ทุกครั้งที่คุณปัสสาวะ หรือที่มักเรียกว่า ‘ฉี่’ เสร็จเรียบร้อย ก่อนกดน้ำชักโคกเคยหันไปมองผลงานของตัวเองบ้างไหม ถ้าคุณสังเกตจะรู้ว่าฉี่ในแต่ละวันอาจมีสีและความใสแตกต่างกันไป นั่นแสดงว่าคุณอาจกำลังมีโรคร้ายแอบแฝงอยู่ในร่างกายโดยไม่รู้ตัว ใช่แล้วสีของฉี่เป็นสัญญาณเตือนให้คุณรู้ว่าตอนนี้สุขภาพดีหรือกำลังป่วยเป็นโรคร้าย
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
เรื่องของฉี่ที่ควรรู้
ปัสสาวะหรือฉี่ คือของเสียที่ไตกรองออกมาจากเลือด
ในคนปกติควรฉี่ประมาณ 4-8 ครั้งต่อวัน และปริมาณฉี่รวมต่อวันจะอยู่ที่ประมาณ 1-2 ลิตร
คนปกติควรกลั้นฉี่ได้ประมาณ 3-4 ชั่วโมง หากฉี่มากกว่านี้ถือว่าบ่อยและอาจมีความผิดปกติ นอกจากนี้แล้วควรสังเกตว่าปริมาณฉี่ควรสอดคล้องกับน้ำที่ดื่มเข้าไปด้วย เช่น เราฉี่ในปริมาณครั้งละน้อยๆ แต่จำนวนครั้งเพิ่มขึ้น
บ่งบอกถึงพยาธิสภาพในกระเพาะปัสสาวะได้เช่นกัน
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องนิ่วหรือมะเร็งในกระเพาะปัสสาวะรวมถึงการติดเชื้อ
ปริมาณฉี่มากหรือน้อยจะขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำที่เราดื่มด้วย สมมุติถ้าเราฉี่จำนวนเพิ่มขึ้นโดยที่เราไม่ได้ดื่มน้ำมาก
เพราะร่างกายกำลังพยายามขับน้ำออกมามากกว่าปกติ เนื่องจากสาเหตุโรคตับ โรคไต หรือโรคหัวใจก็ได้
กลิ่นของฉี่จะแปรตามอาหารที่กินเข้าไป ถ้ากินเนื้อสัตว์มากฉี่จะมีกลิ่นฉุน หรือบางคนที่ดื่มกาแฟมากสังเกตว่าฉี่จะมีกลิ่นคล้ายกาแฟเช่นกัน แต่บางครั้งฉี่ออกมามีกลิ่นฉุนมากกว่าปกติ รวมกับมีอาการแสบขัดในขณะปัสสาวะ
บ่งออกถึงอาการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
เคยไหมที่ฉี่เสร็จแล้วหันไปดูผลงาน ปรากฏว่ามีฟองเกิดขึ้น อย่างเพิ่งตกใจ ประการแรกให้เช็คดูก่อนว่าฟองนั้นอาจเกิดจากน้ำยาที่ใช้ในสุขภัณฑ์ก็ได้
ถ้าไม่ใช่สันนิษฐานว่าคุณอาจเป็นโรคไต เพราะผู้ป่วยกลุ่มนี้จะฉี่ออกมาเป็นฟองอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตามแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจให้แน่ใจดีกว่า เพราะถ้าเจอว่าเป็นโรคไตในระยะเริ่มต้นจะได้รักษาได้ทันที
ดีกว่าปล่อยให้เป็นหนักจนถึงขั้นไตวาย
นอกจากนี้สีของฉี่จะเป็นสัญญาณเตือนภัยบ่งบอกให้เรารู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับสุขภาพร่างกายของเรา
ฉี่ของคนปกติจะเป็นสีเหลืองอ่อนและไม่มีกลิ่น แต่ถ้าฉี่ออกมาเป็นสีอื่นๆ อาจเนื่องจากสารบางตัวที่ผลิตออกมาจากตับ
รวมถึงการกินยาหรือสารอาหารบางชนิด ก็มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสีปัสสาวะได้เช่นกัน
ฉี่ 7 สีเตือนภัย
สีเหลืองอ่อน : ตามปกติแล้ว
ฉี่จะมีสีเหลืองอ่อนจนถึงสีเหลืองเข้มใส ไม่ขุ่น โดยความอ่อนเข้มจะขึ้นอยู่กับปริมาณการดื่มน้ำในแต่ละวัน
