ส่อง 10 เทรนด์อาหารเมกาปี 65 เพื่อคว้าโอกาสรุกตลาดมะกัน

Whole Foods Market ซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ ซึ่งมีชื่อเสียงสำหรับสินค้าแนวธรรมชาติและอินทรีย์มานานกว่า 40 ปี ได้เปิดเผยรายงาน Food Trend Report ฉบับล่าสุด ซึ่งจัดทำโดยคณะกรรมการ Trend Council ที่ประกอบไปด้วยผู้ทรงคุณวุฒิและผู้มีประสบการณ์ด้านเทรนด์ตลาด การจัดซื้อสินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านการปรุงอาหาร ได้คาดการณ์แนวโน้ม 10 เทรนด์อาหารยอดนิยมของสหรัฐอเมริกา ในปี 2022 ไว้ดังต่อไปนี้

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

1. เทรนด์บริโภคพืชผักปลูกในร่ม (Ultra-Urban Farming)

พืชผัก สมุนไพรที่มาจากการเพาะปลูกในที่ร่ม (indoor) หรือการปลูกในระบบกรีนเฮาส์ ด้วยนวัตกรรมและระบบที่มีความยั่งยืนจะเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น ซึ่งห้าง Whole Foods ประสบผลสำเร็จในปี 2013 เมื่อทำการเพาะปลูกพืชผักในอาคารของห้างฯ

2. เทรนด์รสชาติเปรี้ยวของส้มยูซุ (Yuzu)

สินค้าเครื่องดื่ม และน้ำสลัด จะมีรสชาติเปรี้ยวคล้ายกับรสชาติของส้มยูซุจากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีน คาดว่าในปีหน้า จะว่าพบรสชาติเปรี้ยวแบบยูซุมากขึ้นในน้ำสลัด (Vinaigrette) เครื่องดื่ม Hard Seltzer (เครื่องดื่มแฮลกอฮอล์ผสมน้ำโซดาและรสชาติของผลไม้) น้ำสลัดชนิดข้น (Mayo) และผลิตภัณฑ์อื่นๆ

3. เทรนด์การลดบริโภคเนื้อ (Reducetarianism)

เทรนด์ของผู้บริโภคในการลดการบริโภคเนื้อสัตว์ผลิตภัณฑ์นมไข่ ด้วยการให้ความสำคัญต่อการมีสุขภาพที่ดี อาหารโปรตีนจากพืชจะได้รับความนิยมแพร่หลายมากขึ้น

4. เทรนด์ดอกชบาหรือกระเจี๊ยบ (Hibiscus)

จากที่เคยเป็นเฉพาะส่วนผสมเครื่องดื่มเพราะอุดมไปด้วยวิตามินซี เทรนด์ใหม่ได้ยกระดับดอกชบา - ดอกกระเจี๊ยบนำไปเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์สินค้าตัวอื่นๆ เช่น Yogurt, Fruit Spread, Craft Beverage (เครื่องดื่มที่ใช้ความพิถีพิถันและมีเอกลักษณ์)

5. เทรนด์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (Booze-free-drinks)

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังคงได้รับความนิยมบริโภคในกลุ่มผู้บริโภคกลุ่ม Millennials และ Gen Z สืบเนื่องตั้งแต่มาตรการล็อกดาวน์ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด 19 ซึ่งส่งผลให้การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้รับความนิยมสูง

6. เทรนด์ธัญพืช (Grains that gives back)

สินค้าธัญพืชหรือเป็นผลิตภัณฑ์จากธัญพืช เช่น ข้าวโอ๊ต ข้าวโพด ข้าวเจ้า ซีเรียล จะกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง

7. เทรนด์เมล็ดทานตะวัน

จะถูกนำไปใช้ในขนมขบเคี้ยว ขนมปังกรอบ (Cracker) ไปจนถึงไอศกรีม ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเมล็ดทานตะวันล้วน ไม่มีส่วนผสมของถั่วชนิดอื่นๆ จัดเป็นขนมขบเคี้ยวที่มีความปลอดภัยจากโรคภูมิแพ้ จึงเหมาะสำหรับเด็กๆ พกพาไปรับประทานที่โรงเรียน

