ข้อมูลจากรายงาน Digital 2020 กรกฎาคม Global Statshot ซึ่งจัดทำโดยความร่วมมือกับ We Are Social และ Hootsuite
ระบุว่า ผลจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 และมาตรการล็อดดาวน์ ทำให้ปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วโลกเติบโตขึ้นมากถึง
30 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ ซึ่งปัจจุบันผู้คน 4.57 พันล้านคนทั่วโลกใช้อินเทอร์เน็ตคิดเป็นเกือบ
60 เปอร์เซ็นต์ของประชากรโลก
ขณะที่บริบทของประเทศไทย โดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ร่วมกับสถาบันไอเอ็มซี ที่เผยผลสำรวจมูลค่าดิจิทัลคอนเทนต์ และบิ๊กดาต้าของปี 2561-2562 ในประเทศไทย โดยครอบคลุมสามสาขาหลักได้แก่ อุตสาหกรรมแอนิเมชัน อุตสาหกรรมเกม และอุตสาหกรรมคาแรคเตอร์ และบิ๊กดาต้า โดยภาพรวมอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนท์ไทยปี 2562 มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 11.51% คิดเป็นมูลค่าอุตสาหกรรม 31,080 ล้านบาท สูงขึ้นกว่าปี 2561 ที่ 27,873 ล้านบาท
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ดร.กษิติธร ภูภราดัย รองผู้อำนวยการใหญ่ (กลุ่มยุทธศาสตร์และบริหาร)
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า และสถาบันไอเอ็มซี กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้อุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนท์ไทยปีก่อนเติบโต
มาจากตลาดเกมที่มีอัตราการขยายตัวสูงที่สุดที่ 15.96% คิดเป็นมูลค่า 25,440 ล้านบาท
ซึ่งมีปัจจัยหนุนมาจากการเปิดตัวเกมใหม่ของผู้ประกอบการไทย
และคนไทยนิยมเล่นเกมไทยมากขึ้น
ประกอบกับสมาร์ทโฟนรุ่นพื้นฐานมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและจูงใจต่อการเล่นเกม
ขณะที่ตลาดแอนิเมชันหดตัวเฉลี่ย 6.53% มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 3,494
ล้านบาท
เนื่องจากความนิยมของประชาชนที่เปลี่ยนจากการชมเพย์ทีวีและฟรีทีวีในประเทศไปเป็นสตรีมมิงต่างประเทศ
ซึ่งสถิติรายได้จากบริการสตรีมมิงบางส่วนไม่ถูกรวมในการสำรวจ
เช่นเดียวกับตลาดคาแรคเตอร์ที่หดตัว 2.32% มีมูลค่ารวม 2,146 ล้านบาท
โดยปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อตลาดคาแรคเตอร์
มาจากความนิยมสติ๊กเกอร์ LINE ลดลง
ขณะที่อัตราการจ้างงานจากต่างประเทศหดตัวลงเล็กน้อยต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า
ส่วนรายได้จากผู้จัดจำหน่าย ผู้นำเข้า และผู้ดูแลลิขสิทธิ์หดตัว
เพราะผลพวงทางเศรษฐกิจและการบริโภคสินค้าที่มีแบรนด์คาแรคเตอร์ลดลง
ในส่วนของอุตสาหกรรมบิ๊กดาต้าไทยปี 2562 พบว่ามีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 8.64% คิดเป็นมูลค่า 13,177 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 12,129 ล้านบาทในปี 2561
โดยตลาดที่มีเม็ดเงินสะพัดมากที่สุดคือ ส่วนบริการ และส่วนซอฟท์แวร์และฮาร์ดแวร์
5G ดันดิจิทัลคอนเทนต์และบิ๊กดาต้าโตต่อเนื่อง
รศ.ดร.ธนชาติ นุ่มนนท์ ผู้อำนวยการสถาบันไอเอ็มซี คาดการณ์ว่า ปี 2563 การให้บริการบนคลื่นความถี่ 5G และการใช้งานอินเตอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลให้อุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทยและบิ๊กดาต้าเติบโตต่อเนื่อง
โดยประเมินว่าปี 2563 อุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์จะขยายตัวขึ้นอีก
10.1% คิดเป็นมูลค่าอุตสาหกรรมรวม 34,229 ล้านบาท
โดยมีปัจจัยหนุนมาจากตลาดเกมที่คาดว่ามีอัตราการเติบโตสูงขึ้นมากในช่วงของวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด 19) ในทางกลับกันการผลิตภาพยนตร์แอนิเมชันในนี้ต้องหยุดชะงักไป
คาดว่าส่งผลให้ตลาดแอนิเมชันมีแนวโน้มจะหดตัวเพิ่มขึ้น
เช่นเดียวกับความนิยมการบริโภคสติ๊กเกอร์
LINE ในตลาดคาแรคเตอร์เริ่มลดลง
แต่โดยรวมยังคาดการณ์ว่า อุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทยจะยังคงเติบโตต่อเนื่องอีก 2 ปี โดยมูลค่าอุตสาหกรรมจะอยู่ที่ 45,094
ล้านบาทในปี 2565
ดร.กษิติธร ได้กล่าวเสริมว่า จากผลการสำรวจสถานภาพและคาดการณ์ดังกล่าว ทำให้ ‘ดีป้า’
ต้องเร่งทบทวนนโยบายและมาตรการสนับสนุน เพื่อให้ประเทศไทยเกิดการต่อยอดพัฒนาระบบนิเวศของอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์
โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเกมให้มีพื้นที่เหมาะสมและสร้างสรรค์ต่อผู้พัฒนาเกม (game
developer) เพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดจากประเทศพัฒนาเกมชั้นนำ เช่น
เกาหลี จีน ซึ่งมีการพัฒนาอุตสาหกรรมเกมให้ก้าวหน้าและเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดโลก
ส่วนอุตสาหกรรมบิ๊กดาต้าปี 2563 จะขยายตัวจากการเข้าสู่ยุคแห่งการวิเคราะห์ข้อมูล
ซึ่งทุกภาคส่วนเล็งเห็นประโยชน์ในการใช้บิ๊กดาต้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
นอกจากนี้ยังมีทางเลือกให้ใช้บริการแบบเช่าใช้ ทำให้ง่ายต่อการตัดสินใจลงทุน
ทั้งนี้ ‘ดีป้า’ กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา Digital Pulse ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลทั้งดัชนีชี้วัดระดับสากล และฐานข้อมูลที่สำรวจเอง ทั้งในฝั่งของผู้ประกอบการที่จะเป็นฐานข้อมูลและแนวโน้มอุตสาหกรรมดิจิทัล และความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัลที่สำรวจและนำเสนอผลรายไตรมาส ตลอดจนการสำรวจฝั่งผู้ใช้ในภาคอุตสาหกรรม โดยในระยะแรกโฟกัสที่การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในภาคการผลิตเป็นอันดับแรก และจะขยายผลไปสู่ภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ และบริการต่อไปในอนาคตอันใกล้