SMEs จะทำตลาดออนไลน์อย่างไรในช่วงวิกฤติโควิด 19

SME Update
21/09/2020
รับชมแล้วทั้งหมด 2475 คน
SMEs จะทำตลาดออนไลน์อย่างไรในช่วงวิกฤติโควิด 19
banner

การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ยังสะเทือนเศรษฐกิจไทย อันเป็นเหตุให้เกิดการชะลอการใช้จ่ายในภาคส่วนของประชน ผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อน้อยจะยังคงไม่สามารถใช้จ่ายเงินได้ ส่วนผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อปานกลางจะเน้นเก็บเงินไว้เพราะความไม่แน่ใจในรายรับของตนเอง ยังมีแต่ผู้บริโภคในตลาดบนเท่านั้นที่ยังคงเคลื่อนไหวใช้จ่ายเงินได้ตามปกติจากสถานการณ์ด้านการเงินที่ดีอยู่แล้ว ประกอบกับการที่ไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศเพื่อการท่องเที่ยวตามปกติได้ ทำให้สามารถใช้จ่ายเงินได้จากงบประมาณในส่วนของการท่องเที่ยวประจำปีที่ยังคงเหลืออยู่ 

แต่โดยภาพรวมแล้วผู้คนทุกระดับต่างเริ่มเก็บเงินมากขึ้น และมีความกล้าในการจับจ่ายใช้สอยลดลง ดังนั้นกระแสเงินสดที่จะไหลไปถึงผู้ประกอบการจึงลดลงตามไปด้วย ส่งผลให้หลายกิจการไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ ไปจนถึงจำเป็นต้องหยุดพักดำเนินกิจการเพื่อรอให้สถานการณ์ดีขึ้น หรือจนกว่าการท่องเที่ยวจะกลับมาเป็นปกติอีกครั้งหนึ่ง เศรษฐกิจไทยจึงจะเคลื่อนไหวไปในทางบวก

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

หากแต่การหยุดการเคลื่อนไหวทางกิจกรรมการตลาดไปเลยกลับจะเป็นผลเสียต่อผู้ประกอบการเอง เพราะการชะลอทุกกิจกรรมลงไปนานเกินไปอาจเสียพื้นที่ทางการตลาดให้แก่คู่แข่งได้ ดังนั้นเมื่อตลาดปกติยังคงไม่กลับมาและพื้นที่ออนไลน์คือเวทีแข่งขันเวทีเดียวที่สามารถดำเนินการได้ดีในขณะนี้ ก็ควรต้องเร่งหากลยุทธ์สู้คู่แข่งที่อยู่ในตลาดออนไลน์ให้ได้ โดยคำแนะนำทางเทคนิคเพื่อแย่งพื้นที่ส่วนแบ่งการตลาดออนไลน์ ดังนี้

1. พิจารณาสินค้าและบริการที่ทำว่า Demand เป็นอย่างไร โดยสถานการณ์ทางการเงินส่วนตัวแล้วกลับพบว่า ผู้บริโภคในตลาดขณะนี้มี Demand อยู่ 4 ประเภทด้วยกัน ได้แก่

- Demand ไม่มีและไม่มีความพร้อมในการซื้อ : เป็นธุรกิจด้านการท่องเที่ยว การโรงแรมและงานบริการทีเกี่ยวพัน ผู้บริโภคจะยังคงขาดความเชื่อมั่นในการใช้จ่ายเงินเพื่อสินค้าและบริการในกลุ่มนี้ ผู้ประกอบการที่อยู่ในกลุ่มนี้ควรถือเงินสดไว้ในมือ และไม่ควรเทเงินลงทุนไปเพื่อกิจกรรมที่ไม่ทำให้เกิดมูลค่าหรือรายได้กลับมา ตราบใดที่ Demand ยังไม่มีความพร้อมที่จะซื้อ ควรไปลงทุนทำสิ่งที่ให้ผลลัพธ์ในระยะยาวที่ไม่ต้องเสียงบประมาณมาก เช่น การดัน SEO ต่อไปเพื่อไม่ให้ลำดับตกลงไป จากการขาดความเคลื่อนไหวในช่วงชะลอหรือหยุดพักกิจการ ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการสามารถทำได้ด้วยตนเอง ในระหว่างพักงานลูกจ้าง