8. เทรนด์มะรุม (Moringa’s moment)

มะรุม จากพืชสมุนไพรที่ใช้ในการรักษาโรคในประเทศอินเดียและแอฟริกา สหรัฐอเมริกาได้นำ สรรพคุณของมะรุมไปผลิตในรูปผงนำไปผสมในเครื่องดื่มสมูทตี้ ซอส อาหารอบ (Baked Goods) ขนมหวานแช่แข็ง โปรตีนแท่ง (Protein Bars) ธัญพืชในบรรจุภัณฑ์

9. เทรนด์น้ำอัดลมเพื่อสุขภาพ (Functional Fizz)

เครื่องดื่มน้ำอัดลม มีสารเสริมชีวนะ - จุลินทรีย์ (Probiotic) และพืชผัก (Botanical) โดยรักษาปริมาณน้ำตาลในเครื่องดื่มในระดับต่ำ

10. เทรนด์ขมิ้น (Turmeric)

ขมิ้นส่วนใหญ่รู้จักในรูปผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ในปีหน้าจะพบว่าขมิ้นจะถูกนำไปเป็นส่วนผสมในการผลิตอาหารสำเร็จรูปมากขึ้น รวมทั้งซีเรียล ไอศกรีม และแซนวิชที่ทำจากโปรตีนพืช

เทรนด์สินค้าเป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการสินค้าอาหารไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้จัดจำหน่าย หรือค้าส่งสินค้าอาหารในสหรัฐฯ ให้ความสนใจและติดตามเทรนด์ตลาด เพื่อเป็นแนวทางนำสินค้ามาจำหน่าย ผู้ผลิตต้องการสินค้าเพื่อมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิต ผู้นำเข้าต้องการนำมาขายให้แก่ลูกค้า หรืออาจจะขายให้แก่ห้าง Whole Foods Market เป็นต้น ดังนั้นการตามเทรนด์ตลาดจะช่วยในด้านการเพิ่มยอดขายของผู้ประกอบการได้ 

เข้าใจเทรนด์สหรัฐฯ เห็นโอกาสสินค้าไทย

เทรนด์เป็นเครื่องชี้ถึงความต้องการสินค้า และเป็นโอกาสในการเพิ่มมูลค่าการส่งออกสินค้าตามเทรนด์ให้แก่ผู้ผลิต - ส่งออกไทย สินค้าไทยที่มีลู่ทางขยายตลาดตามเทรนด์อาหารในสหรัฐฯ ได้แก่ มะรุมแปรรูป สแน็กบาร์ผสมมะรุม เครื่องเทศมะรุม ชาดอกชบา อาหารโปรตีนจากพืช เมล็ดทานตะวัน ธัญพืช (ลูกเดือย เมล็ดเจีย ข้าวสารชนิดต่างๆ และ ผลิตภัณฑ์ทำจากข้าว) ขมิ้น และอาหารสำเร็จรูปมีส่วนผสมเป็นขมิ้น และเครื่องดื่มน้ำผลไม้มีน้ำตาลระดับต่ำ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีสินค้าอาหารชนิดอื่นๆ ที่ประยุกต์จากสินค้าเทรนด์ข้างต้น

สำหรับผู้ผลิต - ส่งออกไทยที่สนใจขยายตลาดสินค้าไปสหรัฐฯ ควรพิจารณาวางแผนการผลิตและการตลาด รวมไปถึงการสร้าง Network และการไปเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในสหรัฐฯ ให้รอบด้าน เพื่อการนำเสนอสินค้าตามเทรนด์ที่กล่าวถึงให้แก่ผู้นำเข้าในสหรัฐอเมริกา เป็นอีกหนึ่งช่องทางสร้างรายได้ให้กับธุรกิจยุคโควิด 19

แหล่งอ้างอิง : สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครชิคาโก

https://media.wholefoodsmarket.com/