“Prompt Engineering” คืออะไร? ทำไมใคร ๆ ก็พูดถึงกัน ในยุคที่ AI กำลังมาแรง !??

The Big Blue
18/07/2025
รับชมแล้วทั้งหมด 21 คน
“Prompt Engineering” คืออะไร? ทำไมใคร ๆ ก็พูดถึงกัน ในยุคที่ AI กำลังมาแรง !??
banner

ถ้าเปรียบการใช้งาน AI อย่าง ChatGPT, Gemini, หรือ Claude กับการขับรถยนต์ล้ำสมัย ในการ “ขับเคลื่อน” เหล่าโมเดลอัจฉริยะเหล่านี้ให้ไปถึงเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ จำเป็นต้องมีคนบังคับพวงมาลัยให้ถูกทาง ซึ่งในโลก AI สิ่งนั้น คือ การ “Prompt” หรือ “คำสั่ง” ที่เราป้อนเข้าไปนั่นเอง

.

แล้วอะไรคือ Prompt Engineering?

Prompt Engineering คือศาสตร์ของการออกแบบและปรับแต่ง “คำสั่ง” เพื่อให้ AI ตอบสนองได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ไม่ใช่แค่ถามคำถามทั่วไป แต่ต้องรู้วิธี “สื่อสาร” กับ AI ให้เข้าใจว่าเราต้องการอะไร ต้องการรูปแบบไหน โทนเสียงอย่างไร และให้อะไรเป็นผลลัพธ์กลับมา

.

ถ้าย้อนกลับไปเมื่อก่อนเวลาที่เราใช้ Google ค้นหาข้อมูล เราแค่พิมพ์คำค้นหาว่า “ร้านกาแฟดีๆ ใกล้ฉัน” แล้วลองเลือกร้านที่ตรงใจจากผลการค้นหาอีกที แต่ในโลกของ Generative AI เช่น ChatGPT หรือ Midjourney การได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจ ต้องพึ่งทักษะการเขียนคำสั่งที่ละเอียดและสร้างสรรค์มากกว่านั้น เช่น

.

“แนะนำร้านกาแฟแนวมินิมอล บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะกับทำงาน มีปลั๊กไฟและที่นั่งโซฟา ใกล้ BTS เอกมัย พร้อมรีวิวจากผู้ใช้”

.

จากคำสั่งที่เฉพาะเจาะจงแบบนี้ AI จะสามารถตอบกลับได้อย่างมีบริบท รวดเร็ว และใกล้เคียงสิ่งที่เราต้องการมากกว่าคำสั้น ๆ แบบทั่วไปนั่นเอง

.

ถามว่า.. ทำไม Prompt Engineering ถึงกลายเป็นทักษะที่สำคัญ?

เหตุผลที่ Prompt Engineering กำลังถูกยกระดับให้เป็น “ทักษะใหม่แห่งศตวรรษ” ก็เพราะว่า สิ่งนี้คือ “ภาษาที่มนุษย์ใช้คุยกับ AI” ได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

ในยุคที่ทุกคนสามารถเข้าถึงเครื่องมืออัจฉริยะได้เหมือนกัน ความแตกต่างไม่ได้อยู่ที่ว่าใครใช้ AI หรือไม่ แต่อยู่ที่ว่าใคร “ใช้เป็น” และใคร “ใช้เก่ง” มากกว่ากัน ยกตัวอย่างเช่น…

-         นักเขียนที่รู้จักเขียน prompt แบบระบุโทนเสียง, กลุ่มเป้าหมาย, และความยาวเนื้อหา มักจะได้คอนเทนต์ที่พร้อมโพสต์ในไม่กี่นาที

-         นักออกแบบที่ฝึกเขียนคำอธิบายภาพอย่างแม่นยำ ก็จะสามารถสร้างงานศิลปะหรือโปสเตอร์จาก Midjourney หรือ DALL·E ได้โดยไม่ต้องแตะเครื่องมือกราฟิกเยอะเท่าเดิม

-         โปรแกรมเมอร์ที่รู้จักระบุบริบทปัญหา จะได้โค้ดตัวอย่างที่แม่นยำจาก AI และช่วยประหยัดเวลาการแก้บั๊กหลายเท่า

.

สิ่งนี้ทำให้หลายบริษัทเริ่มให้ความสำคัญกับทักษะด้าน Prompt Engineering มากกว่าการเขียนโค้ด โดยเฉพาะในสายอาชีพอย่าง Content Creator, Marketer, Copywriter, นักพัฒนา, UX/UI Designer ไปจนถึงผู้บริหาร ซึ่งสำหรับใครที่เพิ่งเริ่มใช้งาน AI การฝึกเขียน Prompt ที่ดีคือการ “ทดลอง-แก้ไข-ลองใหม่” เช่นเดียวกับการเรียนภาษาใหม่ ลองปรับคำให้เจาะจงมากยิ่งขึ้น

แทนที่จะสั่งว่า “ช่วยเขียนโพสต์เรื่อง AI” ให้ลองเขียนในเชิงว่า “ช่วยเขียนโพสต์ Facebook สไตล์กึ่งทางการสำหรับเจ้าของธุรกิจ ที่อธิบายว่า AI กำลังเปลี่ยนวิธีการตลาดแบบเดิมอย่างไร” บอกเลยว่าผลลัพธ์จะที่ได้ออกมาเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง!

.

