“Super Lock” พลิกธุรกิจครอบครัวกว่า 30 ปี ด้วยพลังคนรุ่นใหม่และกลยุทธ์สร้างความยั่งยืน
ในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ในครัวเรือนที่มีการแข่งขันสูง “บริษัท เจ.ซี.พี. พลาสติก จำกัด” คือหนึ่งในแบรนด์ไทยที่สามารถยืนหยัดได้ยาวนานกว่า 30 ปี จากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ของคุณพ่อคุณแม่ที่เริ่มผลิตเครื่องใช้พลาสติกภายในบ้าน จนเติบโตเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์บรรจุภัณฑ์และกล่องถนอมอาหาร ภายใต้แบรนด์ Micronware และ Super Lock ที่คนไทยคุ้นเคยกันดี
จากความเชื่อของครอบครัวที่ว่า “ธุรกิจจะอยู่รอดได้ ต้องไม่หยุดพัฒนา” ทายาทรุ่นสองอย่างคุณสิวารี เจริญจิตมั่น จึงเข้ามาสานต่อด้วยการ Transform ธุรกิจในทุกมิติ ตั้งแต่การต่อยอดแนวคิดของคุณประกฤต ผู้บุกเบิกการติดต่อและนำเทคโนโลยี Microban จากสหรัฐฯ มาใช้กับกล่องอาหารเป็นรายแรกและรายเดียวของไทย การลงทุนพัฒนาเครื่องจักรอัตโนมัติและระบบบริหารจัดการ ERP บนคลาวด์ ไปจนถึงการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ให้ทันสมัยและตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ พร้อมวางแนวทางธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนด้วยสินค้าที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
การเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการสานต่อจากรุ่นสู่รุ่น แต่คือการ “ต่อยอดรากฐานเดิมด้วยวิสัยทัศน์ของคนรุ่นใหม่” ที่มุ่งยกระดับแบรนด์ไทยให้แข็งแกร่งและแข่งขันได้ในระดับสากล
จากกล่องอาหารธรรมดา สู่เทคโนโลยี Microban เจ้าแรกในไทย
หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ Super Lock เป็นที่รู้จักในวงกว้าง คือการนำเทคโนโลยี Microban จากสหรัฐฯ เข้ามาใช้กับกล่องอาหาร ซึ่งคุณพ่อของคุณสิวารีเป็นผู้บุกเบิกแนวคิดนี้ตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค
เทคโนโลยี Microban มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการเกิดแบคทีเรียและเชื้อรา โดยผสมเป็นเนื้อเดียวกับพลาสติกตั้งแต่กระบวนการผลิต จึงไม่เสื่อมคุณภาพแม้ผ่านการล้างหรือนำเข้าไมโครเวฟ ตอบโจทย์ทั้งความสะอาดและความปลอดภัยได้อย่างยั่งยืน
ต่อมาคุณสิวารีได้ต่อยอดแนวคิดของคุณพ่อ ด้วยการพัฒนาเรื่อง คุณภาพ การออกแบบ และมาตรฐานการผลิต ให้สูงขึ้น เพื่อให้สินค้าของ Super Lock สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ และคงคุณค่าความเป็นผู้นำนวัตกรรมกล่องถนอมอาหารของไทยไว้ได้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ Super Lock คือแบรนด์ไทยรายแรกและรายเดียวที่ได้รับสิทธิ์ใช้ Microban ในหมวดกล่องอาหาร ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของบริษัทในช่วงเวลานั้น คุณสิวารีเล่าย้อนถึงจุดเริ่มต้นไว้ว่า
“ยุคนั้นกล่องพลาสติกใส่อาหารยังไม่แพร่หลายในตลาด ส่วนใหญ่คนจะใช้ถุงพลาสติกมัดเข้าตู้เย็น แต่คุณพ่อมองว่าถ้าอยากให้สินค้าของเราต่างจากคนอื่น ก็ต้องลองทำสิ่งใหม่ ๆ ท่านจึงเป็นผู้ริเริ่มติดต่อเพื่อนำเทคโนโลยี Microban จากสหรัฐฯ มาใช้กับกล่องอาหารเป็นรายแรกของไทยค่ะ”
ความกล้าที่จะคิดต่างและลงทุนก่อนใครในครั้งนั้น ได้กลายเป็นก้าวสำคัญที่วางรากฐานให้ Super Lock ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดกล่องถนอมอาหารของไทยมาจนถึงปัจจุบัน
ปรับภาพลักษณ์ใหม่ เพื่อเป็นแบรนด์พลาสติกที่เข้าถึงไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค

ก่อนที่ชื่อ Super Lock จะเป็นที่จดจำในวงการเครื่องใช้ในครัวเรือน แบรนด์ต้นกำเนิดของบริษัทคือ Micronware ซึ่งเริ่มจากการผลิตเครื่องใช้พลาสติกภายในบ้าน เช่น ตะกร้า กล่องลิ้นชัก หรือกล่องเก็บของ โดยจะเน้นดีไซน์เรียบง่าย แข็งแรง และตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค
เมื่อก้าวเข้าสู่ยุคของทายาทรุ่นสอง เจ.ซี.พี. พลาสติก ได้ขยายสายการผลิตให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคมากขึ้น ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ภายใต้ 2 แบรนด์หลักของบริษัท ได้แก่
Micronware : ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้พลาสติกในบ้าน เช่น ตะกร้า กล่องเก็บของ และภาชนะอเนกประสงค์
Super Lock : กล่องถนอมอาหารที่เน้นนวัตกรรมฝาล็อกสุญญากาศ และการผสมสารยับยั้งแบคทีเรีย Microban
คุณสิวารีเล่าว่า แม้แต่ละแบรนด์จะมีจุดยืนต่างกัน แต่แบรนด์ที่ผู้บริโภคจดจำและมีการเติบโตสูงสุดคือ Super Lock จึงตัดสินใจปรับภาพลักษณ์องค์กรใหม่ (Rebrand) โดยนำ CI ของ Super Lock มาเป็น “หน้าตาหลักของบริษัท” เพื่อสร้างความเป็นเอกภาพด้านแบรนด์ และสะท้อนภาพองค์กรยุคใหม่ที่เน้นคุณภาพ ความปลอดภัย และความยั่งยืน
การเปลี่ยนผ่านในครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการปรับโลโก้หรือดีไซน์ แต่เป็นการยกระดับแบรนด์ไทยสู่มาตรฐานระดับสากล ผ่านการร่วมมือกับสตูดิโอออกแบบ Jacob Jensen Design จากเดนมาร์ก และทีมจาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) เพื่อสร้าง Brand Identity ที่สอดคล้องกับภาพลักษณ์ของผู้บริโภครุ่นใหม่ทั่วโลก

ตั้งแต่นั้นมา Super Lock จึงถูกรับรู้ในฐานะ Lifestyle Solution Provider แบรนด์ที่อยู่ในทุกช่วงชีวิตของผู้บริโภค ไม่ใช่แค่กล่องอาหารธรรมดา แต่เป็นสินค้าเพื่อการใช้ชีวิตที่ครบวงจร
นอกจากนี้ คุณสิวารียังต่อยอดสู่ อีกหนึ่งแบรนด์ในเครือ คือ Deemium ที่นำสินค้า Super Lock ไปออกแบบเป็นของขวัญและของชำร่วยสำหรับองค์กร เสริมช่องทางรายได้ B2B และยกระดับคุณค่าแบรนด์ไทยให้มีความพรีเมียมมากขึ้น
การปรับทิศทางธุรกิจในครั้งนี้ ไม่เพียงสะท้อนถึงการเปลี่ยนผ่านจากรุ่นสู่รุ่นเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่เข้าใจตลาดอย่างลึกซึ้ง จากแบรนด์ผู้ผลิตสินค้าพลาสติกในบ้าน สู่แบรนด์ที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตผู้บริโภคยุคใหม่อย่างแท้จริง

สร้างโอกาสการแข่งขันด้วยนวัตกรรมและทรัพย์สินทางปัญญา
ในโลกที่ธุรกิจต้องแข่งกับเวลาและเทคโนโลยี เจ.ซี.พี. พลาสติก คือหนึ่งในองค์กรไทยที่มองเห็นโอกาสจากการยกระดับกระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง
บริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมในทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การออกแบบ การเลือกวัสดุ ไปจนถึงระบบบริหารจัดการภายในโรงงาน เช่น
การคิดค้นระบบฝาล็อกสุญญากาศที่เป็นเอกลักษณ์ของ Super Lock
การออกแบบขวดน้ำดีไซน์เฉพาะ ที่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้และความสะดวกในชีวิตประจำวัน เช่น ฝาล็อกป้องกันการรั่วซึม วัสดุพลาสติกเกรดอาหาร BPA Free และรูปทรงที่จับถนัดมือ
การนำเทคโนโลยี Microban จากสหรัฐฯ มาใช้ เพื่อช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
การพัฒนาระบบ ERP บนคลาวด์ เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลทุกฝ่ายภายในองค์กรให้ทำงานสอดประสานกันอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ บริษัทได้ลงทุนในเครื่องจักรอัตโนมัติ (Robot Arm) เพื่อยกระดับกระบวนการผลิตให้รวดเร็ว ปลอดภัย และลดของเสียจากการผลิต ซึ่งไม่เพียงช่วยควบคุมคุณภาพสินค้าให้ได้มาตรฐานเดียวกันทุกชิ้น แต่ยังลดการใช้พลังงานและทรัพยากรในระยะยาว