- Demand พอมีแต่ยังไม่กล้าใช้จ่ายเงิน : เป็นธุรกิจสินค้าด้านของฟุ่มเฟือย ความสวยความงาม สินค้าตามแฟชั่นต่างๆ ที่สามารถกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภคได้ทุกสถานการณ์ แม้แต่ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจชะงักอย่างในขณะนี้ เพราะทุกคนมีความต้องการเป็นตัวกระตุ้นและขับเคลื่อนให้อยากเข้าหาสินค้าและบริการเหล่านี้อยู่ตลอดเวลา ผู้ประกอบการควรพิจารณากระตุ้นความต้องการผ่าน Content ที่ให้ประโยชน์ และเสริมคุณค่าให้แก่สินค้าบริการ กระตุ้นความต้องการอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ผู้บริโภคกลุ่มนี้กล้าใช้จ่าย รวมถึงการซื้อโฆษณาบนสื่อ

- Demand มีตามปกติแต่พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป : กลุ่มนี้จะเป็นสินค้าหรือบริการที่ผู้บริโภคจำเป็นต้องใช้ตามปกติ เช่น ธุรกิจร้านอาหาร ร้านตัดผม การบริการงานช่างต่าง ๆ เป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้บริโภคไม่สามารถเลี่ยงไม่ให้เกิดการใช้จ่ายขึ้นได้ เพราะเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องเรียกใช้บริการ หากแต่จะมีเงื่อนไขในการเรียกใช้บริการที่เปลี่ยนไป เช่น มีความไตร่ตรองอย่างละเอียดรอบครอบ เปรียบเทียบหลายด้านหลายรายที่ให้บริการแบบเดียวกัน เช่น มีความต้องการทานปิ้ง-ย่าง แต่ไม่อยากไปทานที่ร้านที่แออัด จึงสั่งมาทานที่บ้าน หรือท่อประปารั่วซึม ก็ต้องการช่างฝีมือดีมีให้บริการดี ทั้งคำปรึกษาก่อนตกลงว่าจ้าง การทำงานที่ดีระหว่างการจ้างและการดูแลให้บริการหลังส่งมอบงาน เป็นต้น ดังนั้นในกลุ่มธุรกิจประเภทนี้สามารถเรียกลูกค้าจากฐานออนไลน์ได้ ด้วยการโปรโมท Option เสริมเพิ่มเติมหลังการขายหรือให้บริการ พร้อมมีรีวิวแนบในโปรไฟล์งานให้ลูกค้าใช้ประกอบการตัดสินใจ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อได้ทันที

- Demand มีสูงและผู้บริโภคมีความพร้อมที่จะซื้อ : เป็นกลุ่มสินค้าและบริการที่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เช่น เครื่องมือวัดไข้ ตรวจอุณหภูมิ เครื่องจ่ายแอลกอฮอล์อัตโนมัติ หน้ากากอนามัย บริการพ่นฆ่าเชื้อ อาหารกึ่งสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง บริการเดลิเวอร์รี เป็นสินค้าและบริการที่มาพร้อมกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ทำให้ผู้บริโภคต้องปรับตัว

ฉะนั้นผู้ประกอบการควรเข้าให้ถึงทุกแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงง่าย โดยอาจใช้เนื้อหาบนหน้าเว็บไซต์ ทำ Sale Page ให้น่าสนใจ และทำการตลาดด้วย Google Ads หรือโฆษณาผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย เนื่องจากผู้คนส่วนใหญ่จะใช้เวลากับการออนไลน์มากขึ้น อัตราการสืบค้นและการเข้าถึงของผู้คนที่มีความต้องการสินค้าเหล่านี้อยู่แล้ว มีการปรับตัวสูงขึ้นมาก โดยควรทำ Remarketing ตอกย้ำความสนใจไปยังกลุ่ม Audiences เป้าหมาย ที่อาจเคยเป็นลูกค้าของเก่า หรือเคยมี Action ในเว็บไซต์หรือเพจมาก่อนควบคู่ไปด้วย

