5 เทรนด์ท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป หลังเปิดประเทศ

ส่องเทรนด์การท่องเที่ยว ภายใต้มาตรการเปิดประเทศกับรูปแบบการใช้ชีวิตและแนวโน้มการท่องเที่ยวในอนาคตที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างแน่นอน ทั้งภาคธุรกิจ ทั้งผู้ให้บริการการท่องเที่ยวอย่างสายการบินหรือโรงแรม ซึ่งอาจมีการปรับปรุงการให้บริการโดยมุ่งเน้นด้านสุขภาพมากขึ้น ในส่วนของนักท่องเที่ยวเอง ปัจจัยในการจัดทริปเที่ยวก็จะเปลี่ยนไปเช่นเดียวกัน   

ทำให้ทั้งผู้ประกอบการและลูกค้าต่างปรับตัวให้สอดคล้อง ด้วยการสร้างการท่องเที่ยวที่มีความปลอดภัย ซึ่งถือเป็นแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นต่อเนื่องในระยะยาว และเมื่อทุกคนปรับตัวมุ่งสู่การท่องเที่ยวแบบปลอดภัยได้สำเร็จ การจะเดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ก็จะมีแต่ความความปลอดภัย แต่ก่อนที่จะออกเดินทางไปท่องเที่ยวทุกคนควรหาข้อมูลก่อน เพื่อเตรียมความพร้อม และป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น

 ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

5 พฤติกรรมการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป หลังเปิดประเทศ

1.ความสะอาดต้องมาก่อน

นักท่องเที่ยวจะเลือกสถานที่ท่องเที่ยวและที่พักจากความสะอาด ปลอดภัยเชื้อโรคเป็นลำดับแรก โดยพิจารณาจากระบบการทำความสะอาด มาตราการการดูแลแขก เป็นต้น ซึ่งระบบการดูแลความสะอาดในที่พักมีหลายองค์ประกอบร่วมกัน ตั้งแต่การเว้นระยะการเข้าพัก จากปกตินักท่องเที่ยวสามารถพักต่อกันได้วันต่อวัน ต้องเปลี่ยนเป็นการเว้นระยะการเข้าพักให้นานขึ้น หรือการใช้แอปพลิเคชันในการดำเนินงานทั้งการจ่ายเงิน รับสลิป การเปิดปิดประตูห้องเพื่อลดการสัมผัส

2.การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ

เมื่อคนหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพและความปลอดภัยมากขึ้น มีแพลนการเดินทางที่สั้นลง ส่งผลให้การท่องเที่ยวแนวนี้ได้รับความสนใจ โดยธุรกิจท่องเที่ยวอาจเน้นจัดโปรแกรมแนวสุขภาพ ทานอาหารคลีนหรือ SuperFoods มีคลาสออกกำลังกายเพื่อฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ ทำให้สามารถดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวได้ ซึ่งหากนำเทรนด์นี้มาเป็นจุดขายในอนาคต อาจเป็นตัวช่วยเสริมที่ช่วยสร้างความแตกต่างให้แก่ธุรกิจ

3.หลีกเลี่ยงความแออัด

จากอดีตนักท่องเที่ยวต่างต้องการไปสถานที่สำคัญ สถานที่มีชื่อเสียง แต่ในอนาคตสถานที่เหล่านี้อาจไม่อยู่ในตัวเลือกของนักเที่ยวอีกต่อไป เมื่อการรักษาระยะห่างกลายเป็นเรื่องที่จำเป็น สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมก็อาจไม่จะนิยมอีกต่อไป ทำให้สถานที่ยอดนิยมกลายเป็นเป้าหมายรอง สถานที่ท่องเที่ยวภายในเมือง การเยี่ยมชมสถาปัตยกรรม สัมผัสวัฒนธรรมของแต่ละประเทศจะลดลงน้อยลง ส่วนการท่องเที่ยวแบบสำรวจธรรมชาติอย่างเช่น การเดินป่า ปีนเขา การดำนำ จะเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น เนื่องจากกิจกรรมเหล่านี้เป็นการท่องเที่ยวที่มีผู้คนจำนวนไม่มาก ทำให้ความเสี่ยงด้านการเกิดโรคภัยไข้เจ็บจะลดน้อยตามไปด้วย

4.ท่องเที่ยวด้วยตัวเองมากขึ้น

การเที่ยวแบบกลุ่มทัวร์จะลดน้อยลง นักท่องเที่ยวจะหันมาท่องเที่ยวด้วยตัวเองมากขึ้น หรือเลือกที่จะเดินทางเป็นกลุ่มเล็กๆ ไปกับเพื่อนหรือครอบครัว เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรค ซึ่งการจัดทริปแบบส่วนตัวได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากในหลายประเทศ

5.รถยนต์ส่วนตัวคือทางเลือกหลักในการเดินทาง

วิธีการเดินทางจึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการจัดทริปเที่ยว การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะอย่าง รถบัสหรือรถไฟ จะน้อยลง ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวจะเพิ่มมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงด้วยวิธีการเว้นระยะห่างในสังคม ดังนั้นรูปแบบการเดินทางจึงเป็นปัจจัยสำคัญ ในการเลือกสถานที่ท่องเที่ยว การเช่ารถขับเที่ยวชื่นชมชนบทสองข้างทาง แบบ Road trip จะเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ การเตรียมพร้อมด้านสาธารณสุขก็ยังถือเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับและรักษาผู้ป่วยที่เพียงพอ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว ในการสามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาตามมาตรการเปิดประเทศ เพื่อพื้นฟูธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศให้ฟื้นตัวได้อย่างมั่นคงต่อไป