หลายคนคงเคยประสบปัญหาเมื่อต้องไปปฏิบัติภารกิจสำคัญ
แต่เจ้ากรรมการเดินทางไกลทำร้ายเรา รวมไปถึงการใช้ชีวิตยังต่างแดน
ส่งผลให้เกิดอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า พอถึงเวลาต้องปฏิบัติหน้าที่
ประสิทธิภาพประสิทธิผลก็จะด้อยลง
ลองมาดูวิธีการง่ายๆ ที่เราพอจะดูแลตัวเองให้มีความพร้อมสำหรับงานสำคัญกันดีกว่า
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
- เตรียมอุปกรณ์พื้นฐาน เวลาที่ต้องไปทำงานต่างถิ่น ก็เหมือนนักบอลไปแข่งในดินแดนที่ไม่คุ้นเคย
โดยเฉพาะที่มีคู่แข่งขันเป็นประเทศเจ้าภาพ ไหนจะเพลียจากการเดินทางไกล
บางครั้งต้องปรับตัวกับสภาพอากาศ สนาม ไหนจะกองเชียร์ที่อาจจะไม่เป็นมิตร
สิ่งที่จะเป็น “ตัวช่วย” อาจเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เรามองข้ามไป เช่น หน้ากากปิดตาเพื่อช่วยกันแสงเวลานอน
เอียร์ปลั๊กป้องกันเสียงรบกวนจากคนข้างเคียง เจลประคบเย็นที่ช่วยให้ผ่อนคลายอาการปวดหัว
เป็นต้น
- รับมือ “เจ็ตแล็ก” สำหรับการเดินทางข้ามเขตเวลา (Time zone)
นาฬิกาชีวิตของเรามักจะเกิดอาการรวนเพราะสับสนว่าตกลงควรจะนอนตอนไหนกันแน่ และจะตื่นตอนไหนกันดี
ซึ่งส่วนใหญ่ร่างกายของเราจะยึดติดอยู่กับเขตเวลาเดิม
ไม่ปรับตามเวลาท้องถิ่นของจุดหมายปลายทาง เราก็จะเกิดอาการเมาเวลา ยิ่งอายุมาก
อาการก็จะยิ่งรุนแรง หายช้ากว่าคนวัยอื่น
วิธีที่พอจะช่วยได้คือ ก่อนการเดินทางพยายามพักผ่อนให้เพียงพอ
เพื่อให้ร่างกายพร้อมสำหรับการเดินทาง
หลายคนใช้วิธีอดนอนเพื่อปรับเวลาให้ตรงกับจุดหมาย ซึ่งจะทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย
และการปรับตัวยิ่งทำได้ลำบากขึ้นอีก วิธีที่ดีกว่า ถ้าเป็นไปได้
ควรปรับระบบนาฬิกาชีวิตล่วงหน้า 2-3 วันก่อนออกเดินทาง
ถ้าเดินทางไปซีกโลกฝั่งตะวันตก
ให้เข้านอนช้าลง 1-2 ชั่วโมง แต่ถ้าเดินทางไปฝั่งตะวันออกก็ให้เข้านอนเร็วขึ้น
1-2 ชั่วโมง
รวมทั้งปรับเวลาอาหารแต่ละมื้อให้ใกล้เคียงเวลาท้องถิ่นของจุดหมายปลายทางด้วย
ระหว่างเดินทาง
งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ คาเฟอีน หรือกินอาหารมื้อใหญ่บนเครื่องบิน
แต่ดื่มน้ำเปล่าให้มากๆ เข้าไว้เพื่อลดภาวะขาดน้ำ ถ้าเป็นการเดินทางระยะไกล
ควรลุกขึ้นเดินยืดเส้นยืดสายเป็นระยะ
ทางที่ดี
ควรเดินทางให้ถึงจุดหมายปลายทางล่วงหน้าก่อนถึงวันนัดหมาย 1-2 วัน
เพื่อให้ร่างกายมีเวลาปรับตัวก่อนวันพรีเซนต์งาน ร่วมประชุม หรือร่วมกิจกรรม ถ้าง่วงตอนกลางวัน
ให้งีบสัก 20-30 นาทีเพื่อลดความอ่อนเพลีย อาจจะปรึกษาหมอเรื่องการใช้ยานอนหลับ
- รักษาวินัยการกิน อีกเรื่องที่สร้างความปั่นป่วนให้การไปทำงานยังต่างถิ่นอยู่เสมอคืออาหารแปลกใหม่ชวนให้ลิ้มลอง
รวมถึงการคะยั้นคะยอจากผู้เป็นเจ้าภาพ แต่สำหรับผู้ที่ต้องการรักษาสภาพให้พร้อมสำหรับการทำงาน
คาถาสำคัญคือ การรักษาวินัยการกินของเราไว้ให้ใกล้เคียงกับชีวิตประจำวันมากที่สุด
แต่ละคนมีรูปแบบการกินเป็นของตัวเอง เช่น บางคนเน้นกินผักผลไม้
บางคนกินหนักมื้อกลางวัน บางคนให้ความสำคัญกับมื้อเย็น ฯลฯ
พยายามดูแลร่างกายให้อยู่ในสภาวะปกติมากที่สุด การกินที่ไร้ระเบียบในระหว่างการเดินทางไกล ไม่เพียงมีผลต่อประสิทธิภาพและประสิทธิผลในขณะอยู่ต่างถิ่น ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอาการท้องเสีย ท้องผูก หรือแม้แต่ท้องอืดเฟ้อ บ่อยครั้งการกินระหว่างทริปส่งผลมาจนถึงวันที่เดินทางกลับ ทำให้ต้องมาปรับตัวอีกหลายวันหลังจากถึงบ้านเลยทีเดียว
- อย่ามองข้ามการออกกำลังกาย คนที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอ บ่อยครั้งพอต้องเดินทางกลายเป็นอุปสรรค ทั้งที่จริง การออกกำลังกายยังเป็นไปได้ แต่อาจต้องมีการเตรียมตัว และรักษาวินัยให้ดีๆ เช่น การตรวจสอบล่วงหน้า ว่าที่พักยังจุดหมายปลายทางของเรานั้นมีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้าง มีฟิตเนสมั้ย มีสระว่ายน้ำหรือเปล่า หรือมีบริเวณให้วิ่งออกกำลังกายได้ เราก็จะได้เตรียมชุดกีฬา รองเท้าผ้าใบไปให้เหมาะสม หรือบางครั้งงานประชุมลากยาวจริงๆ ไม่ทันเวลาปิดบริการของฟิตเนสและสระว่ายน้ำ วิธีง่ายๆ คือใช้ผ้าขนหนูปูในห้องนอน แล้วบริหารร่างกายด้วยท่ายืดเหยียด หรืออาจพกยางพิลาทิศไปด้วย หรือจะหยิบฉวยขวดน้ำแร่มาเป็นดัมเบลสำหรับกล้ามเนื้อแขนไปพลางๆ ก็ยังดี
สิ่งเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ อาจเป็นตัวช่วยที่สำคัญให้คุณสามารถรับมือการงานและผู้คนด้วยความสดชื่นแจ่มใส
ซึ่งจะมีส่วนให้การเดินทางเจรจาธุรกิจ หรือปฏิบัติภารกิจในหน้าที่การงานเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
Google เพิ่มฟีเจอร์ ‘Travel’ รุกบริการ OTA
ฝันอยากมี ธุรกิจ "HoReCa" ที่เยอรมนีต้องทำอย่างไร