนเทนต์ให้เหมาะกับการทำงานของ AI เพื่อให้ AI รู้จักและเลือกใช้ข้อมูลของธุรกิจในการตอบคำถามของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

สุดท้ายนี้ การเตรียมพร้อมสำหรับ AI Search ไม่ใช่แค่การปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยี แต่รวมถึงการเข้าใจพฤติกรรมผู้ใช้งานที่เปลี่ยนจากการเสิร์ชเป็นคำไปสู่การใช้ภาษาในการเสิร์ชที่เป็นธรรมชาติ และรูปแบบคำถามที่เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น ดังนั้น ธุรกิจ SME ที่เริ่มเรียนรู้เกม AI ตั้งแต่วันนี้ จะไม่เพียงแค่ตามทันเทคโนโลยี แต่จะกลายเป็น ‘ผู้นำเทรนด์’ ที่ AI เองยังต้องพูดถึง


Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

แบรนด์จะสื่อสารเรื่องราว ESG อย่างไร ให้คนจดจำและปัง

แบรนด์จะสื่อสารเรื่องราว ESG อย่างไร ให้คนจดจำและปัง

จากเป้าหมาย “ให้เกิดการจดจำ” สู่การสื่อสารที่ทำให้แบรนด์ไม่เพียงถูกเห็น แต่ “อยู่ในใจผู้บริโภคได้จริง”ในบทความก่อนหน้า เราพูดถึงกลไกทางสมองที่ทำให้ผู้บริโภคจดจำแบรนด์ที่ใส่ใจ…
pin
1 | 14/11/2025
AI Search คืออะไร? วิธีปรับคอนเทนต์ให้ AI เอาไปใช้ตอบลูกค้า

AI Search คืออะไร? วิธีปรับคอนเทนต์ให้ AI เอาไปใช้ตอบลูกค้า

ในปี 2025 การทำการตลาดบนหน้าเสิร์ชจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เมื่อผู้คนเริ่มเปลี่ยนจากการพิมพ์ “คีย์เวิร์ด” ไปสู่การถาม “คำถามเต็มรูปแบบ”…
pin
2 | 24/10/2025
Solo Economy เจาะตลาดคนโสด กลุ่มกำลังซื้อสูงที่ธุรกิจห้ามพลาด

Solo Economy เจาะตลาดคนโสด กลุ่มกำลังซื้อสูงที่ธุรกิจห้ามพลาด

ภาพจำของครอบครัวแบบเดิม ๆ กำลังเปลี่ยนไป เมื่อครัวเรือนที่อาศัยอยู่คนเดียว (Single Person Household) กลายเป็นกลุ่มที่เติบโตเร็วที่สุดในสังคมเมือง…
pin
2 | 23/10/2025
AI Search คืออะไร? วิธีปรับคอนเทนต์ให้ AI เอาไปใช้ตอบลูกค้า