ทัวร์วัคซีน...เที่ยวเชิงการแพทย์ อีกทางรอดฟื้นท่องเที่ยว
หลายประเทศเดินเครื่องฉีดวัคซีนโควิดสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ทั่วประเทศ จนคลายล็อกให้อิสรภาพกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ อาทิ อิสราเอล ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกาบางรัฐ ที่รัฐบาลยกเลิกสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่สาธารณะ ทำให้ทุกคนสามารถที่จะใช้ชีวิตนอกบ้านได้อย่างเสรี ส่วนอีกหลายประเทศใช้โอกาสนี้ในการจัดทำแผนการตลาดดึงดูดนักท่องเที่ยว ด้วยการทำแพ็กเกจดึงลูกค้าบินลัดฟ้าไปฉีดวัคซีนที่ประเทศเหล่านั้น ทำให้เกิดธุรกิจท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “ทัวร์วัคซีน”
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
แนวคิด Vaccine
Tourism หรือ การท่องเที่ยวเพื่อฉีดวัคซีน นับเป็นนิมิตรใหม่ของการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และคำว่า
“ทัวร์วัคซีน” กลายเป็นที่สนใจต่อสาธารณชนขึ้นมาครั้งแรก เมื่อเดือนธันวาคม 2020 หลังจากบริษัททัวร์ในอินเดียเสนอแพ็กเกจสำหรับลูกค้าที่ต้องการเดินทางไปฉีดวัคซีโควิด
19 ตามที่บางประเทศมีนโยบายเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไปฉีดวัคซีนฟรี
เนื่องจากบรรดาประเทศนั้นๆ ได้ฉีดวัคซีนให้กับประชากรจนสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ทั้งประเทศแล้ว
แต่ยังมีวัคซีนเหลือเพียงพอสำหรับชาวต่างชาติ จึงทำแผนเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาเที่ยวฉีดวัคซีนฟรีหวังช่วยกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวดีเหมือนเดิม
ปัจจุบันมีหลายประเทศประเทศอ้าแขนรับนักท่องเที่ยวอยากเข้าไปฉีดวัคซีนโควิดด้วย
ซึ่งนโยบายดังกล่าวไม่เพียงแต่จะเป็นอีกทางรอดของภาคการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว
ยังปลุกบริษัททัวร์กลับมาคึกคักตามไปด้วย ซึ่งแต่ละรายต่างจัดทำแพ็กเกจท่องเที่ยวราคาพิเศษ
เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวไปฉีดวัคซีนต่างแดน เช่นกันเดียวกับบริษัททัวร์ของประเทศไทยก็เตรียมจัดแพ็กเกจ
เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวไปฉีดวัคซีนพร้อมกับท่องเที่ยวไปในตัว ซึ่งได้รับความสนใจจากกรุ๊ปทัวร์กระเป๋าหนักอย่างล้นหลาม
เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนวัคซีน ทำให้กลุ่มนี้มีจำนวนไม่น้อยพยายามดิ้นรนเพื่อให้ได้รับฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเองและคนในครอบครัว
ขณะเดียวกันบริษัทไทยที่เตรียมทำ “ทัวร์วัคซีน” นั้น
สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ยืนยันว่าสามารถดำเนินธุรกิจได้
ไม่ขัดต่อ พ.ร.บ.ธุรกิจท่องเที่ยวแต่อย่างใด
ประเทศไหนบ้างที่เปิดรับทัวร์วัคซีนต่างชาติ
สหรัฐอเมริกา
จุดมุ่งหมายอันดับต้นๆ ที่บริษัททัวร์ทั้งต่างชาติและไทยเสนอแพ็กเกจ
“ทัวร์วัคซีน” ต่อลูกค้า สนนราคาหลักหลายแสนบาทต่อคน คงหนีไม่พ้นประเทศสหรัฐอเมริกาที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกเดินทางไปฉีดวัคซีนได้
ซึ่งแต่ละรัฐก็มีเงื่อนไขแตกต่างกันไป แต่สำหรับรัฐอะลาสกา ถือเป็นรัฐแรกที่มีนโยบายฉีดวัคซีนโควิดให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติฟรี
ภายหลังประชากรในรัฐมากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ได้รับวัคซีนไฟเซอร์และโมเดอร์นา สร้างภูมิคุ้มกันหมู่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนต่างชาติที่บินไปยังรัฐอะลาสกา หากลงที่สนามบิน 4 แห่งในเมืองก็จะได้รับฉีดวัคซีนภายในสนามบินทันที
โดยกิจกรรมนี้ได้เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2021 ที่ผ่านมา
มัลดีฟส์
สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลก
ก็ประกาศโครงการฉีดวัคซีนโควิดให้กับนักท่องเที่ยวฟรีเช่นกัน ภายใต้แนวคิด 3V ได้แก่ Visit, Vaccinate และ Vacation
หลังประชากรเกินครึ่งของประเทศได้รับวัคซีนเข็มแรกไปแล้ว ส่วนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยวมากกว่า
90 เปอร์เซ็นต์ก็ได้รับวัคซีนโควิดเช่นกัน ซึ่งมัลดีฟส์นั้นตั้งเป้าไว้ว่านโยบายนี้จะดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกเดินทางมาท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า
1.5 ล้านคนภายในปีนี้
เมืองดูไบ
เมืองใหญ่ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามาฉีดวัคซีนจากทุกประเทศ
ยกเว้นนักท่องเที่ยวที่มาจากแอฟริกาใต้ ไนจีเรีย และอินเดีย
ที่สำคัญนักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องนำผลการทดสอบโควิดที่เป็นลบไม่เกิน 72
ชั่วโมงก่อนเดินทางไปด้วย
มอริเชียส
สาธารณรัฐมอริเชียส
อยู่ทางฝั่งตะวันตกของมหาสมุทรอินเดีย ตั้งอยู่ในทวีปแอฟริกา สำหรับผู้ที่ยื่นขอวีซ่าระยะยาวและมีอายุมากกว่า
18 ปี จะได้รับอนุญาตให้ท่องเที่ยวได้ 1 ปี และได้สิทธิ์รับวัคซีนฟรี
เซอร์เบีย
นับเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนให้ประชากรในประเทศสูงเป็นอันดับต้นๆ
ของยุโรป ด้วยความหลากหลายของวัคซีน เช่น สปุตนิก ไฟว์,
ไฟเซอร์, โมเดอร์นา, ซิโนฟาร์ม
และแอสตราเซเนกา เป็นต้น หลังฉีดสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ประชากรทั้งประเทศแล้ว ทางรัฐบาลเซอร์เบียได้เสนอให้วัคซีนแก่ชาวต่างชาติเพื่อกระตุ้นท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ
บริษัททัวร์นอร์เวย์รายแรกของโลกเปิดจองแพ็กเกจฉีดวัคซีน-ท่องเที่ยว
แม้ว่าบริษัทในอินเดียเป็นรายแรกที่มีแนวคิดจัดทัวร์วัคซีนไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ
แต่ต้องยกเลิกเนื่องจากถูกประเทศปลายทางประกาศห้ามเข้าประเทศ ผลพวงจากอินเดียเผชิญกับการแพร่ระบาดโควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่
“เบงกอล” หรือทั่วโลกเรียก “สายพันธุ์อินเดีย” แต่บริษัททัวร์เอกชนชื่อ World
Visitor ของประเทศนอร์เวย์ ถือว่าเป็นรายแรกที่ประสบความสำเร็จ ได้จัดทัวร์ไปฉีดวัคซีนสปุตนิก
ไฟว์ ที่รัสเซีย
โดยมี 3 แพ็กเกจให้เลือกไม่ว่าจะเป็นแพ็กเกจราคา
