ทักษะที่ผู้ประกอบการ SMEs อยากให้พนักงานทุกมีติดตัว

บริษัทใหญ่ๆ อาจดูน่าดึงดูดใจเพราะมีเงินเดือนดี ออฟฟิศสวย แต่หากคำนึงถึงการเติบโตทางอาชีพการงานและการพัฒนาศักยภาพส่วนบุคคลแล้ว บริษัท SMEs ถือว่ามีบทบาทมากทั้งในด้านโอกาสในงาน และความก้าวหน้าในหน้าที่  การทำงานในธุรกิจขนาดเล็ก ถือเป็นโอกาสที่ไม่ธรรมดาด้านอาชีพการงาน เพราะสามารถผลักดันผลงานหรือแสดงฝีมือ ให้เข้าตาผู้บริหารระดับสูงได้อย่างไม่ยากนัก ทั้งยังเป็นเวทีอย่างดีในการฝึก ทักษะการทำงาน เพราะบริษัทใหญ่ๆ มักมีโครงสร้างที่ซับซ้อน ขณะที่ SMEs มีโครงสร้างที่เรียบง่ายและนโยบายการทำงานที่ยืดหยุ่น พนักงานจึงต้องมีความสามารถในการปรับตัวและยืดหยุ่น ทั้งยังต้องรับมือกับการเปลี่ยนแปลงภายในอุตสาหกรรมได้อย่างรวดเร็ว

SMEs จำนวนมากยังทำธุรกิจสำหรับตลาด Niche ดังนั้นการทำงานกับ SMEs จึงเป็นการเรียนรู้และทำความเข้าใจกับตลาด Niche ไปในตัว

เมื่อการทำงานกับ SMEs มีเสน่ห์มากขนาดนี้ มาดูกันว่าสิ่งที่ผู้ประกอบการ SMEs มองหาในตัวพนักงานนั้นมีอะไรบ้าง  โดยทักษะที่กำลังจะพูดถึงนี้ บางทักษะอาจดูเหมือนน่าจะติดตัวมาพร้อมกับคนทำงานทันทีที่เข้าสู่ตลาดแรงงาน แต่จริงๆ ไม่ใช่เช่นนั้น และการขาดแคลนทักษะเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบไปถึงประสิทธิภาพการดำเนินงานของบริษัทได้

1.บริหารเวลา  เวลาเป็นเงินเป็นทอง ดังนั้นการบริหารเวลาจะเป็นตัวช่วยที่ดีในการผลิตผลงานออกมาอย่างมีประสิทธิภาพ  ทั้งยังเปิดโอกาสให้มีเวลาพอทำกิจกรรมต่างๆ ที่ติด “โรคเลื่อน” มานานด้วยข้ออ้างว่า “ไม่มีเวลา” ผู้ที่รู้จักบริหารเวลาจะโดดเด่นอย่างมากจากเพื่อนร่วมงานคนอื่น ทั้งยังส่งผลดีต่อหน้าที่การงานและชีวิตส่วนตัวด้วย

ผลดีต่อตัวบุคคล ผลิตผลงานออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมเจ้านายยังมองว่ารู้จักรับมือกับแรงกดดันในการทำงาน นอกจากนั้น ยังสามารถทำงานสำคัญๆ ได้เสร็จตามเวลาด้วยความถูกต้อง  พอทำงานเสร็จตามเวลาแล้ว ก็สามารถไปเอนจอยกับกิจกรรมอื่นนอกเวลางานได้

ผลดีต่อองค์กร พนักงานที่บริหารเวลาได้ดีถือว่ามีค่าสำหรับองค์กร เพราะมั่นใจได้ว่างานสำคัญๆ จะเสร็จตามเวลา ไม่มีล่าช้าสำหรับลูกค้า หรือทำให้เพื่อนร่วมทีมต้องคอยรอ

2.ผลิตงานคุณภาพสูง  นิยามเกี่ยวกับคุณภาพของงานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละองค์กร แต่หากทราบกลุ่มเป้าหมายและการคาดหมายของกลุ่มคนเหล่านี้ ก็จะช่วยให้ผลิตงานได้ออกมาอย่างมีคุณภาพ

ผลดีต่อตัวบุคคล การมีผลงานคุณภาพสูงเป็นสิ่งที่สร้างความภูมิใจแก่พนักงาน ยิ่งถ้าสามารถผลิตงานคุณภาพสูงออกมาได้อย่างสม่ำเสมอ จะทำให้เจ้านายเห็นว่าเป็นพนักงานที่ควรเก็บไว้ในองค์กร และอาจตบรางวัลอย่างโบนัส หรือเลื่อนตำแหน่งให้ หากภายภาคหน้า พนักงานอยากขยับขยายหรือหาประสบการณ์ใหม่ๆ ด้วยการย้ายบริษัท การฝากผลงานดีๆ ไว้ นับว่าเอื้ออย่างยิ่ง เพราะสามารถระบุในพอร์ทการทำงานไว้ได้อย่างภูมิใจ

