รัฐบาลไต้หวันจัดตั้ง Innovative
Regulatory Sandbox หรือที่เรียกว่า
SME sandbox ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา
โดยเน้นการเชื่อมโยงกันระหว่างกลุ่มธุรกิจเดิม ธุรกิจใหม่ ผู้บริโภค
และที่ปรึกษาด้านกฎหมาย เพื่อผลักดันการเติบโตของการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) และเศรษฐกิจดิจิทัล
(Digital Economy) ภายในประเทศ
เนื่องจากหลายครั้งการพัฒนาด้านนวัตกรรมมีข้อจํากัดด้านกฎหมายเป็นอุปสรรค เช่น
ความไม่สอดคล้องกับกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบัน หรือการบังคับใช้ที่คลุมเครือ
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลค์ Facebook bangkokbanksme
ขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการมีดังนี้
-เสนอไอเดียกรอกแบบฟอร์มการสมัครและเขียนข้อเสนอโครงการด้านนวัตกรรม
จากนั้นรอการติดต่อกลับจากเจ้าหน้าที่เพื่อยืนยัน
-ประเมินไอเดียหลังจากการยืนยันการส่งเอกสารครบถ้วนแล้ว
ผู้เชี่ยวชาญและคณะที่ปรึกษาจะทําการประเมินและตัดสินข้อเสนอโครงการ
-ปรับแต่งโครงการทดลองหากข้อเสนอการทดสอบโครงการผ่านการประเมินผล
เจ้าหน้าที่ โครงการจะช่วยขัดเกลา แก้ไขข้อเสนอโครงการ และให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม
เพื่อให้ข้อเสนอโครงการนั้น มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น
-สื่อสารและประสานงานหลังจากสรุปข้อเสนอโครงการเสร็จสิ้น
คณะทํางานจะนัดประชุมและ ประสานงานข้ามหน่วยงานเพื่อให้บรรลุมติของการเริ่มต้นการทดลองระหว่างหน่วยงาน
-เริ่มการทดลองระหว่างการดําเนินงาน
บริษัทจะต้องเขียนรายงาน 3 รูปแบบ ได้แก่ รายงาน เรื่องความเสี่ยง
รายงานความคืบหน้า และรายงานเกี่ยวกับรายละเอียดเพื่อตีพิมพ์ต่อสาธารณะ
-ประเมินผลลัพธ์และข้อเสนอแนะหลังการทดสอบเสร็จสิ้น ให้รายงานผลลัพธ์ของการทดลอง เพื่อใช้เป็นหลักฐานให้กับหน่วยงานที่กํากับดูแลการสร้างหรือการแก้ไขกฏเกณฑ์ด้านนวัตกรรม
โดยตัวอย่างแนวทางการทดลองในปัจจุบัน
ได้แก่ การพัฒนาเทคโนโลยีด้านการเงินหรือ Fintech เช่น
การโอนเงินข้ามพรมแดนด้วยเทคโนโลยี blockchain
แพลตฟอร์มการให้กู้ยืมออนไลน์ ประกันภัยออนไลน์ และแพลตฟอร์ม cryptocurrency เป็นต้น
ทั้งนี้บริษัทแรกที่ได้รับการอนุมัติจากการทดลองจาก
sandbox คือ ธนาคาร KGI และ บริษัท Chunghwa
Telecom โดยร่วมกันพัฒนา Fintech Space อย่าง “KGI inside” หรือ
แอปพลิเคชันบริการทางการเงินแบบ Open Banking ซึ่งเป็นการให้บริการอนุมัติสินเชื่อดิจิทัลที่สามารถลดขั้นตอนการสมัครจากเดิม
53 ขั้นตอน เหลือเพียง 20 ขั้นตอน อนุมัติวงเงินได้สูงสุดถึง 200
ล้านดอลลาร์ไต้หวัน หรือประมาณ 200 ล้านบาท
อ้างอิง : สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย