“บริษัท ซุปเปอร์แมน โฟม อินดัสตรี้ จำกัด” จากโรงงาน OEM สู่ผู้นำตลาดเฉพาะทาง ด้วยนวัตกรรม 3D Printing กลยุทธ์เชิงรุกและความมุ่งมั่นสู่ความยั่งยืนที่แท้จริง
สำหรับอุตสาหกรรมการผลิต ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความแม่นยำ และคงไม่มีลูกค้าคนใดอยากให้สินค้ามูลค่าสูงเสียหายเพียงเพราะ “บรรจุภัณฑ์ไม่พอดี” หรือ “วัสดุป้องกันไม่เหมาะสม”
ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือโจทย์ที่ไม่ง่าย และต้องการมากกว่าแค่การผลิตกล่องหรือแผ่นโฟมทั่วไป ซึ่ง “บริษัท ซุปเปอร์แมน โฟม อินดัสตรี้ จำกัด” สามารถทำหน้าที่นี้ได้อย่างแข็งแกร่งมายาวนานกว่า 20 ปี ในฐานะผู้อยู่เบื้องหลังอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ทั้งยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ และอื่น ๆ อีกมากมาย
บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกแนวคิดและกลยุทธ์เบื้องหลังความสำเร็จของซุปเปอร์แมน โฟม ว่าผู้บริหารรุ่นใหม่วางแผนธุรกิจอย่างไร เพื่อให้โรงงานไทยยังยืนหยัดได้ในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูง พร้อมถอดรหัสความสำเร็จของแบรนด์บรรจุภัณฑ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนอาจมองไม่เห็น แต่ก็ขาดไม่ได้สำหรับทุกธุรกิจ
รู้จักซุปเปอร์แมน โฟม ผู้เล่นตัวจริงใน Global Supply Chain
ซุปเปอร์แมน โฟม ก่อตั้งเมื่อปี 2547 เริ่มต้นจากการเป็นธุรกิจเทรดดิ้ง (Trading) ก่อนจะพัฒนาเข้าสู่อุตสาหกรรมการผลิตในรูปแบบ OEM (Original Equipment Manufacturer) โดยเป็นพาร์ตเนอร์กับแบรนด์รถยนต์และแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลก ซึ่งตอกย้ำถึงศักยภาพและความไว้วางใจที่ทางบริษัทได้รับในระดับนานาชาติ
ผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทประกอบไปด้วยโฟมกันกระแทก วัสดุซับเสียงในระยนต์ รวมถึงบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งล้วนต้องอาศัยความแม่นยำ คุณภาพ และมาตรฐานสูงสุด ด้วยความเชี่ยวชาญในระบบการผลิตและการควบคุมคุณภาพของสินค้า ทำให้สามารถก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในฟันเฟืองของ Global Supply Chain ได้อย่างมั่นคง
พลิกเกมสู่ตลาด B2C ด้วยความเข้าใจความต้องการเฉพาะด้านของผู้บริโภค
หนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญของซุปเปอร์แมน โฟม คือการขยายตลาดจากการเป็นธุรกิจแบบ B2B (Business-to-Business) มาสู่ B2C (Business-to-Customer) ด้วยการต่อยอดความเชี่ยวชาญเดิมมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เฉพาะทาง (Personalized Product) เช่น แขนขาเทียมสำหรับนักกีฬาและผู้พิการ โดยอาศัยเทคโนโลยี 3D Printing ซึ่งสามารถผลิตสินค้า Customized ได้แบบไม่มีขั้นต่ำ
การนำนวัตกรรม 3D Printing เข้ามาใช้ ทำให้บริษัทสามารถตอบโจทย์ “การผลิตจำนวนน้อยแบบไร้ข้อจำกัด” ซึ่งนับเป็นจุดแข็งที่คู่แข่งจำนวนมากยังตามไม่ทัน และนี่คือการมองเห็นโอกาสใน “Niche Market” ที่ช่วยขยายฐานรายได้จากลูกค้าเฉพาะกลุ่ม และยังสะท้อนถึงการที่ซุปเปอร์แมน โฟม มีความเข้าใจในพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการ “สินค้าเฉพาะตัว” มากกว่าสินค้า Mass ที่ผลิตแบบเหมือนกันหมด
เครื่องพิมพ์โลหะ 3 มิติ