ผลดีต่อองค์กร ทุกองค์กรย่อมต้องการให้พนักงานผลิตงานที่ดีที่สุด เพราะงานคุณภาพสูงคือสิ่งที่เสริมสร้างแบรนด์และชื่อเสียงของบริษัทในตลาด อีกทั้งยังลดต้นทุนในการแก้ไขสินค้าให้อยู่ในระดับต่ำมาก

3.โน้มน้าวตัวเองและทีมงาน  มนุษย์ล้วนมีศักยภาพและความสามารถ แต่สิ่งที่ทำให้แตกต่างกันคือวิธีโน้มน้าวใจตัวเองให้ลงมือสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเพื่อตัวเอง เพื่อเจ้านาย หรือเพื่อลูกค้า นอกจากนั้น ในการทำงานเป็นทีม การสามารถโน้มน้าวให้ลูกทีมทุกคนทำงานเพื่อไปสู่เป้าหมาย ถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้บรรยากาศเป็นไปในแง่บวกและมีความกระตือรือร้นในการทำงาน

ผลดีต่อตัวบุคคล การโน้มน้าวตัวเองไม่เพียงช่วยให้กระตือรือร้นจนสามารถผลิตงานออกมาได้ในแง่ปริมาณ และบรรลุถึงเป้าหมายเท่านั้น แต่ยังทำให้รู้สึกมีความสุขอีกด้วย

ผลดีต่อองค์กร พนักงานที่มีแรงจูงใจในการทำงานจะเป็นผลดีแก่องค์กร เพราะจะมุ่งมั่นสร้างผลงานที่เลิศและพยายามไปให้ถึงเป้าหมายที่วางไว้ ในทางตรงกันข้าม ถ้าพนักงานไม่มีแรงจูงใจ จะทำให้ทุกอย่างไปได้ช้าลง และจะเป็นเรื่องท้าทายมากในการผลักดันพนักงานให้ทำงานไปสู่เป้าหมายร่วมกัน

4.มีนิสัยหัวหน้างาน  หากหัวหน้างานรู้จักวิธีเข้าหาลูกทีม จะทำให้การมีส่วนร่วมของทีมเพิ่มขึ้นและนำไปสู่ผลงานที่ดีขึ้น

ผลดีต่อตัวบุคคล หัวหน้างานจำนวนมากมีความฝันที่จะพาทีมไปสู่ความสำเร็จ แต่ดูเหมือนไม่สามารถคุมทีมให้ไปในทิศทางเดียวกันได้ ดังนั้นการทราบวิธีเข้าถึงลูกทีมและพูดคุยให้แน่ใจว่าทุกคนทำงานไปสู่เป้าหมายเดียวกัน จะทำให้เป็นทีมงานที่มีประสิทธิภาพและสร้างผลงานออกมาได้ อันจะทำให้หัวหน้างานถูกมองว่ามีความสามารถไปด้วย

ผลดีต่อองค์กร การมีหัวหน้างานที่ทราบวิธีขับเคลื่อนทีมงานไปข้างหน้าจนบรรลุเป้าหมาย หมายถึงความสำเร็จขององค์กร ขณะเดียวกันก็สะท้อนถึงการมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ของพนักงาน

5.รับมือลูกค้าจุกจิก  สิ่งหนึ่งที่ท้าทายสำหรับแทบทุกธุรกิจ คือการรับมือกับลูกค้าที่จุกจิก ซึ่งกว่าจะปิดดีลได้ก็อาจต้องแก้ไขแล้วแก้ไขอีก ดังนั้นหากทราบวิธีรับมือความเห็นต่างจากลูกค้าและพลิกสถานการณ์กลับมาได้ ก็สามารถทำให้การพูดคุยกับลูกค้าประสบความสำเร็จ

ผลดีต่อตัวบุคคล การทราบวิธีรับมือกับสถานการณ์ยากลำบากหรือกดดันเมื่อต้องเจอลูกค้าที่จุกจิก จะทำให้พนักงานไม่ลนลาน และสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างดี ทั้งยังจะถูกมองว่าสามารถรับมือกับสถานการณ์ท้าทายได้ และเป็นบุคลากรที่มีค่าต่อองค์กร

ผลดีต่อองค์กร การมีพนักงานที่ทราบวิธีรับมือกับสถานการณ์ยากลำบากโดยยังรักษาท่าทีสุภาพ เข้าอกเข้าใจ และความเป็นมืออาชีพไว้ได้ จะทำให้การบริการลูกค้าขององค์กรและแบรนด์โดดเด่นมาก ทั้งยังสามารถเพิ่มมูลค่าในตลาดด้วย

อย่างที่กล่าวในข้างต้น 5 ทักษะที่กล่าวมาทั้งหมดเหมือนจะต้องมีติดตัวมากับการเริ่มเข้าทำงาน แต่ก็อย่างที่ท่านทราบดีว่า มันไม่ใช่แบบนั้นเสมอไป แต่ทักษะเหล่านี้สามารถฝึกฝนได้และเรียนรู้ได้ไม่สิ้นสุด พนักงานที่มีทักษะเหล่านี้ย่อมเป็นที่ต้องการของทุกองค์กร ไม่เพียงเฉพาะ SMEs