2. ดัน SEO ต่อไป หลายข้อมูลกว่าพันล้านชนิดบน www จำเป็นต้องพึ่งพาพลังของ SEO ดังนั้นการจะมองข้ามไม่กล่าวถึงเรื่อง SEO หรือละเลยที่จะไม่ทำอะไรเลยคงเป็นไปได้ยาก เพราะนี่คือการทำตลาดที่มีต้นทุนต่ำสุดบนออนไลน์ แต่อยู่ได้นาน แค่ต้องทำเป็นประจำสม่ำเสมอ แม้แต่ในจังหวะที่เศรษฐกิจโลกสะดุด เศรษฐกิจประเทศหยุดชะงัก ที่ทำให้มีหลายธุรกิจปิดตัวเองหรือหยุดทำชั่วคราวลงไปด้วย เพื่อประครองลำดับไว้ไม่ให้ตกและอาจทำให้การดัน SEO ช่วงนี้สามารถไล่ลำดับขึ้นมาอยู่ต้นๆ ของการสืบค้นสินค้าและบริการด้วย Google search ซึ่งเป็นโอกาสที่จะทำให้นำคู่แข่ง หรือเห็นผลลัพธ์ของการทำ SEO ได้เร็วจากจำนวนธุรกิจที่หยุดเคลื่อนไหวหายไปจากระบบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ได้ด้วย

3. เข้าให้ครบทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ ปัจจุบันการบริโภคและเข้าถึงสื่อออนไลน์ของผู้บริโภคไม่มีการจำกัดอยู่ที่แพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่ง หรือกลุ่มวัยใดวัยหนึ่ง เนื่องจากมีการสำรวจพฤติกรรมการบริโภคสื่อ (Media Consumption) พบว่า ผู้บริโภคมีการบริโภคสื่อเพิ่มขึ้นในสื่อทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นโซเชียลมีเดีย, ข่าว, การประชุมออนไลน์, ทีวีดิจิทัล, สตรีมมิ่งแพลตฟอร์มต่างๆ, เกมส์ออนไลน์, หนังสือ, หนังสือพิมพ์ และพอดแคสต์ แม้แต่ TikTok ที่เปิดตัวครองใจเด็กวัยเรียนในครั้งแรก ก็กลับได้รับความนิยมไปทุกกลุ่มวัย แม้แต่วัยหลังเกษียณยังนิยมเข้าไปดุคลิปวิดีโอจาก Tiktok เพื่อคลายเหงาและคลายเครียดด้วยเช่นกัน ดังนั้นจงนำสินค้าหรือบริการที่มีเข้าไปอยู่ในสื่อทุกช่องทาง เพื่อให้เกิดการเข้าถึง รู้จัก หรือแม้แต่นำเสนอขายได้ด้วย โดยต้องปลดล็อกเรื่องของช่วงวัยในแต่ละสื่อออกไป ด้วยโลกออนไลน์หลังโควิดเข้ามาแพร่ระบาดนั้นไม่ได้เหมือนเดิมอีกต่อไป

4. เจาะตลาดระดับ High จากข้อมูลของวันเดอร์แมน ธอมสัน (Wunderman Thompson) และแดทเทล (DATTEL) ที่ได้ร่วมกันสำรวจพฤติกรรมการซื้อของคนไทยในสถานการณ์โควิด19 ระหว่างวันที่ 24–26 มีนาคม 2563 จำนวน 1,243 คน อายุ 15–69 ปี ชาย 32% หญิง 68% ครอบคลุมกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด (50 : 50) การศึกษาตั้งแต่ระดับมัธยมถึงปริญญาเอก รายได้ 10,000–50,000 บาทขึ้นไป (70% ของผู้ตอบแบบสอบถาม รายได้น้อยกว่า 20,000 บาทต่อเดือน) พบว่าผู้มีรายได้มากกว่า 30,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป ยังคงมีพฤติกรรมการซื้อสินค้าแบบเดิม และมีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าผ่านช่องทางต่างๆ เท่าเดิมหรือบ่อยขึ้น และใช้จ่ายผ่าน “ช่องทางออนไลน์” มากกว่าเดิม ในช่วงระหว่างที่เกิดโควิด 19 เมื่อเทียบกับผู้ที่มีรายได้น้อยกว่า 30,000 บาทต่อเดือน ด้วยที่มีกำลังซื้อจึงไม่มีความลังเลในการที่ซื้อสินค้าหรือบริการที่ต้องการ ต่อให้สินค้านั้นจะเป็นสิ่งของฟุ่มเฟือยก็ตาม การจับลูกค้าในกลุ่มนี้ต้องใช้คุณค่าและคุณภาพที่จับต้องและคาดหวังได้ แทนการลดราคาเหมือนในตลาดล่าง หากแต่อาจเพิ่มโปรโมชั่น ลดเปอร์เซ็นต์ แลกแต้ม แจกของแถม เพื่อกระตุ้นให้เกิดการอยากจับจอง ณ  ช่วงเวลาที่เป็นนาทีทองที่จำกัดเข้าไปด้วย ก็จะสามารถจังลูกค้าได้กลุ่มนี้ได้ง่ายขึ้น