บอกเลยว่าในโลกของ Generative AI ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงโมเดลอัจฉริยะอย่าง ChatGPT, Claude, หรือ Gemini ได้เพียงปลายนิ้ว การ “Prompt” หรือคำสั่งที่เราป้อนให้ AI กลายมาเป็นอาวุธสำคัญในการแยกแยะว่าใครใช้ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และใครยังแค่ลองฝึกใช้อยู่

แต่การสั่งให้ AI ตอบแบบที่ เข้าใจเราไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป และนั่นคือจุดที่ “Prompt Engineering” กลายเป็นทักษะสำคัญที่หลายองค์กรเริ่มหันมาให้ความสนใจอย่างจริงจัง

.

Prompt Engineering ไม่ใช่แค่ทักษะใหม่ แต่กลายเป็น “อาชีพ” ที่หลายองค์กรเริ่มจ้างแล้ว

จากผลสำรวจของ McKinsey ล่าสุด พบว่าองค์กรที่ใช้ AI อย่างจริงจังกว่า 7% เริ่มจ้างผู้เชี่ยวชาญด้าน Prompt Engineering โดยเฉพาะ ในขณะเดียวกันองค์กรจำนวนมากก็เริ่มหันมาลดการจ้างวิศวกร AI แบบเดิม แล้วหันมาพัฒนาทักษะ Prompt ให้พนักงานที่มีอยู่แทน

เพราะความจริงที่ชัดเจน คือ “ใครเข้าใจการเขียน Prompt อย่างแท้จริง ย่อมสามารถใช้ AI ได้เต็มศักยภาพมากกว่า”

.

ทักษะนี้จะกำหนดอนาคตของคนทำงานยุคใหม่

.

รายงานของ McKinsey ยังมีการระบุอีกว่า Generative AI สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแรงงานได้ถึง 4.4 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี และอาจเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานในหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่การตลาด การบริการลูกค้า การเขียนโค้ด ไปจนถึงการธนาคารและกฎหมาย

.

ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจ คือ กว่า 70% ของเวลาทำงานในปัจจุบันสามารถถูก AI เข้ามา “ช่วย” หรือ “แทนที่” ได้บางส่วน โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับข้อมูล ภาษา และความรู้ (Knowledge Work)

บอกเลยว่าแทนที่ AI จะมาแทนคนทั้งหมด การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะยิ่งเน้นความสำคัญของ “ทักษะที่เครื่องจักรทำไม่ได้” เช่น การคิดวิเคราะห์, การตั้งคำถามเชิงกลยุทธ์, การใช้ AI อย่างเข้าใจและมีจริยธรรม ซึ่ง Prompt Engineering คือหัวใจสำคัญของทั้งหมดนี้

.

สรุปง่าย ๆ คือ Prompt Engineering ไม่ได้เป็นแค่ทักษะสำหรับตำแหน่ง IT หรือ Developer อีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็นทักษะจำเป็นสำหรับ “ทุกคน” ที่ต้องการทำงานร่วมกับ AI อย่างมีประสิทธิภาพ

.

#PromptEngineering #GenerativeAI #AI #ArtificialIntelligence #BBO #thebigblueocean #digitaltransformation #transformationbuddy

ที่มา: 


Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

รู้จัก Visual Foundation Models เมื่อ AI ไม่ได้เข้าใจแค่ภาษา แต่ "มองเห็นภาพ" ได้อีกด้วย!

รู้จัก Visual Foundation Models เมื่อ AI ไม่ได้เข้าใจแค่ภาษา แต่ "มองเห็นภาพ" ได้อีกด้วย!

ในยุคที่ AI ไม่ได้แค่เข้าใจข้อความ แต่สามารถ "เข้าใจภาพ" ได้อย่างชาญฉลาด กับความสามารถที่เรียกว่า Visual Foundation Models (VFMs) ซึ่งกำลังกลายมาเป็นหัวใจสำคัญ…
pin
9 | 22/08/2025
“Prompt Engineering” คืออะไร? ทำไมใคร ๆ ก็พูดถึงกัน ในยุคที่ AI กำลังมาแรง !??

“Prompt Engineering” คืออะไร? ทำไมใคร ๆ ก็พูดถึงกัน ในยุคที่ AI กำลังมาแรง !??

ถ้าเปรียบการใช้งาน AI อย่าง ChatGPT, Gemini, หรือ Claude กับการขับรถยนต์ล้ำสมัย ในการ “ขับเคลื่อน” เหล่าโมเดลอัจฉริยะเหล่านี้ให้ไปถึงเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ…
pin
21 | 18/07/2025
จับตา !! เมื่อ Agentic AI อาจกลายมาเป็นเครื่องมือ ที่หลายธุรกิจขาดไปไม่ได้ !??

จับตา !! เมื่อ Agentic AI อาจกลายมาเป็นเครื่องมือ ที่หลายธุรกิจขาดไปไม่ได้ !??

Gartner คาดการณ์ว่าภายในปี 2028 แอปพลิเคชันซอฟต์แวร์ขององค์กรกว่า 33% จะฝัง Agentic AI เข้ามาช่วยทำงาน จากในปี 2024 ที่ยังมีการนำมาใช้ไม่ถึง…
pin
35 | 20/06/2025
“Prompt Engineering” คืออะไร? ทำไมใคร ๆ ก็พูดถึงกัน ในยุคที่ AI กำลังมาแรง !??