โลกมีการเปลี่ยนไปตามกระแสเทคโนโลยีที่เปลี่ยนถ่ายอย่างรวดเร็ว
จนทุกวงการต่างขานรับเทคโนโลยี
เพื่อนำเข้ามาช่วยจัดการบริหารกิจการงานให้สำเร็จลุล่วง ไม่เว้นแม้แต่ภาคการเกษตร ที่มีการตอบรับเทคโนโลยีเข้ามาช่วยจัดการฟาร์ม
เพื่อคาดหวังผลลัพธ์อันแม่นยำมากขึ้น เช่น การใช้ IoT
ร่วมกับปัญญาประดิษฐ์ และเครื่องจักรกล เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต
ที่สามารถแก้ปัญหาตอบโจทย์ได้อย่างตรงจุด
ซึ่งมีการคาดการณ์จากผู้เชี่ยวชาญไว้หลายด้านด้วยกันเกี่ยวกับเทรนด์เทคโนโลยีดิจิทัล ที่จะส่งผลต่อภาคการเกษตรในอนาคตอันใกล้ ตามความเป็นไปได้ของกระแสเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทสำคัญ ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสำคัญต่อวงการเกษตรไทยในปี 2021 ดังนี้
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
1. Agricultural satellite ดาวเทียมจะเข้ามามีบทบาทต่อการทำเกษตรมากขึ้น
เหมือนกับ Google map ที่สามารถสืบค้นหาสถานที่ต่างๆ
ได้อย่างแม่นยำผ่านดาวเทียม โดยถ้านำดาวเทียมมาใช้กับภาคการเกษตร ก็จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อวงการเกษตรได้อย่างมหาศาล
เพราะจะช่วยบอกได้ว่าที่ดินตรงนนั้นเหมาะสำหรับอะไร มีแร่ธาตุอะไรมากน้อยแค่ไหน
จากค่าสีของดินพร้อมช่วยบอกข้อมูลในการวางแผนเพาะปลูกที่แม่นยำ รวมถึงทำให้การบริหารจัดการเพาะปลูกต่างๆ
เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
2. IoT กับการจัดการระบบน้ำในระดับมหภาค เพราะน้ำเป็นหัวใจสำคัญสำหรับภาคการเกษตร และมักเกิดความแปรปรวนทุกปี
ดังนั้นการที่ภาคส่วนหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องสามารถประเมินสถานการณ์น้ำจากพื้นที่การเกษตรต่างๆ
ผ่านการเชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยี IoT ได้ จะทำให้เกิดการวางแผนรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ได้ทันท่วงที
ไม่ว่าจะเป็นภัยแล้ง น้ำหลาก หรือน้ำท่วม ก็สามารถจัดการน้ำได้อย่างมีศักยภาพ ในระดับมหภาค
ที่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การบริหารน้ำในฟาร์มเกษตรกรเหมือนที่ผ่านมา
3. Big Data มีการใช้ฐานข้อมูลขนาดใหญ่มาช่วยในการผลิต
ผ่านการเก็บข้อมูลประวัติของพืชหรือสัตว์ สินค้าเกษตร
ที่มีความสำคัญต่อการขอการรับรองมาตรฐานต่างๆ และช่วยเก็บลักษณะนิสัยของพืช
การเติบโต การดูแลรักษาพืชชนิดพันธุ์เดียวกันในต่างพื้นที่ เพื่อช่วยวิเคราะห์การเพาะปลูก
แก้ปัญหา และตรวจสอบย้อนกลับมาสู่จุดตั้งต้น (Traceability) เป็นเครือข่ายเชื่อมโยงข้อมูลแบบใหม่ที่เข้าถึงได้จากทุกที่
4. Agriculture Biotechnology มีความเป็นไปได้อย่างมาก ว่าจะมีการพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพเข้ามาใช้จัดการเรื่องโรค
แมลงศัตรูพืชที่เพิ่มจำนวนและจัดการยากขึ้น ทำให้เกิดการประยุกต์ใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์
เคมี ชีวภาพ และองค์ความรู้ด้านต่างๆ เข้ากับการเกษตรจนกลายเป็นเรื่องเดียวกัน โดยเทคโนโลยีชีวภาพจะได้รับการยอมรับมากขึ้น
และนิยมใช้อย่างแพร่หลาย เรื่องของการตัดแปลงยีน ตัดต่อพันธุกรรม
อาจได้รับการอนุญาตและเข้าไมามีบทบาทต่อภาคการผลิตมากขึ้น
5. Agricultural Machinery ได้รับการพัฒนาเข้ามาใช้ในงานจัดการไร่ นา สวน ฟาร์ม
ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่มากขึ้น เพื่อรองรับปัญหาแรงงานภาคการเกษตรที่หายาก
การย่นระยะเวลาในการจัดการฟาร์ม
การประหยัดต้นทุนและประสิทธิภาพที่วัดผลได้อย่างแม่นยำ ทั้งทางบก น้ำ อากาศ
6. Plant Factory การผลิตพืชแนวใหม่จะถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มอาหาร เลี่ยงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากสภาพอากาศแปรปรวน
และพื้นที่การเกษตรลดจำนวนลง โดยมีการจัดระบบการเป็นฟาร์มรูปแบบใหม่ เช่น การทำโรงงานเพาะปลูกพืชแบบระบบปิด ที่สามารถควบคุมสภาพแวดล้อม
น้ำ อากาศ อุณหภูมิ แสง ธาตุอาหารอื่นๆ ได้
แหล่งอ้างอิง : https://www.nia.or.th/