ใกล้จะสิ้นปี 2021 และโควิด 19
ยังคงเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกธุรกิจต่างยอมรับสถานการณ์ และนำไปสู่การปรับตัวสู่การทำธุรกิจวิถีใหม่
ซึ่งหากมองโดยภาพรวมสามารถกล่าวได้ว่า ตลอดระยะเวลาของการระบาดของไวรัสโควิด 19
ที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายปี 2019 ถึงตอนนี้
ธุรกิจมีความสามารถในการปรับตัวและแข่งขันได้ในระดับหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกยังคงต้องการเวลา
และ SME ในปัจจุบันต่างยังคงค่อยๆ
กลับสู่ภาวะ ‘ปกติ’
ให้ได้เสียก่อน ขณะที่จากรายงานล่าสุดของ Gartner ที่ระบุว่า ความท้าทาย SME จะเผชิญระหว่างการระบาดใหญ่ในปีหน้านั้น
มีประเด็นที่น่าสนใจ ซึ่งอาจจะไม่ใช่เป็นเรื่องใหม่นัก
แต่ดูเหมือนว่าปัญหาเหล่านี้เริ่มทวีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในปีหน้า
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
1. การเปลี่ยนผ่านสู่โลกดิจิทัลอย่างแท้จริง
: ในขณะที่ธุรกิจขนาดใหญ่มีการปรับตัวไปสู่การทำงานแบบยืดหยุ่นมากขึ้น
และทำงานได้มีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากขึ้น ขณะที่ SME ที่เริ่มปรับบทบาทไปสู่องค์กรดิจิทัลมากขึ้น
แต่อาจจะยังไม่ได้มุ่งสู่การเปลี่ยนผ่านไปสู่องค์กรดิจิทัลที่มีการนำเทคโนโลยีมาเพิ่มประสิทธิภาพงาน
การให้บริการ และการส่งเสริมความรู้ด้านเทคโนโลยีให้กับพนังงานในส่วนที่มีความจำเป็นอยู่เสมอ
จะทำให้ธุรกิจสามารถปรับตัวและแข่งขันได้ เพราะจากแนวโน้มที่ทุกสำนักวิเคราะห์ไว้
ในปีหน้าโลกเสมือน หรือโลกดิจิทัลจะมีบืบาทสำคัญต่อทุกธุรกิจ
2.ความยากลำบากในการวางแผนในอนาคต
: ปัจจัยด้านการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ยังเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ยาก
ตลอดจนกฎระเบียนและเหตุการณ์ทีมักเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และที่สำคัญเปลี่ยนเร็ว
ด้วยเหตุนี้ SME จะประสบกับปัญหาการวางแผนงานในอนาคต
เพราะยังไม่สามารถกำหนดทิศทางหรือเป้าหมายด้านการตลาดที่ชัดเจนได้เหมือนเมื่อก่อน
ด้วยเหตุนี้การปรับแผนที่ยืดหยุ่น และการทำแผนรับมือในเหตุการณ์ไม่ปกติ
จึงยังเป็นสิ่งจำเป็นที่ SME
ยังต้องทำต่อไปในปี
2022
3.ความเหนื่อยหน่ายของบุคลากรเพิ่มขึ้น
: แรงงานอาจจะหาได้ยากขึ้น และบุคลากรที่สำคัญธุรกิจอาจจะรั้งไว้ไม่ได้
เพราะด้วยสภาพสังคมท่ามกลางการระบาดของโควิด 19
ความเบื่อหน่ายในการต้องระมัดระวังป้องกันโรค
หรือแม้กระทั้งการเหนื่อยหน่ายกับงานที่ทำ
จะเป็นเรื่องสำคัญที่อาจจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจ SME ดังนั้น
การสร้างแรงจูงใจให้กับบุคลากร การสร้างหลักประกันที่ปลอดภัย และเข้าใจปัญหา
จะทำให้ SME บรรเทาปัญหาเหล่านี้ได้
4.ต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น
: เนื่องจากผลกระทบของ COVID-19
ต่อราคาค่าขนส่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้วยเหตุนี้ SME ในปีหน้าจะต้องเผชิญกับเรื่องของต้นทุนแทบทุกด้านจะเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานยังส่งผลกระทบต่อการผลิตทั่วโลก
ส่งผลให้ใช้เวลาจัดส่งนานขึ้นและการขาดแคลนสินค้ามีแนวโน้มอย่างมากที่จะเกิดขึ้นอีก
5.ข้อมูลล้นระบบ : เราทราบดีว่า SME ให้ความสำคัญกับเรื่อง Big Data หรือข้อมูลธุรกิจ ซึ่งสามารถนำไปพัฒนาเป็นกลยุทธ์ในด้านต่างๆ ได้ ขณะเดียวกัน ต้องไม่ลืมว่า การจัดเก็บข้อมูลและการสร้างระบบข้อมูลเพื่อให้เกิดการจัดเก็บและสืบค้น ตลอดจนการนำมาวิเคราะห์นั้นล้วนมีค่าใช้จ่าย ดังนั้น ข้อมูลที่เพิ่มขึ้น พื้นที่จัดเก็บที่เพิ่มขึ้นย่อมนำมาซึ่งค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้นด้วย ดังนั้น ปัญหานี้ แก้โดยการสังคายนาข้อมูล ซึ่งธุรกิจจะต้องเลือกเก็บข้อมูลที่เป็นประโยชน์ หรือสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้เท่านั้น ซึ่งอาจจะต้องผ่านการวิเคราะห์และรวบรวมโดยผู้เชี่ยวชาญ แต่ก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ SME จะเผชิญอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ในแง่ของกลยุทธ์ SME ควรดำเนินการทบทวนความเสี่ยงอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน ตลอดจนปัจจัยใดบ้างที่จะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและเตรียมแผนรับมืออย่างเหมาะสม ตลาดจนการดำเนินการเชิงรุกในการลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นให้ได้