ด้วยการให้ความสำคัญกับการ “สร้างและคุ้มครองนวัตกรรม” บริษัทจึงได้จดสิทธิบัตรและลิขสิทธิ์การออกแบบให้กับผลิตภัณฑ์หลักทุกชิ้น ไม่ว่าจะเป็นฝาล็อกสุญญากาศ ชิ้นส่วนกล่องอาหาร หรือขวดน้ำดีไซน์เฉพาะ
ความมุ่งมั่นดังกล่าวทำให้ เจ.ซี.พี. พลาสติก ได้รับรางวัล IP Champion Award เป็นเครื่องยืนยันถึงศักยภาพในการพัฒนาเทคโนโลยีขององค์กรไทยที่สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล
“นวัตกรรม” จึงไม่ใช่เพียงเครื่องมือในการผลิตของ เจ.ซี.พี. พลาสติก แต่เป็น “หัวใจของการเติบโต” ที่ช่วยให้บริษัทสร้างความแตกต่างอย่างยั่งยืนในตลาดโลก

ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยแนวคิดสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน
ปัจจุบันผู้บริโภคทั่วโลกให้ความสำคัญมากขึ้นกับสินค้าที่ “ปลอดภัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และใช้ซ้ำได้” คุณสิวารีมองว่าแนวโน้มนี้ไม่ใช่เพียงกระแสชั่วคราว แต่เป็นพฤติกรรมถาวรของคนรุ่นใหม่ ที่ตระหนักถึงผลกระทบต่อโลกและคุณภาพชีวิตของตนเอง
ด้วยความเข้าใจนี้ เจ.ซี.พี. พลาสติกจึงเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมเพื่อสนับสนุนการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ตั้งแต่การลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Single-use) การเลือกใช้เม็ดพลาสติกประหยัดพลังงาน และการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้นและปลอดภัยต่อผู้บริโภค
ในด้านสิ่งแวดล้อม บริษัทให้ความสำคัญกับการผลิตพลาสติกแบบใช้ซ้ำได้ (Reusable) ไม่ใช่แบบพลาสติกใช้ครั้งเดียว โดยของเสียจากการผลิตทั้งหมดจะถูกนำกลับมาบดรีไซเคิล เพื่อนำไปใช้ผลิตสินค้าที่ไม่สัมผัสอาหาร เช่น ที่เหยียบถังขยะ เพื่อลดการสูญเสียและสนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียน
แนวทางนี้ไม่เพียงช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังสอดคล้องกับเทรนด์การบริโภคของคนยุคใหม่ ที่ให้คุณค่ากับ “ความรับผิดชอบต่อสังคม” พอ ๆ กับ “คุณภาพของสินค้า” เจ.ซี.พี. พลาสติกจึงตั้งเป้าที่จะเป็นต้นแบบของธุรกิจไทยที่เติบโตไปพร้อมกับโลกอย่างยั่งยืน
เข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้งด้วยแนวคิด Customer-centric
Super Lock ยังยึดแนวคิด “ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง” โดยนำข้อมูลและพฤติกรรมการซื้อย้อนหลังมาวิเคราะห์ร่วมกับเทรนด์การใช้ชีวิตของผู้บริโภค เพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการจริงในแต่ละยุค
“สิ่งสำคัญคือเราต้องให้ความใส่ใจว่าลูกค้าสนใจอะไร เทรนด์เขากำลังไปทางไหน เพราะลูกค้าในวันนี้กับในอนาคตอาจไม่เหมือนกัน”

ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่า เบื้องหลังความสำเร็จของ Super Lock ไม่ได้เกิดจากเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากหัวใจของคนรุ่นใหม่ที่กล้าปรับเปลี่ยนและต่อยอดธุรกิจครอบครัวให้เติบโตอย่างยั่งยืนในยุคใหม่
“Super Lock อยากเป็นแบรนด์ที่อยู่ในทุกบ้าน เป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์คนทุกสมัย”
แนวคิดของคนรุ่นใหม่อย่างคุณสิวารีไม่ได้เพียงต่อยอดความสำเร็จจากรุ่นพ่อแม่ แต่ยังหลอมรวมคุณค่าดั้งเดิมเข้ากับแนวคิดสมัยใหม่อย่างลงตัว ผ่านการพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรมการผลิต การสร้างแบรนด์ และการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เพื่อให้ “Super Lock” ไม่เป็นเพียงแค่กล่องถนอมอาหารในบ้าน แต่คือแบรนด์ไทยที่อยู่ในใจผู้บริโภคทุกยุคทุกสมัย ด้วยการเติบโตไปพร้อมกับโลกอย่างยั่งยืน