หากดื่มน้ำมาก สีปัสสาวะจะเป็นสีเหลืองอ่อน ถ้าดื่มน้ำน้อย
สีปัสสาวะจะเหลืองเข้มใส แต่ถ้าสีฉี่ของคุณนอกเหนือไปจากนี้แล้วละก็
แสดงว่าคุณอาจจะกำลังป่วยเป็นโรคใดโรคหนึ่งอยู่ก็ได้
ฉี่สีเหลืองเข้ม : โดยทั่วไปจะหมายความว่าคุณดื่มน้ำน้อยเกินไป
แต่ถ้ามั่นใจว่าดื่มน้ำมากพอแต่ปัสสาวะยังเป็นสีเหลืองเข้มอยู่
คุณอาจมีโรคไตแฝงมาก็ได้ สังเกตดูถ้ามีอาการตัวเหลืองร่วมด้วย
ก็สามารถหมายถึงภาวะดีซ่านได้
ส่วนปัสสาวะสีเหลืองอ่อนให้สังเกตว่าร่างกายได้รับวิตามินบี 2 มากเกินไปจนต้องขับออกจากร่างกายหรือไม่
ฉี่ไม่มีสี : อย่านึกว่าฉี่ที่ไม่มีสีคือฉี่ที่บ่งบอกถึงสุขภาพที่ดี เพราะถ้าฉี่ใสๆ ไม่มีสี ถ้าเป็นครั้งคราวก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าบ่อยเกินไปแสดงว่าคุณดื่มน้ำในปริมาณมากกว่าปกติ จึงทำให้ระดับเกลือแร่ในร่างกายต่ำเกินไป ในบางกรณีระดับเกลือแร่ที่ต่ำมากอาจทำให้เสียชีวิตได้ ลองลดปริมาณน้ำที่ดื่มลงแล้วสังเกตดู ถ้ายังใสเหมือนเดิมร่างกายของคุณอาจเป็นโรคบางอย่างได้ เช่น โรคเบาหวาน การกินยาขับปัสสาวะ โรคไต เป็นต้น
ฉี่สีส้ม : ถ้าฉี่ออกมาเป็นสีส้มอาจหมายถึง ร่างกายขาดน้ำหรือคุณกำลังมีปัญหาเกี่ยวกับถุงน้ำดีหรือตับ รวมถึงอาจเกิดจากการกินวิตามินบี 2 ในปริมาณมาก ขณะเดียวกันยาบางชนิดก็ทำให้ปัสสาวะเป็นสีส้มได้เช่นกัน
ฉี่สีแดง : ถ้าใครฉี่ออกมาเป็นสีชมพูไปจนถึงสีแดง งานเข้าแล้วค่ะ
เพราะสีแดงนั่นอาจหมายถึงการมีเลือดเจือปนอยู่ในฉี่หรือเป็นสัญญาณของโรคไต
โรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ โรคนิ่วในไต หรือมะเร็งทางเดินปัสสาวะ เนื้องอกหรือมะเร็งที่ไต กระเพาะปัสสาวะหรือต่อมลูกหมาก
รวมถึงการกินอาหารบางชนิดที่เป็นสี
นอกจากนี้ถ้าฉี่เป็นสีชมพูอ่อนและมีตะกอนร่วมด้วย หมายถึงมีกรดยูริคมาก อาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคเก๊าต์
ฉี่สีน้ำตาล : อาจมีสาเหตุเกี่ยวกับโรคที่ทำให้เม็ดเลือดแดงแตก
เช่น โรคธาลัสซีเมีย โรคที่ก่อให้เกิดกล้ามเนื้อสลายตัว ซึ่งก็พบได้จากหลายสาเหตุ
เช่น การใช้ยาหรืออาหารเสริมบางชนิด ออกกำลังกายอย่างหนักหน่วง ภาวะลมแดด
และโรคที่เกิดความผิดปกติของภูมิคุ้มกันที่ไปทำลายตัวกรองที่ไต ทำให้เส้นเลือดที่ไตทำการกรองผิดปกติ
มีเลือดหลุดเข้ามาในปัสสาวะได้
ฉี่สีขาวขุ่น : พบได้ในคนที่ดื่มนมปริมาณมาก จนทำให้เกิดผลึกของฟอสเฟตหรือเกิดจากโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
เช่น โรคกรวยอักเสบ โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ รวมถึงอาจเกิดจากการมีน้ำเหลืองปนอยู่ในปัสสาวะหรือการกินโปรตีนมากเกินไปร่างกาย
อย่างไรก็ตามถ้าสังเกตเห็นสีของฉี่ผิดปกติควรรีบไปพบแพทย์จะดีที่สุด เพราะถ้ามีโรคแอบแฝงจะได้รักษาได้ทันท่วงที