เมื่อความยั่งยืนไม่ใช่แค่ภาพลักษณ์ แต่คือ “พันธกิจ” ที่ต้องบรรลุ
ในยุคที่ความยั่งยืน (Sustainability) กลายเป็นหัวใจหลักของการดำเนินธุรกิจ ซุปเปอร์แมน โฟม ไม่ได้ละเลยเทรนด์นี้ แต่เลือกที่จะปฏิบัติอย่างจริงจัง ทั้งในมิติของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้วัสดุที่สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ทดแทนการใช้โฟมแบบเดิม เช่น พลาสติกโปร่งแสง ความหนาแน่นต่ำ หรือ LDPE (Low-Density Polyethylene) (สัญลักษณ์รีไซเคิลหมายเลข 4) รวมถึงการได้รับการรับรองมาตรฐานต่าง ๆ อาทิ ISO 14001 ด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 9001 ด้านระบบคุณภาพ IATF 16949 ด้านระบบการจัดการคุณภาพในอุตสาหกรรมยานยนต์
ในขณะที่หลายธุรกิจยังอยู่ระหว่างการปรับตัว ซุปเปอร์แมน โฟม กลับเลือกลงมือทำทันที เพราะเข้าใจดีว่าการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมไม่สามารถรอได้ การมีโครงสร้างรองรับด้านความยั่งยืนตั้งแต่วันนี้ คือการเตรียมความพร้อมเพื่อแข่งขันในตลาดโลกอย่างแท้จริง
“เราไม่รอ เพราะถ้าถึงวันที่ลูกค้าเรียกร้องเงื่อนไขด้านความยั่งยืนเหล่านี้ แล้วโรงงานของเรายังไม่มีความพร้อม มันก็อาจจะสายเกินไป” “คุณสรพัชย์ อารีอาสนธรรม” ประธานกรรมการ บริษัท ซุปเปอร์แมน โฟม จำกัด กล่าว
ในสายตาของลูกค้า โดยเฉพาะแบรนด์ระดับโลกที่มีมาตรฐานสูง พวกเขาไม่อาจรอซัพพลายเออร์ที่ยังไม่พร้อม เพราะห่วงโซ่อุปทานของพวกเขาต้องเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา นั่นคือเหตุผลว่าทำไม ซุปเปอร์แมน โฟม จึงเริ่มวางระบบและลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านความยั่งยืนตั้งแต่เนิ่น ๆ แม้ว่ารัฐบาลหรือกฎหมายจะยังไม่ได้กดดันโดยตรง
“เขาให้เวลาเรา 5 ปี หมายถึงว่า สากลโลกมองว่าภายในปี 2573 เราต้องมีโครงสร้างให้เห็นชัดแล้วว่า บริษัทมีระบบด้านความยั่งยืนจริง ไม่ใช่แค่พูด แต่เราจะไม่รอจนถึงตอนนั้น เพราะรู้ว่าจะไม่ทัน”
ซุปเปอร์แมน โฟม จึงเริ่มต้นติดตั้งระบบแผงโซลาร์เซลล์ รองรับการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาด โดยปัจจุบันได้ติดตั้งไปแล้วราว 200–300 เมกะวัตต์ และยังมีพื้นที่รองรับการขยายต่อในอนาคต สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่แค่การลงทุนทางกายภาพ แต่คือการลงทุนในความเชื่อมั่นของลูกค้า เพื่อให้สามารถยืนหยัดในตลาดอุตสาหกรรมได้ในระยะยาว เป็นมุมคิดที่แสดงถึงวิสัยทัศน์แบบ Proactive Strategy ที่ไม่รอให้การเปลี่ยนแปลงมาถึง แต่เลือกจะ “ขับเคลื่อนตัวเองก่อน” เพื่อให้มีความพร้อมมากกว่าคู่แข่งเมื่อวันนั้นมาถึง
รูปเครื่องพิมพ์ไนลอน PA12
ชวนวิเคราะห์เบื้องหลังการเติบโตของซุปเปอร์แมน โฟม
การเปลี่ยนโฉมบริษัทจาก OEM สู่ B2C โดยไม่ทิ้งจุดแข็งเดิม
แม้บริษัทจะเติบโตจากรากฐานของการเป็นโรงงาน OEM ที่รับผลิตตามออร์เดอร์จากลูกค้าอุตสาหกรรมใหญ่ แต่สิ่งที่สะท้อนวิสัยทัศน์ของคุณสรพัชย์ คือ การมองเห็นโอกาสในตลาดปลายทาง (B2C) ที่มี Pain Point แตกต่างกันออกไป โดยไม่เพียงแต่ยึดติดกับความถนัดเดิม แต่ยังใช้ Core Competency ที่มีอยู่ เช่น ความเข้าใจวัสดุ ความสามารถในการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้พอดีในทุกมิติ (Custom Fit) และความแม่นยำในการผลิต มาต่อยอดเพื่อสร้างสินค้าใหม่ เช่น แผนรองเท้าเพื่อสุขภาพ หรืออุปกรณ์ช่วยเหลือสำหรับผู้พิการ ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคโดยตรงมากขึ้น
ความเข้าใจตลาดเฉพาะทาง (Niche Market) อย่างลึกซึ้งและจริงใจ
ซุปเปอร์แมน โฟม ไม่ได้เดินเกมแบบหว่านแหในตลาด B2C แต่เลือกเจาะกลุ่มตลาดเฉพาะ (Niche Market) ที่ต้องการความ Personalized สูง เช่น ผู้พิการ หรือแม้แต่ผู้สูงวัยที่มีปัญหาในการเคลื่อนไหว โดยสิ่งที่ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จในกลุ่มนี้ คือ ความเข้าใจฟังก์ชันที่แท้จริงของผลิตภัณฑ์ว่าต้องช่วยอะไรได้บ้าง สะท้อนถึงความเป็นแบรนด์ที่คิดอย่างมีกลยุทธ์ก่อนลงมือทำ
การยึดหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainability) เพื่อเสริมความน่าเชื่อถือในระยะยาว
แม้ธุรกิจจะอยู่ในอุตสาหกรรมพลาสติกและโฟม ซึ่งมักถูกตั้งคำถามด้านสิ่งแวดล้อม แต่คุณสรพัชย์ก็เลือกที่จะไม่หลีกเลี่ยงประเด็นนี้ ตรงกันข้าม กลับหาทางสร้างสมดุล เช่น การเลือกใช้วัสดุรีไซเคิลให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ นอกจากนี้ ยังมีแนวทางการทำงานที่สอดคล้องกับแนวคิดความยั่งยืน เพื่อวางตำแหน่งให้บริษัทเป็นพาร์ตเนอร์ที่น่าเชื่อถือสำหรับลูกค้าองค์กรที่ต้องการสร้างธุรกิจสีเขียวในระยะยาว
การพัฒนาคนควบคู่เทคโนโลยี
เมื่อองค์กรเติบโตและมีการลงทุนในเครื่องจักรใหม่เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต สิ่งที่คุณสรพัชย์ไม่ลืม คือ การยกระดับแรงงานไปพร้อมกัน ทั้งในเชิงทักษะ ความเข้าใจระบบ และวิธีคิดเชิงคุณภาพ ทำให้บริษัทมีทีมงานที่ปรับตัวเก่ง มีความยืดหยุ่น และสามารถสร้างนวัตกรรมได้จากหน้างานจริง
พร้อมขยายผ่าน Online Channel ตอบรับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่
แม้จะเป็นโรงงานผลิตที่ดูห่างไกลจากโลกออนไลน์ แต่ซุปเปอร์แมน โฟม กลับมองเห็นความเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรมของลูกค้า B2C ที่เริ่มหาข้อมูลและสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ บริษัทจึงเริ่มวางแผนเพื่อก้าวเข้าสู่แพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อสื่อสารกับลูกค้าในทุกจุดสัมผัส (Touchpoint) อย่างเป็นระบบ ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงผู้บริโภคใหม่ได้ ในต้นทุนต่ำและมีประสิทธิภาพสูง
“เราเลือกจะไม่ผูกอนาคตไว้กับตลาดเพียงกลุ่มเดียว แต่ใช้กลยุทธ์กระจายความเสี่ยง
เพราะเมื่อหนึ่งกลุ่มชะลอตัว อีกกลุ่มอาจกลายเป็นโอกาสใหม่”
ในโลกธุรกิจที่การแข่งขันรุนแรงและทุกการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วเกินคาด การรอให้สิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นแล้วค่อยปรับตัว อาจไม่ทันเวลาอีกต่อไป บริษัท ซุปเปอร์แมน โฟม อินดัสตรี้ จำกัด แสดงให้เห็นว่าอนาคตของธุรกิจไม่ใช่สิ่งที่รออยู่ข้างหน้า แต่คือสิ่งที่เราสามารถลงมือทำได้เลยตั้งแต่วันนี้ ด้วยกลยุทธ์เชิงรุก นวัตกรรมที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค และความกล้าลงทุนในเรื่องความยั่งยืน ทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่ทำให้บริษัทไม่ได้เป็นเพียงผู้ผลิตโฟมหรือบรรจุภัณฑ์ทั่วไป แต่คือแบรนด์ที่พร้อมเติบโตในทุกบริบทของโลกอุตสาหกรรมยุคใหม่อย่างแท้จริง