1,199 ยูโร ที่ลูกค้าสามารถเดินทางได้สองเที่ยวสำหรับวัคซีนสองโดส, แพ็กเกจ
2,999 ยูโร ให้ลูกค้าได้พักผ่อนที่รีสอร์ทเพื่อสุขภาพสุดหรู
22 วัน ซึ่งจะได้รับวัคซีนตั้งแต่เริ่มและจบทริป หรือแพ็กเกจที่ 3
คือไปพักสปาในตุรกี และจะแวะพักที่สนามบินมอสโก
พร้อมกับพักผ่อนอยู่ในรีสอร์ตหรูตลอดทั้งทริป
ส่วนบริษัทจากชาติยุโรปหลายรายก็กำลังเตรียมแผนเดินหน้านำเสนอแพ็กเกจพาลูกค้าไปฉีดวัคซีนในประเทศที่เปิดรับต่างชาติ
บริษัททัวร์วัคซีนของไทยจัดแพ็กเกจ
“เที่ยวไป..ฉีดไป”
หลังธุรกิจท่องเที่ยวของไทยตายสนิทมา 2 ปี
ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยอย่างหนัก แต่เมื่อหลายประเทศทยอยฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันหมู่
ทำให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยประเภทเอาต์บาวน์ หรือทัวร์คนไทยไปเที่ยวต่างประเทศ
สบโอกาสจัดทัวร์วัคซีนไปยังประเทศที่เปิดรับนักท่องเที่ยวพร้อมฉีดวัคซีนฟรี
สำหรับบริษัททัวร์เอาต์บาวน์ชั้นนำของไทยไม่ว่าเป็น ‘บริษัทยูนิไทย’ โฮลเซลรายใหญ่จัดแพ็กเกจ
‘เที่ยวไป…ฉีดไป’ อเมริกา-เซอร์เบีย ราคาเริ่มต้น 67,500 บาท ต่อคน
(ไม่รวมตั๋วเครื่องบินไป-กลับ) เช่นเดียวกับ ‘มาย เจอร์นี่’ จัดโปรแกรม ‘USA
ชิม ช๊อป ฉีด..’ ราคาเริ่มต้น 76,000 บาท ต่อคน
จนเกิดเป็นกระแสฮือฮาและได้รับการตอบรับจากผู้สนใจจำนวนมาก
การทำทัวร์วัคซีนในความคิดเห็นของ คุณสุทธิพงศ์
เผื่อนพิภพ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) มองว่า ทำได้ไม่ผิดกฎหมาย แต่ต้องระวังเรื่องการโฆษณาและห้ามใช้คำว่า
‘วัคซีน’ เพราะอาจสุ่มเสี่ยงต่อการโดนฟ้องร้อง หรือโฆษณาเกินจริง และควรไปใช้คำว่า
‘ทัวร์สุขภาพ’ มากกว่า
พร้อมกับเน้นย้ำว่าควรปฏิบัติตาม พ.ร.บ.
ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.
2559 แต่ก็เตือนลูกทัวร์ว่าผู้ที่คิดจะซื้อทัวร์วัคซีนนั้นต้องท่องถาคา
‘มีเงินก็ต้องมีสติ’ เพราะลูกค้าจะเป็นคนแบกรับความเสี่ยงเกือบทั้งหมด ส่วนผู้ประกอบการก็ควรจะมี
‘จรรยาบรรณ’ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการฟ้องร้องกันตามมาภายหลัง
ทัวร์วัคซีนเป็นแนวคิดใหม่ของการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์
ที่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติได้เดินทางเข้ามาฉีดวัคซีนควบคู่กับการท่องเที่ยวไปในตัว
ซึ่งเป็นคำตอบที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยว และฟื้นฟูเศรษฐกิจ ให้กลับมาคึกคักเหมือนในอดีตที่ยังไม่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิดลุกลามทั่วโลก
ขณะที่บริบทของประเทศไทย แม้ในปัจจุบันยังเกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิดระลอกใหม่อย่างต่อเนื่อง
จากเดิมที่เคยเป็นประเทศแถวหน้าในการจัดการโรคระบาด
แต่กระนั้นภายหลังการระบาดชะลอลง
วัคซีนในประเทศถูกฉีดให้แก่ประชาชนในประเทศมากขึ้น
‘ประเทศไทย’ ในฐานะศูนย์กลางในอาเซียน และมีเทคโนโลยีการแพทย์ที่ทันสมัย
โอกาสที่ไทยจะเป็นหนึ่งในประเทศที่มีทัวร์วัคซีนในอนาคตเดินทางเข้ามาก็เป็นไปได้เช่นกัน