เนื่องจากในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 นี้ สินค้าบางชนิดได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก สินค้าบางชนิดอาจแทบไม่ได้รับผลกระทบเลย ดังนั้นการเจาะตลาดกลุ่มผู้บริโภคจำเป็นต้องทำความเข้าใจ Insights และ Consumer Behaviors  ควบคู่ไปด้วย.

 

แหล่งอ้างอิง :

https://www.marketingoops.com/

 

สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<<


เจาะคน Gen Now ผู้บริโภคยุคโควิดที่ธุรกิจต้องเข้าใจ

พฤติกรรมของคนแต่ละเจนที่เปลี่ยนไปหลังเจอโควิด 19 เข้ามา Disrupt



Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

‘TikTok For All’ Update เทรนด์ใหม่ปี 2024 พร้อมกลยุทธ์เพิ่มโอกาส SME ไทยสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน

‘TikTok For All’ Update เทรนด์ใหม่ปี 2024 พร้อมกลยุทธ์เพิ่มโอกาส SME ไทยสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน

TikTok ตอกย้ำการเป็นแพลตฟอร์มเอนเตอร์เทนเมนต์ที่น่าเชื่อถือสำหรับทุกคน ทั้งครีเอเตอร์ คอมมูนิตี้ผู้ใช้งาน และธุรกิจทุกขนาดในไทย ด้วยการเปิดตัว…
pin
1307 | 14/02/2024
ทอดไม่ทิ้ง! เปลี่ยน ‘น้ำมันเหลือทิ้ง’ เป็น ‘น้ำมันเครื่องบิน’ โอกาสใหม่ SME ไทย เติบโตอย่างยั่งยืน

ทอดไม่ทิ้ง! เปลี่ยน ‘น้ำมันเหลือทิ้ง’ เป็น ‘น้ำมันเครื่องบิน’ โอกาสใหม่ SME ไทย เติบโตอย่างยั่งยืน

ขณะที่ยานพาหนะต่าง ๆ ทั้ง รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รถไฟ และเรือ ต่างมุ่งสู่การใช้เชื้อเพลิงพลังงานทดแทน ที่เป็นพลังงานสะอาดกันแล้ว แต่สำหรับการเดินทางโดยอากาศยาน…
pin
1679 | 26/01/2024
จับกระแส 'เทรนด์ธุรกิจ' ปี 2024 ใครได้ไปต่อ ใครมาแรง SME ไทยต้องรู้

จับกระแส 'เทรนด์ธุรกิจ' ปี 2024 ใครได้ไปต่อ ใครมาแรง SME ไทยต้องรู้

ปี 2024 นี้ ธุรกิจไหนมาแรง ธุรกิจไหนน่าจับตา เทรนด์ธุรกิจใดกำลังมาแรง Bangkok Bank SME สรุปมาไว้ในบทความนี้ เพื่อเป็นแนวทางแก่ SME และผู้ที่กำลังคิดจะเริ่มต้นทำธุรกิจทุกท่าน…
pin
1927 | 25/01/2024
SMEs จะทำตลาดออนไลน์อย่างไรในช่วงวิกฤติโควิด 19