อยากมีร้านเสื้อผ้า แต่ไม่รู้ว่าต้องเริ่มต้นจากตรงไหนก่อนดี จับเสื้อผ้าอะไร หรือหาแหล่งเสื้อผ้าจากไหน บทความนี้จะเป็นไกด์ไลน์ให้ผู้ประกอบการมือใหม่ได้ใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ เสมือนแผนที่ลายแทงให้เข้าถึงการทำร้านเสื้อผ้าที่ขายดี ทำแล้วปัง ตอบโจทย์ได้ตรงความต้องการของตลาดและประสบความสำเร็จได้ ด้วย 9 เทคนิคเด็ด ดังนี้
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
1. กำหนดลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมายทางการตลาดเป็นสิ่งแรกที่ควรจะต้องปักหมุดให้ความสำคัญ
เพราะถ้ามีกลุ่มเป้าหมายในใจการจะขายอะไรหรือเสื้อผ้าสไตล์ไหนก็จะทำได้ง่าย โดยกลุ่มเป้าหมายของร้านนั้นสามารถกำหนดได้จากเพศ,
อายุ, อาชีพ, รายได้ และสไตล์ เพราะแต่ละกลุ่มจะมีรสนิยมความชอบที่แตกต่างกันออกไป
รวมไปถึงกำลังในการซื้อก็จะแตกต่างกันออกไปด้วย
โดยกลุ่มเป้าหมายจะไปสัมพันธ์กับการออกแบบ และทิศทางแฟชั่นของร้าน
รวมถึงราคาที่จะกำหนดขาย เพราะถ้ากำหนดกลุ่มเป้าหมายคือวัยรุ่นกลุ่มนักศึกษา
ที่มีการเปลี่ยนเทรนด์ตามกระแส ซึ่งจะซื้อง่าย-ขายคล่องตัวกว่า
แต่จะทำราคาได้ไม่สูงนัก เพราะกำลังการซื้อยังมีไม่มากเหมือนกลุ่มคนวัยทำงาน
2. ทำเลดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
หากเสื้อผ้าดี ร้านเด่นเป็นเอกลักษณ์
ถ้าทำเลที่ตั้งไม่เหมาะสม เช่น อยู่ลึกเกินไป ไม่มีที่จอดรถ คนไม่พลุกพล่าน
ก็ตายได้เช่นกัน เพราะร้านเสื้อผ้านั้นมีมากมายหาได้ง่ายกว่าร้านติ่มซำเสียอีก
การไปตั้งอยู่ในที่ที่คนเข้าถึงได้ยาก จึงไม่เหมาะต่อการขายเสื้อผ้าอย่างยิ่ง
เพราะเสื้อผ้าตลาดรีวิวมีไม่มาก และกลุ่มลูกค้าไม่ตามเกาะไปจนถึงร้านที่ซุกซ่อนอยู่ในซอกเหมือนอาหารเจ้าดัง
อร่อยเด็ด ดังนั้นเลือกทำเลที่มีคนเดินพลุกพล่าน เข้าถึงได้ง่าย
จะกระตุ้นยอดขายได้ดีกว่า
3. ค้นหาเอกลักษณ์และสไตล์เสื้อผ้าของร้าน
เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้แก่ร้านและชวนให้จดจำ
ชนิดที่ว่าถ้าต้องการซื้อเสื้อผ้าแนวนี้จะต้องนึกถึงร้านเราแบบนี้เป็นต้น
เพื่อฉีกหนีความซ้ำซากจำเจ
โดยอย่าลืมว่าแหล่งขายส่งเสื้อผ้าในประเทศไทยนั้นไม่ได้มีมากมาย ตลาดเสื้อผ้านั้นมีการแข่งขันสูง
และการก็อปปี้สินค้าแบบเดียวกันในตลาดเดียวกัน ยังคงรวมถึงการขายแบบแข่งกันตัดราคายังคงมีอยู่
หากร้านค้ามีจุดเด่นที่สามารถเล่นได้ ตั้งแต่คุณภาพของผ้า ลวดลาย รูปแบบ สไตล์
รวมไปถึงการตกแต่งร้าน ก็จะทำให้เกิดความแตกต่างเป็นเอกลักษณ์ชวนจำได้เช่นกัน
4. ทำการบ้านให้หนักตามเทรนด์แฟชั่นให้ทัน
หากทำร้านเสื้อผ้าแฟชั่น การหมั่นอัพเดท
เทรนด์เสื้อผ้าเป็นประจำสม่ำเสมอ จะทำให้วิ่งนำเหนือคู่แข่งได้ 1 ก้าว
ถึงแม้จะไม่สามารถทิ้งห่างกันได้มาก จากข้อจำกัดด้านแหล่งขายส่งสินค้าที่เป็นแหล่งเดียวกัน
แต่ก็สามารถทำให้ทำเงินได้เร็ว และดีกว่าคู่แข่ง 1 ก้าวแน่นอน เพราะการเปิดขายก่อนในช่วงต้นๆ
ของกระแสย่อมทำราคาได้ดีกว่า ในช่วงกลางหรือท้ายกระแสแฟชั่นนั้นๆ แน่นอน
5. สร้างช่องทางการขายออนไลน์
เพราะเราอยู่ในยุคที่โลกเปิดกว้าง
ตลาดออนไลน์มีบทบาทและอิทธิพลมากต่อธุรกิจและรายได้ ดังนั้นเพื่อให้เกิดรายได้หลายทาง
อย่าลืมเปิดหน้าร้านออนไลน์ควบคู่ไปกับหน้าร้านแบบออฟไลน์ได้ด้วย
เพราะฐานลูกค้าออนไลน์ในยุคดิจิทัลเป็นสิ่งสำคัญ
และถึงแม้จะมีคู่แข่งบนตลาดออนไลน์มาก
แต่การมีหน้าร้านออฟไลน์ควบคู่ไปด้วยจะเพิ่มน้ำหนักความน่าเชื่อถือ
และเกิดการเชื่อมโยงลูกค้าแบบออนไลน์สู่ออนไลน์ได้ ให้เกิดการขายได้ตลอดเวลาไม่จำกัดแค่เพียงระยะเวลาเปิด-ปิดหน้าร้าน
เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดและสะดวกที่สุดให้กับลูกค้าในการช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อได้
6. บริการต้องเป็นเลิศ
เสื้อผ้าสวยดี มีสไตล์ไม่เหมือนใคร เป็นตัวดึงดูดความสนใจของลูกค้าให้เดินเข้ามาเลือกซื้อที่ร้าน
แต่การบริการการขายด้วยความใส่ใจ ยินดี และเป็นมิตร จะทำให้เกิดความประทับใจและสามารถสร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้นในใจของลูกค้าได้
แม้ว่าร้านข้างๆ จะขายสินค้าแบบเดียวกันก็ตาม
เพราะการบริการคือคุณค่าที่ลูกค้าจะได้รับโดยไม่ต้องจ่ายเพิ่ม และจะทำให้เกิดการกลับมาซื้อซ้ำได้โดยไม่ต้องเอ่ยปากชวนในครั้งต่อไป
7. หาแหล่งขายส่งที่ดี
แหล่งผลิตสินค้าที่ดีจะทำให้สามารถคงคุณภาพในการขายเสื้อผ้าได้ดี
โดยไม่เสียชื่อร้าน ทำให้เกิดการบริหารจัดการงานหน้าร้านได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
โดยไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องคุณภาพ ทำให้บุกตลาดทำเงินได้อย่างสบายใจ
8. สร้างแบรนด์หรือผลิตเอง เมื่อขายเสื้อผ้าไปได้สักระยะหนึ่ง
ผู้ประกอบการจะจับทิศทางการตลาดและความต้องการที่แฝงไว้ในส่วนลึกของลูกค้า
สามารถจับ Pain point ของลูกค้าได้
การแตกไลน์ไอเดียมาสู่งานเสื้อผ้าที่เป็นชื่อแบรนด์ตัวเองได้ ก็จะเป็นการสร้างเอกลักษณ์อันดีให้แก่ร้านได้อีกทางหนึ่ง
รวมถึงจะทำให้เกิดการเดินนำเหนือคู่แข่งหลายก้าว
เพราะไม่ได้เป็นการซื้อมาขายไปเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป
แต่มันแฝงไปด้วยความใส่ใจและการสร้างสรรค์
เพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าของเราเอง
9. ธุรกิจดีต้องมีแผนชัดเจน
เพราะทุกธุรกิจที่ประสบความสำเร็จนั้นล้วนแต่ดำเนินกิจการแบบมีเป้าหมายให้เป็นไปตามแผน
ต่อให้ร้านเสื้อผ้าของเราจะเล็กหรือใหญ่แค่ไหน ก็ควรมีแผนการธุรกิจเสมอ
เพราะแผนจะทำให้ไปสู่เป้าหมายได้ง่ายขึ้น และไม่หลงทางตาม Business
Plan ที่ต้องคิดอยู่บนพื้นฐานตามประเด็นหลักดังนี้
- วิเคราะห์ตลาด เพื่อดูว่าสินค้าของเราอยู่ในตลาดไหน
มีโอกาสมากน้อยแค่ไหน เป็นตลาดที่แข่งขันสูงรึไม่ เพื่อที่จะได้วางกลยุทธ์ในการทำธุรกิจได้ถูกจุด
- คุณภาพของสินค้า/ตัวสินค้า
ที่ขายอยู่เป็นแบบไหน มีความโดดเด่นอย่างไร มีจุดขายแบบไหน
- วิเคราะห์คู่แข่ง
โดยมุ่งไปที่คู่แข่งในตลาดที่เป็นเจ้าใหญ่ที่สุด
เพื่อหาจุดแข็งของเขามาต่อยอดพัฒนาในธุรกิจเราให้เหนือกว่าหรือก้าวข้ามคู่แข่งได้
- โมเดลธุรกิจ จำเป็นต้องมีเพื่อให้สามารถมองเห็นภาพรวมของธุรกิจตัวเองได้ชัดเจน
- แบรนด์หรือตราสัญลักษณ์ จะช่วยให้ร้านเรามีภาพลักษณ์โดดเด่นท่ามกลางคู่แข่งและไม่ถูกกลืนหายไปในกระแสของคู่แข่ง
และทำให้เกิดการจดจำได้ง่ายขึ้น
- กำหนดระยะความสำเร็จเป็นลำดับขั้น
และตั้งเป้าหมายการลงทุน
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลทั้ง 9 ข้อนี้เป็นเคล็ดลับแต่ไม่ลับ เพราะโดยทั่วไปคนที่เริ่มทำธุรกิจหรือดำเนินธุรกิจย่อมทราบและมีพื้นฐานมาบ้าง แต่สิ่งที่ขาดหายไปเมื่อทำมาระยะหนึ่งจะขาดความต่อเนื่องและสอดคล้อง หรือบกพร่องข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งจะเป็นผลเสียต่อธุรกิจ ดังนั้นจึงหมั่นตรวจสอบตนเอง ตรวจสอบธุรกิจที่ทำอยู่เสมอ
สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<<
มุมมองตลาดสินค้ามือสอง ‘หลังโควิด’
โอกาส SMEs พัฒนาผลิตภัณฑ์กระชายดำเจาะตลาดโลก